เมื่อวันที่ 20 ต.ค.2565 นพ.สรุโชค ต่างวิวัฒน์ รองเ

วันนี้ (26 ก.ย.2566) ภายหลังจากชุดสืบสวน ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ PCT ชุดที่ 4 ของ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี หัวหน้าชุดปฏิบัติการ PCT
ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่ออาชีพนักบินของสายการบินพาณิชย์ แต่กองทัพอากาศยังคงเดินหน้าผลิตนักบินรบอย่างต่อเนื่อง และสถานการณ์วิกฤตของนักบินพาณิชย์กลับส่งผลเชิงบวกต่อกองทัพอากาศไทยในการป้
เมื่อวันที่ (31 ต.ค.66) นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พบหารือกับเชค มุฮัมมัด บิน อับดุรเราะฮ์มาน บิน ญาสซิม อาล ษานี นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัฐกาตาร์ ที่กรุงโดฮา โดยมี มุฮัมมัด บิน อับดุลอะซีซ อาล คุลัยฟี รัฐมนตรีแห่งรัฐ รัฐกาตาร์ร่วมการหารือด้วย ฝ่ายไทยชื่นชมบทบาทนำและความพยายามอย่างแข็งขันของกาตาร์ในการให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมและการเป็นสื่อกลางไกล่เกลี่ยความขัดแย้งต่าง ๆ อย่างเป็นธรรมในตะวันออกกลางและระหว่างประเทศต่อสถานการณ์ในอิสราเอลและกาซา ทั้ง 2 ฝ่ายสนับสนุนการเจรจาซึ่งจะนำไปสู่ทางออกที่สันติอย่างจริงใจและสร้างสรรค์ระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ และแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียชีวิตและความเสียหายต่อทรัพย์สิน โดยเฉพาะพลเรือนที่บริสุทธิ์ ซึ่งรวมถึงแรงงานไทยที่ส่วข่าว กีฬา ใน ประเทศนใหญ่เป็นเกษตรกรในพื้นที่ด้วย ในโอกาสนี้ ฝ่ายไทยได้ขอรับการสนับสนุนจากกาตาร์เพื่อช่วยให้มีการปล่อยตัวคนไทยและคนชาติอื่นที่ถูกจับเป็นตัวประกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งกาตาร์ยินดีและรับจะช่วยดำเนินการอย่างเต็มที่ โดยกาตาร์ยืนยันว่า คนไทยไม่มีความเกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง และเห็นว่าจะเป็นตัวประกันต่างชาติกลุ่มแรก ๆ ที่ได้รับการปล่อยตัว ทั้งนี้ การสู้รบที่ยังดำรงอยู่ เป็นอุปสรรคสำคัญของการดำเนินการ นอกจากนี้ ทั้ง 2 ฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือทวิภาคี โดยหวังให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงอย่างต่อเนื่อง และพร้อมเพิ่มพลวัตรความสัมพันธ์ในทุกสาขา โดยเฉพาะด้านพลังงาน ความมั่นคงทางอาหาร การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ และการค้าการลงทุน ตลอดจนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาค และประเด็นอื่น ๆ ที่อยู่ในความสนใจร่วมกันด้วย อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง "ปานปรีย์" เผยดีลผู้นำตะวันออกกลางเจรจาช่วยตัวประกัน "ปานปรีย์" เยือนกาตาร์-อียิปต์ หารือช่วยตัวประกันคนไทย
วันนี้ (28 พ.ย.2566) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ชี้แจงว่าเหตุที่ต้องมีการเสนอโยกย้ายในครั้งนี้สื
เมื่อวันที่ (31 ต.ค.66) นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
ท่าทีของ สว.ยังคงไม่ชัดเจนว่าจะสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ หนึ่งในนั้น คือ นา
เมื่อวันที่ (31 ต.ค.66) นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พบหารือกับเชค มุฮัมมัด บิน อับดุรเราะฮ์มาน บิน ญาสซิม อาล ษานี นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัฐกาตาร์ ที่กรุงโดฮา โดยมี มุฮัมมัด บิน อับดุลอะซีซ อาล คุลัยฟี รัฐมนตรีแห่งรัฐ รัฐกาตาร์ร่วมการหารือด้วย ฝ่ายไทยชื่นชมบทบาทนำและความพยายามอย่างแข็งขันของกาตาร์ในการให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมและการเป็นสื่อกลางไกล่เกลี่ยความขัดแย้งต่าง ๆ อย่างเป็นธรรมในตะวันออกกลางและระหว่างประเทศต่อสถานการณ์ในอิสราเอลและกาซา ทั้ง 2 ฝ่ายสนับสนุนการเจรจาซึ่งจะนำไปสู่ทางออกที่สันติอย่างจริงใจและสร้างสรรค์ระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ และแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียชีวิตและความเสียหายต่อทรัพย์สิน โดยเฉพาะพลเรือนที่บริสุทธิ์ ซึ่งรวมถึงแรงงานไทยที่ส่วข่าว กีฬา ใน ประเทศนใหญ่เป็นเกษตรกรในพื้นที่ด้วย ในโอกาสนี้ ฝ่ายไทยได้ขอรับการสนับสนุนจากกาตาร์เพื่อช่วยให้มีการปล่อยตัวคนไทยและคนชาติอื่นที่ถูกจับเป็นตัวประกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งกาตาร์ยินดีและรับจะช่วยดำเนินการอย่างเต็มที่ โดยกาตาร์ยืนยันว่า คนไทยไม่มีความเกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง และเห็นว่าจะเป็นตัวประกันต่างชาติกลุ่มแรก ๆ ที่ได้รับการปล่อยตัว ทั้งนี้ การสู้รบที่ยังดำรงอยู่ เป็นอุปสรรคสำคัญของการดำเนินการ นอกจากนี้ ทั้ง 2 ฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือทวิภาคี โดยหวังให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงอย่างต่อเนื่อง และพร้อมเพิ่มพลวัตรความสัมพันธ์ในทุกสาขา โดยเฉพาะด้านพลังงาน ความมั่นคงทางอาหาร การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ และการค้าการลงทุน ตลอดจนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาค และประเด็นอื่น ๆ ที่อยู่ในความสนใจร่วมกันด้วย อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง "ปานปรีย์" เผยดีลผู้นำตะวันออกกลางเจรจาช่วยตัวประกัน "ปานปรีย์" เยือนกาตาร์-อียิปต์ หารือช่วยตัวประกันคนไทย
วันที่ 24 ก.ค.2566 ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชุดใหญ่ มีมติเอกฉ