JAKARTA — Nilai kerugian keuangan negara dalam ska

วันนี้ (3 ก.ย.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากกรมชลประทาน ปล่อยน้ำลงท้ายเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่ 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อยเพิ่มสูงขึ้นจนล้นตลิ่ง เข้าท่
วิกฤตหนี้ยุโรป ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย เป็นเวลานานกว่า 1 ปีครึ่ง ที่ผู้นำของประเทศสมาชิกยูโรโซนใช้ความพยายามในการแก้ไข และประคับประคองสถานการณ์วิกฤตหนี้ยุโรป ที่มีจุดเริ่มต้นอย่างเป็นทางการที่ประเทศกรีซ
วิกฤตหนี้ยุโรป ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย เป็นเวลานานกว่า 1 ปีครึ่ง ที่ผู้นำของประเทศสมาชิกยูโรโซนใช้ความพยายามในการแก้ไข และประคับประคองสถานการณ์วิกฤตหนี้ยุโรป ที่มีจุดเริ่มต้นอย่างเป็นทางการที่ประเทศกรีซ ซึ่ง ณ เวลานี้ กำลังแบกรับระดับหนี้สาธารณะที่สูงกว่า 160% ของจีดีพี วิกฤตหนี้ยุโรป ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ดูเหมือนกับว่า กองทุนรักษาเสถียรภาพการเงิน333 sbobet moi nhat 2016ยุโรป (EFSF) จะเป็นความหวังล่าสุดสำหรับจัดการกับวิกฤตหนี้สาธารณะที่ยืดเยื้อ ที่ทางการของประเทศสมาชิกยูโรโซนเตรียมจะนำมาใช้ภายในช่วงกลางเดือนตุลาคม 2554 เพื่อสกัดและลดความเสี่ยงของการลุกลามของปัญหาไปยังประเทศสมาชิกยูโรโซนอื่นๆ (นอกเหนือไปจากประเทศกรีซ ไอร์แลนด์ และโปรตุเกส) ควบคู่ไปกับเครื่องมือนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ทั้งนี้ ความไม่แน่นอนของพัฒนาการในด้านลบ-ด้านบวกของวิกฤตหนี้ยุโรปในระยะ 6-12 เดือนข้างหน้า เป็นตัวแปรสำคัญตัวหนึ่งที่ทำให้การประเมินผลกระทบในเชิงเศรษฐกิจมหภาคของไทยมีความไม่แน่นอนตามไปด้วย ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จึงได้ประเมินผลกระทบเบื้องต้นต่อเศรษฐกิจมหภาคของไทยภายใต้สถานการณ์ของวิกฤตหนี้ในยุโรปตามลำดับความรุนแรงของเหตุการณ์ เป็น 2 กรณี ได้แก่ กรณีวิกฤตจำกัดขอบเขต และกรณีวิกฤตลุกลามบานปลาย โดยกรณีสุดขั้วทั้ง 2 ด้าน จะให้ผลที่ค่อนข้างแตกต่างกัน โดยในกรณีที่ผลกระทบเชิงมหภาคของไทยจากกรณีวิกฤตหนี้ยุโรปมีขอบเขตที่จำกัดนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า การส่งออกของไทยในปี 2555 ยังคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงทิศทางการชะลอตัวได้ แต่น่าที่จะสามารถรักษาอัตราการขยายตัวไว้ได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10.0 เศรษฐกิจไทยที่น่าจะได้แรงขับเคลื่อนเพิ่มเติมจากมาตรการสนับสนุนการใช้จ่ายในประเทศและแรงกระตุ้นจากภาครัฐ ก็อาจขยายตัวได้สูงถึงร้อยละ 4.5 ในกรณีที่ดีที่สุด อย่างไรก็ดี หากพัฒนาการของวิกฤตหนี้ยุโรปไม่สามารถจำกัดวงไว้ได้ตามที่ทางการยุโรปคาดหวัง การส่งออกของไทยในปี 2555 อาจต้องเผชิญกับภาวะหดตัวร้อยละ 7.0 ขณะที่ อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยน่าที่จะต่ำลงมาอยู่ที่ประมาณร้อยละ 1.0 เท่านั้น แต่ทั้งนี้ ผลในท้ายที่สุดแล้ว คงต้องขึ้นอยู่กับพัฒนาการของสถานการณ์วิกฤตในระยะข้างหน้า ซึ่งยังคงมีโอกาสพลิกผันได้ ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจะยังคงติดตามและประเมินสถานการณ์ในระยะข้างหน้าต่อไปอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ท่ามกลางภาวะความเสี่ยงในช่วงขาลงของเศรษฐกิจในหลายภูมิภาค โดยเฉพาะเศรษฐกิจที่เป็นแกนสำคัญของโลกอย่างสหรัฐฯ และยุโรป น่าที่จะทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชีย และไทยในปี 2555 ขยายตัวในอัตราที่อ่อนแรงลงตามไปด้วย สำหรับในด้านของผู้ประกอบการของไทย คงต้องเตรียมศึกษาประสบการณ์จากภาวะวิกฤตในช่วงที่ผ่านมา เพื่อเตรียมวางแนวทางและกลยุทธ์ และลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในปี 2555 ทั้งจากความผันผวนของตลาดการเงิน และความอ่อนไหวของสถานะคู่ค้า เพื่อให้สามารถประคับประคองธุรกิจให้ผ่านพ้นมรสุมไปได้อย่างราบรื่นที่สุด ดูเหมือนกับว่า กองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) จะเป็นความหวังล่าสุดสำหรับจัดการกับวิกฤตหนี้สาธารณะที่ยืดเยื้อ ที่ทางการของประเทศสมาชิกยูโรโซนเตรียมจะนำมาใช้ภายในช่วงกลางเดือนตุลาคม 2554 เพื่อสกัดและลดความเสี่ยงของการลุกลามของปัญหาไปยังประเทศสมาชิกยูโรโซนอื่นๆ (นอกเหนือไปจากประเทศกรีซ ไอร์แลนด์ และโปรตุเกส) ควบคู่ไปกับเครื่องมือนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ทั้งนี้ ความไม่แน่นอนของพัฒนาการในด้านลบ-ด้านบวกของวิกฤตหนี้ยุโรปในระยะ 6-12 เดือนข้างหน้า เป็นตัวแปรสำคัญตัวหนึ่งที่ทำให้การประเมินผลกระทบในเชิงเศรษฐกิจมหภาคของไทยมีความไม่แน่นอนตามไปด้วย ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จึงได้ประเมินผลกระทบเบื้องต้นต่อเศรษฐกิจมหภาคของไทยภายใต้สถานการณ์ของวิกฤตหนี้ในยุโรปตามลำดับความรุนแรงของเหตุการณ์ เป็น 2 กรณี ได้แก่ กรณีวิกฤตจำกัดขอบเขต และกรณีวิกฤตลุกลามบานปลาย โดยกรณีสุดขั้วทั้ง 2 ด้าน จะให้ผลที่ค่อนข้างแตกต่างกัน โดยในกรณีที่ผลกระทบเชิงมหภาคของไทยจากกรณีวิกฤตหนี้ยุโรปมีขอบเขตที่จำกัดนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า การส่งออกของไทยในปี 2555 ยังคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงทิศทางการชะลอตัวได้ แต่น่าที่จะสามารถรักษาอัตราการขยายตัวไว้ได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10.0 เศรษฐกิจไทยที่น่าจะได้แรงขับเคลื่อนเพิ่มเติมจากมาตรการสนับสนุนการใช้จ่ายในประเทศและแรงกระตุ้นจากภาครัฐ ก็อาจขยายตัวได้สูงถึงร้อยละ 4.5 ในกรณีที่ดีที่สุด อย่างไรก็ดี หากพัฒนาการของวิกฤตหนี้ยุโรปไม่สามารถจำกัดวงไว้ได้ตามที่ทางการยุโรปคาดหวัง การส่งออกของไทยในปี 2555 อาจต้องเผชิญกับภาวะหดตัวร้อยละ 7.0 ขณะที่ อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยน่าที่จะต่ำลงมาอยู่ที่ประมาณร้อยละ 1.0 เท่านั้น แต่ทั้งนี้ ผลในท้ายที่สุดแล้ว คงต้องขึ้นอยู่กับพัฒนาการของสถานการณ์วิกฤตในระยะข้างหน้า ซึ่งยังคงมีโอกาสพลิกผันได้ ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจะยังคงติดตามและประเมินสถานการณ์ในระยะข้างหน้าต่อไปอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ท่ามกลางภาวะความเสี่ยงในช่วงขาลงของเศรษฐกิจในหลายภูมิภาค โดยเฉพาะเศรษฐกิจที่เป็นแกนสำคัญของโลกอย่างสหรัฐฯ และยุโรป น่าที่จะทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชีย และไทยในปี 2555 ขยายตัวในอัตราที่อ่อนแรงลงตามไปด้วย สำหรับในด้านของผู้ประกอบการของไทย คงต้องเตรียมศึกษาประสบการณ์จากภาวะวิกฤตในช่วงที่ผ่านมา เพื่อเตรียมวางแนวทางและกลยุทธ์ และลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในปี 2555 ทั้งจากความผันผวนของตลาดการเงิน และความอ่อนไหวของสถานะคู่ค้า เพื่อให้สามารถประคับประคองธุรกิจให้ผ่านพ้นมรสุมไปได้อย่างราบรื่นที่สุด
วันนี้ (9 ม.ิ.ย.67) บรรยากาศที่จุดเลือก สว.เขตปทุมวัน จัดขึ้นที่ โซน M HALL ชั้น M เดอะมาร์เก
วันนี้ (3 พ.ย.2567) ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เรียกว่า "หลุดโฟกัส" ในคืนวันที่ 17 มิ.ย.2567 ที่เรือน้ำมันเถื่อนของกลาง เข้าท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสงข
วิกฤตหนี้ยุโรป ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย เป็นเวลานานกว่า 1 ปีครึ่ง ที่ผู้นำของประเทศสมาชิกยูโรโซนใช้ความพยายามในการแก้ไข และประคับประคองสถานการณ์วิกฤตหนี้ยุโรป ที่มีจุดเริ่มต้นอย่างเป็นทางการที่ประเทศกรีซ ซึ่ง ณ เวลานี้ กำลังแบกรับระดับหนี้สาธารณะที่สูงกว่า 160% ของจีดีพี วิกฤตหนี้ยุโรป ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ดูเหมือนกับว่า กองทุนรักษาเสถียรภาพการเงิน333 sbobet moi nhat 2016ยุโรป (EFSF) จะเป็นความหวังล่าสุดสำหรับจัดการกับวิกฤตหนี้สาธารณะที่ยืดเยื้อ ที่ทางการของประเทศสมาชิกยูโรโซนเตรียมจะนำมาใช้ภายในช่วงกลางเดือนตุลาคม 2554 เพื่อสกัดและลดความเสี่ยงของการลุกลามของปัญหาไปยังประเทศสมาชิกยูโรโซนอื่นๆ (นอกเหนือไปจากประเทศกรีซ ไอร์แลนด์ และโปรตุเกส) ควบคู่ไปกับเครื่องมือนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ทั้งนี้ ความไม่แน่นอนของพัฒนาการในด้านลบ-ด้านบวกของวิกฤตหนี้ยุโรปในระยะ 6-12 เดือนข้างหน้า เป็นตัวแปรสำคัญตัวหนึ่งที่ทำให้การประเมินผลกระทบในเชิงเศรษฐกิจมหภาคของไทยมีความไม่แน่นอนตามไปด้วย ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จึงได้ประเมินผลกระทบเบื้องต้นต่อเศรษฐกิจมหภาคของไทยภายใต้สถานการณ์ของวิกฤตหนี้ในยุโรปตามลำดับความรุนแรงของเหตุการณ์ เป็น 2 กรณี ได้แก่ กรณีวิกฤตจำกัดขอบเขต และกรณีวิกฤตลุกลามบานปลาย โดยกรณีสุดขั้วทั้ง 2 ด้าน จะให้ผลที่ค่อนข้างแตกต่างกัน โดยในกรณีที่ผลกระทบเชิงมหภาคของไทยจากกรณีวิกฤตหนี้ยุโรปมีขอบเขตที่จำกัดนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า การส่งออกของไทยในปี 2555 ยังคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงทิศทางการชะลอตัวได้ แต่น่าที่จะสามารถรักษาอัตราการขยายตัวไว้ได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10.0 เศรษฐกิจไทยที่น่าจะได้แรงขับเคลื่อนเพิ่มเติมจากมาตรการสนับสนุนการใช้จ่ายในประเทศและแรงกระตุ้นจากภาครัฐ ก็อาจขยายตัวได้สูงถึงร้อยละ 4.5 ในกรณีที่ดีที่สุด อย่างไรก็ดี หากพัฒนาการของวิกฤตหนี้ยุโรปไม่สามารถจำกัดวงไว้ได้ตามที่ทางการยุโรปคาดหวัง การส่งออกของไทยในปี 2555 อาจต้องเผชิญกับภาวะหดตัวร้อยละ 7.0 ขณะที่ อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยน่าที่จะต่ำลงมาอยู่ที่ประมาณร้อยละ 1.0 เท่านั้น แต่ทั้งนี้ ผลในท้ายที่สุดแล้ว คงต้องขึ้นอยู่กับพัฒนาการของสถานการณ์วิกฤตในระยะข้างหน้า ซึ่งยังคงมีโอกาสพลิกผันได้ ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจะยังคงติดตามและประเมินสถานการณ์ในระยะข้างหน้าต่อไปอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ท่ามกลางภาวะความเสี่ยงในช่วงขาลงของเศรษฐกิจในหลายภูมิภาค โดยเฉพาะเศรษฐกิจที่เป็นแกนสำคัญของโลกอย่างสหรัฐฯ และยุโรป น่าที่จะทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชีย และไทยในปี 2555 ขยายตัวในอัตราที่อ่อนแรงลงตามไปด้วย สำหรับในด้านของผู้ประกอบการของไทย คงต้องเตรียมศึกษาประสบการณ์จากภาวะวิกฤตในช่วงที่ผ่านมา เพื่อเตรียมวางแนวทางและกลยุทธ์ และลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในปี 2555 ทั้งจากความผันผวนของตลาดการเงิน และความอ่อนไหวของสถานะคู่ค้า เพื่อให้สามารถประคับประคองธุรกิจให้ผ่านพ้นมรสุมไปได้อย่างราบรื่นที่สุด ดูเหมือนกับว่า กองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) จะเป็นความหวังล่าสุดสำหรับจัดการกับวิกฤตหนี้สาธารณะที่ยืดเยื้อ ที่ทางการของประเทศสมาชิกยูโรโซนเตรียมจะนำมาใช้ภายในช่วงกลางเดือนตุลาคม 2554 เพื่อสกัดและลดความเสี่ยงของการลุกลามของปัญหาไปยังประเทศสมาชิกยูโรโซนอื่นๆ (นอกเหนือไปจากประเทศกรีซ ไอร์แลนด์ และโปรตุเกส) ควบคู่ไปกับเครื่องมือนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ทั้งนี้ ความไม่แน่นอนของพัฒนาการในด้านลบ-ด้านบวกของวิกฤตหนี้ยุโรปในระยะ 6-12 เดือนข้างหน้า เป็นตัวแปรสำคัญตัวหนึ่งที่ทำให้การประเมินผลกระทบในเชิงเศรษฐกิจมหภาคของไทยมีความไม่แน่นอนตามไปด้วย ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จึงได้ประเมินผลกระทบเบื้องต้นต่อเศรษฐกิจมหภาคของไทยภายใต้สถานการณ์ของวิกฤตหนี้ในยุโรปตามลำดับความรุนแรงของเหตุการณ์ เป็น 2 กรณี ได้แก่ กรณีวิกฤตจำกัดขอบเขต และกรณีวิกฤตลุกลามบานปลาย โดยกรณีสุดขั้วทั้ง 2 ด้าน จะให้ผลที่ค่อนข้างแตกต่างกัน โดยในกรณีที่ผลกระทบเชิงมหภาคของไทยจากกรณีวิกฤตหนี้ยุโรปมีขอบเขตที่จำกัดนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า การส่งออกของไทยในปี 2555 ยังคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงทิศทางการชะลอตัวได้ แต่น่าที่จะสามารถรักษาอัตราการขยายตัวไว้ได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10.0 เศรษฐกิจไทยที่น่าจะได้แรงขับเคลื่อนเพิ่มเติมจากมาตรการสนับสนุนการใช้จ่ายในประเทศและแรงกระตุ้นจากภาครัฐ ก็อาจขยายตัวได้สูงถึงร้อยละ 4.5 ในกรณีที่ดีที่สุด อย่างไรก็ดี หากพัฒนาการของวิกฤตหนี้ยุโรปไม่สามารถจำกัดวงไว้ได้ตามที่ทางการยุโรปคาดหวัง การส่งออกของไทยในปี 2555 อาจต้องเผชิญกับภาวะหดตัวร้อยละ 7.0 ขณะที่ อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยน่าที่จะต่ำลงมาอยู่ที่ประมาณร้อยละ 1.0 เท่านั้น แต่ทั้งนี้ ผลในท้ายที่สุดแล้ว คงต้องขึ้นอยู่กับพัฒนาการของสถานการณ์วิกฤตในระยะข้างหน้า ซึ่งยังคงมีโอกาสพลิกผันได้ ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจะยังคงติดตามและประเมินสถานการณ์ในระยะข้างหน้าต่อไปอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ท่ามกลางภาวะความเสี่ยงในช่วงขาลงของเศรษฐกิจในหลายภูมิภาค โดยเฉพาะเศรษฐกิจที่เป็นแกนสำคัญของโลกอย่างสหรัฐฯ และยุโรป น่าที่จะทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชีย และไทยในปี 2555 ขยายตัวในอัตราที่อ่อนแรงลงตามไปด้วย สำหรับในด้านของผู้ประกอบการของไทย คงต้องเตรียมศึกษาประสบการณ์จากภาวะวิกฤตในช่วงที่ผ่านมา เพื่อเตรียมวางแนวทางและกลยุทธ์ และลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในปี 2555 ทั้งจากความผันผวนของตลาดการเงิน และความอ่อนไหวของสถานะคู่ค้า เพื่อให้สามารถประคับประคองธุรกิจให้ผ่านพ้นมรสุมไปได้อย่างราบรื่นที่สุด
เริ่มขึ้นแล้ว สำหรับการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2021 ครั้งที่ 70 ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองเอลลาธ ประเทศอิสราเอล