“ใจแลกใจ รูปแบบใหม่ดูแลผู้สูงวัยโคราช” ในยุคแห่งกระแสทุนโหมกระหน่ำการพัฒนาของประเทศไทย ได้ส่งผลอย่าง

แม้ขณะนี้ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ว่า "พิธา-ผู้จัดการมรดก กับหุ้น ITV" จะทำให้ดาวรุ่งแคนดิเดตนายกฯ คนนี้หล่นเป็นดาวร่วงได้หรือไม่ และจะซ้ำรอยอดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ถูกตัดส

จากกรณีที่มีกระแสข่🪐าวการปรับแนวทางการดูแลรักษาผู้ป่วย COVID-19 ออกจากภาวะฉุกเฉินวิกฤตรักษาทุกที่ (UCEP)🥇 มาเป็นการรักษาตามสิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพของแต่ละบุคคล นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ระบุว่า การออกประกาศเป็นอำนาจของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการปลด COVID-19 ออกจากภาวะฉุกเฉินตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล แต่หากมีการประกาศออกมา ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่รักษาแล้ว นพ.จเด็จ ระบุอีกว่า หลักการระบบสาธารณสุขของไทย คือ เมื่อเจ็บป่วยจะได้รับการรักษาพยาบาลตามสิทธิที่ตัวเ🌊องมี เช่น สวัสดิการข้าราชการ ประกันสังคม บัตรทอง ฯลฯ และหากมีอาการฉุกเฉิน ผู้ป่วยสามารถเข้ารับบริการในหน่วยบริการที่ใกล้บ้านที่สุดโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นรัฐหรือเอกชน สำหรับกรณีของ COVID-19 นั้นตั้งแต่ปี 2563 กระทรวงสาธารณสุขประกาศว่าการป่วยเป็นโรค COVID-19 ถือเป็นเหตุฉุกเฉิน เนื่องจากในช่วงแรกจนถึงช่วงการระบาดของสายพันธุ์เดลต้า มีความกังวลว่าเมื่อป่วยแล้วเชื้อจะลงปอด 💡ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ จึงต้องประกาศให้เป็นภาวะฉุกเฉินเพื่อให้รีบนำผู้ป่วยเข้าไปรักษาให้เร็วที่สุด ขณะที่สายพันธุ์หลักที่ระบาดในขณะนี้ คือ สายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งผู้ป่วย 80-90% แทบไม่มีอาการ สามารถรักษาตัวที่บ้านในระบบ Home Isolation ได้ หรือมีเวลาเดินทางไปโรงพยาบาล ไม่ได้อยู่ในภาวะฉุกเฉิน ดังนั้น หากมีการประกาศให้โรคนี้ไม่เป็นภาวะฉุกเฉิน ผู้ป่วยก็สามารถไปรับการรักษาพยาบาลได้ตา🍧มระบบปกติ เช่น หากใช้สิทธิบัตรทอง จะมีหน่วยบริการประจำที่ลงทะเบียนไว้ ผู้ป่วยสามารถไปรับบริการได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หรือหากเข้าระบบการดูแลแบบ Home Isolation สปสช.ก็ยังดูแลค่าใช้จ่ายให้slot007 v1เหมือนเดิม นพ.จเด็จ กล่าวอีกว่า ในกรณีเข้ารักษาในโรงพยาบาลเอกชนที่ไม่ได้อยู่ในระบบสุขภาพใดระบบสุขภาพหนึ่ง ในอดีตประชาชนสามารถไปได้เฉพาะในภาวะฉุกเฉินวิกฤต ซึ่งเมื่อโรค COVID-19 ถูกประกาศว่าเป็นภาวะฉุกเฉิน ก็หมายความว่าผู้ป่วยสามารถไปรักษาในโรงพยาบาลประเภทนี้ได้ แต่ห🦕ากต่อจากนี้ไปโรคนี้ไม่ได้ถูกประกาศว่าเป็นภาวะฉุกเฉินแล้ว ขอแนะนำให้ไปรักษาในโรงพยาบาลที่อยู่ในระบบของสิทธิสุขภาพตามระบบปกติ เพราะหากไม่มีอาการฉุกเฉินแล้วไปโรงพยาบาลเอกชนที่อยู่นอกระบบ กองทุนสุขภาพต่าง ๆ จะไม่ได้เข้าไปดูแลค่าใช้จ่ายให้ นพ.จเด็จ ย้ำว่า การจะเข้ารับบริการในโรงพยาบาลเอกชนนั้นให้ดูอาการเป็นหลัก หากป่วยเป็น COVID-19 แล้วมีอาการฉุกเฉินด้วย เช่น มีไข้สูง หายใจไม่สะดวก หอบเหนื่อย ความดันต่ำ ไม่ค่อยรู้สึกตัว รู้สึกจะเป็นลม ก็สามารถเข้าโรงพยาบาลเอกชนที่อยู่นอกระบบได้ด้วยอาการฉุกเฉินวิกฤตนั้น ทางกองทุนสุขภาพของผู้ป่วยรายนั้น ๆ จะตามไปดูแลให้

จากกรณีที่มีกระแสข่าวการปรับแนวทางการดูแลรักษาผู้ป่วย COVID-19 ออกจากภาวะฉุกเฉินวิกฤตรักษาทุกที่ (UCEP) มาเป็นการรักษาตามสิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพของแต่ละบุคคล นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงาน