UID: 81693

ตลาดหุ้นร่วงทั่วโลกจากความกังวลปัญหาหนี้สินในยุโรป ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องทั้งตลาดเ

เมื่อวันที่ 24 ก.ค.2567 นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยถึง สถานการณ์สายพันธุ์โ

ตลาดหุ้นร่วงทั่วโลกจากความกังวลปัญหาหนี้สินในยุโรป ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องทั้งตลาดเอเชียและยุโรป เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินในสหภาพยุโรป ตลาดหุ้นร่วงทั่วโลกจากความกังวลปัญหาหนี้สินในยุโรป ตลาดหุ้นในแถบเอเชียปิดปรับตัวลดลงอย่างหนักทั้งตลาดหลักทรัพย์นิเคอิของญี่ปุ่นปรับตัวลดลง 186.13 จุด คิดเป็นร้อยละ 2.17 อยู่ที่ 8,374.13 จุด เช่นเดียวกับหลักทรัพย์โซล คอมโพสิท ที่ปรับตัวลดลงร้อยละ 2.64 จุด ปิดที่ 1,652.71 จุด ส่วนตลาดหลักทรัพย์ไต้หวันปิดปรับตัวลดลง 169.10 จุด คิดเป็นร้อยละ 2.40 จุด อยู่ที่ 6,977.12 จุด หลักทรัพย์ออสเตรเลียปรับลดลงร้อยละ 1.01 จุด ปิดที่ 3,863.90 จุด ส่วนการซื้อขายช่วงบ่ายตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงปรับตัวลดลงร้อยละ 2.97 ส่วนตลาดเซี่ยงไฮ้ของจีนปรับตัวลดลงแล้ว 1.54 จุด เช่นเดียวกับตลาดหลักทรัพย์ฟิลิปินส์ที่ลดลงร้อยละ 4.24 ซึ่งถือว่าติดลบมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2553 แต่ตลาดหลักทรัพย์ไทยร่วงไปแล้วถึงร้อยละ 8 ส่วนหลักทรัพย์ในประเทศแถบยุโรปที่เริ่มเปิดตลาดแล้วในช่วงบ่ายตามเวลาไทยปรากฏว่าปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงตามการซื้อขายหลักทรัพย์ในเอเชียทั้งตลาดหลักทรัพย์ฟุตซี100 ของอังกฤษที่เปิดตลาดมาก็ปรับลดลงร้อยละ 1.43 ตลาดหลักทรัพย์แด็กซ์ 30 ของเยอรมนีเปิดตลาดปรับลดลงแล้วร้อยละ 1.31 เช่นเดียวกับหลักทรัพย์ฝรั่งเศสที่เปิดตลาดติดลบร้อยละ 1.97 สาเหตุหลักเกิดจากความไม่เชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งปัญหาหนี้สินในยุโรป ที่เกรงว่ากรีซจะผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งจะส่งผลต่อชาติในยูโรโซนเป็นลูกโซ่ ประกอบกับความกังวลเรื่องการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ที่ไม่สู้ดี แม้ว่าที่ประชุมชาติ จี-20 จะออกแถลงการณ์ด่วนเพื่อสร้างควาตาราง บุ น เด ส ลี กา 2019มเชื่อมั่นแก่นักลงทุนก็ตาม ตลาดหุ้นในแถบเอเชียปิดปรับตัวลดลงอย่างหนักทั้งตลาดหลักทรัพย์นิเคอิของญี่ปุ่นปรับตัวลดลง 186.13 จุด คิดเป็นร้อยละ 2.17 อยู่ที่ 8,374.13 จุด เช่นเดียวกับหลักทรัพย์โซล คอมโพสิท ที่ปรับตัวลดลงร้อยละ 2.64 จุด ปิดที่ 1,652.71 จุด ส่วนตลาดหลักทรัพย์ไต้หวันปิดปรับตัวลดลง 169.10 จุด คิดเป็นร้อยละ 2.40 จุด อยู่ที่ 6,977.12 จุด หลักทรัพย์ออสเตรเลียปรับลดลงร้อยละ 1.01 จุด ปิดที่ 3,863.90 จุด ส่วนการซื้อขายช่วงบ่ายตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงปรับตัวลดลงร้อยละ 2.97 ส่วนตลาดเซี่ยงไฮ้ของจีนปรับตัวลดลงแล้ว 1.54 จุด เช่นเดียวกับตลาดหลักทรัพย์ฟิลิปินส์ที่ลดลงร้อยละ 4.24 ซึ่งถือว่าติดลบมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2553 แต่ตลาดหลักทรัพย์ไทยร่วงไปแล้วถึงร้อยละ 8 ส่วนหลักทรัพย์ในประเทศแถบยุโรปที่เริ่มเปิดตลาดแล้วในช่วงบ่ายตามเวลาไทยปรากฏว่าปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงตามการซื้อขายหลักทรัพย์ในเอเชียทั้งตลาดหลักทรัพย์ฟุตซี100 ของอังกฤษที่เปิดตลาดมาก็ปรับลดลงร้อยละ 1.43 ตลาดหลักทรัพย์แด็กซ์ 30 ของเยอรมนีเปิดตลาดปรับลดลงแล้วร้อยละ 1.31 เช่นเดียวกับหลักทรัพย์ฝรั่งเศสที่เปิดตลาดติดลบร้อยละ 1.97 สาเหตุหลักเกิดจากความไม่เชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งปัญหาหนี้สินในยุโรป ที่เกรงว่ากรีซจะผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งจะส่งผลต่อชาติในยูโรโซนเป็นลูกโซ่ ประกอบกับความกังวลเรื่องการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ที่ไม่สู้ดี แม้ว่าที่ประชุมชาติ จี-20 จะออกแถลงการณ์ด่วนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนก็ตาม

ในทุกวิกฤต ไม่ว่าจะเป็นพายุถล่ม วิกฤตเศรษฐกิจ หรือเหตุการณ์ไม่คาดฝัน "การสื่อสารของผู้นำ" คือตัวตัดส