วันนี้ (4 พ.ย.2566) เกิดการโจมตีที่ด้านนอกโรงพยาบา

น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีตส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ภายหลังถูกศาลฎีกา พิพากษาให้พ้นจาก ส.ส.และตัดสิทธิการเมืองตลอดชีวิต คดีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวหาบุก
เมื่อวันที่ 17 ม.ค.2565 เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี นำกำลังเข้าตรวจสอบหาหลักฐานเพิ่มเติม บริเวณร้านขายต้นไม้แห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 4 ต.หนองบัว อ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อหาเบาะแสชายใ
วันนี้ (30 ก.ค.2565) ตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) จับกุมนายเจษฎา หรือนายกฤชนนท อายุ 26 ปี อดีตทหารยศสิบเอก ผู้ต้องหาใช้เอกสารปลอมหลอกตระเวนเช่ารถยนต์หรูแล้วนำไปขายต่อ ก่อนที่จะนำเงินที่ได้ไปหลอกให้ลงทุน เพื่อแลกกับผลตอบแทนร้อยละ 6 ต่อเดือน มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 91 ล้านบาท พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผกก.4 กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เปิดเผยว่า คดีนี้เกิดขึ้นตั้งแต่กลางปี 2563 ผู้ต้องหาเป็นทหารที่หลอกให้เพื่อนร่วมงานมาลงทุนโดยเสนอผลตอบแทนร้อยละ 6 ต่อเดือน มีคนหลงเชื่อกว่า 50 คน มาแจ้งความแล้ว 21 คน มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 15 ล้านบาท โดยวิธีการหลอกลวง เมื่อหมุนเวียนเงินไม่ทันก็จะหลบหนี ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เสียหายจนสามารถขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาในความผิดฐานฉ้อโกง และกู้ยืมเงินเพื่อการฉ้อโกง ขณะที่ พ.ต.ท.สุรเชษฐ์ เดชะพันธ์ รองผกก.3 ป. เปิดเผยว่า มีผู้เสียหายเป็นเจ้าของเต็นท์รถยนต์หรู 3 ราย มาแจ้งความกับตำรวจ หลังพบว่าถูกผู้ต้องหามาเช่ารถยนต์หรูโดยใช้เอกสารปลอม ก่อนนำไปขายต่อ โดยพบว่ามีการเช่ารถหรูรวม 12 คัน มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 76 ล้านบาท ผู้ต้องหาจะสืบหาว่ารถยนต์คันที่เช่าเป็นของบุคคลใด จากนั้นจะพาคนที่มีเครดิตไปเช่ารถยนต์หรูตามเต็นท์รถต่าง ๆ แล้วปลอมบัตรประชาชน โดยใช้ใบหน้าของตัวเองใส่ในบัตรและเปลี่ยนชื่อเป็นเจ้าของรถ ก่อนที่จะนำไปขายให้กับเต็นท์ โดยที่จะเลือกรถยนต์หรูที่มีราคาสูง เมื่อได้เงินมาแล้วบางส่วนก็จะนำไปหมุนเวียนจ่ายให้กับบุคคลที่มาร่วมลงทุน เพื่อที่จะให้ไปบอกต่อให้มาร่วมลงทุนและหลอกลวงกันต่อเนื่อง เบื้องต้น พบว่ามีผู้ร่วมขบวนการคือคนที่พามาเช่ารถ และกำลังสืบสวนต่อว่ามีผู้ใดร่วมขบวนการเพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งพบว่าผู้ต้องหาจะตามหาลูกค้ารายใหม่ไปเรื่อย ๆ ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัวิเคราะห์บอลแอฟริกา วันนี้ญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้ติดตามรถยนต์ของกลางมาได้แล้ว 9 คัน และยังพบว่าผู้ต้องหามีวิธีการเช็กเจ้าของรถยนต์ และทำเอกสารปลอมประมาณ 30 นาที ก่อนไปก่อเหตุ และหากเต็นท์รถไหนไม่รับซื้อรถก็จะเปลี่ยนที่ไปเรื่อย ๆ ทั้งนี้ ตามกฎหมายการซื้อขายรถยนต์ที่มีมูลค่าสูง ต้องมีเอกสารครบ ทั้งรูปเล่มและเอกสารการครอบครองรถยนต์ ต้องไปตรวจสอบว่าเต็นท์รถมีการซื้อขายอย่างถูกต้องหรือไม่ หากผิดก็จะเข้าข่ายรับของโจร ซึ่งหากเจ้าของรถตัวจริงมาติดตามรถยนต์คืนแล้วไม่สามารถตกลงกันได้ก็ต้องไปฟ้องศาลต่อไป นอกจากนี้ ยังเชื่อว่าบางส่วนถูกนำไปขายในตลาดมืด ราคาคันละไม่ต่ำกว่า 3-5 ล้านบาท ซึ่ง 12 คัน ที่พบว่าถูกนำไปขายมูลค่ารวมกว่า 76 ล้านบาท และพบเงินหมุนเวียนในบัญชีผู้ต้องหามากกว่า 200 ล้านบาท แต่ไม่มีเงินคงเหลืออยู่ในบัญชี เนื่องจากผู้ต้องหาอ้างว่านำไปใช้จ่าย และบางส่วนนำไปจ่ายค่าตอบแทนให้กับกลุ่มทุน
วันนี้ (8 มิ.ย.2566) เพจเฟซบุ๊ก “เพื่อนตำรวจ” เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการเลื่อนขั้นของนายตำรวจหลายราย
วันนี้ (30 ก.ค.2565) ตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) จับกุมนายเจษฎา หรือนายกฤชนนท อายุ 26 ปี อดีตท
วันนี้ (13 มี.ค.2567) ชาร์ลี แคมป์เบลล์ เขียนบทสัมภาษณ์ระหว่างตัวเขากับนายกฯ ของประเทศไทยด้วยการเริ่
วันนี้ (30 ก.ค.2565) ตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) จับกุมนายเจษฎา หรือนายกฤชนนท อายุ 26 ปี อดีตทหารยศสิบเอก ผู้ต้องหาใช้เอกสารปลอมหลอกตระเวนเช่ารถยนต์หรูแล้วนำไปขายต่อ ก่อนที่จะนำเงินที่ได้ไปหลอกให้ลงทุน เพื่อแลกกับผลตอบแทนร้อยละ 6 ต่อเดือน มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 91 ล้านบาท พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผกก.4 กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เปิดเผยว่า คดีนี้เกิดขึ้นตั้งแต่กลางปี 2563 ผู้ต้องหาเป็นทหารที่หลอกให้เพื่อนร่วมงานมาลงทุนโดยเสนอผลตอบแทนร้อยละ 6 ต่อเดือน มีคนหลงเชื่อกว่า 50 คน มาแจ้งความแล้ว 21 คน มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 15 ล้านบาท โดยวิธีการหลอกลวง เมื่อหมุนเวียนเงินไม่ทันก็จะหลบหนี ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เสียหายจนสามารถขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาในความผิดฐานฉ้อโกง และกู้ยืมเงินเพื่อการฉ้อโกง ขณะที่ พ.ต.ท.สุรเชษฐ์ เดชะพันธ์ รองผกก.3 ป. เปิดเผยว่า มีผู้เสียหายเป็นเจ้าของเต็นท์รถยนต์หรู 3 ราย มาแจ้งความกับตำรวจ หลังพบว่าถูกผู้ต้องหามาเช่ารถยนต์หรูโดยใช้เอกสารปลอม ก่อนนำไปขายต่อ โดยพบว่ามีการเช่ารถหรูรวม 12 คัน มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 76 ล้านบาท ผู้ต้องหาจะสืบหาว่ารถยนต์คันที่เช่าเป็นของบุคคลใด จากนั้นจะพาคนที่มีเครดิตไปเช่ารถยนต์หรูตามเต็นท์รถต่าง ๆ แล้วปลอมบัตรประชาชน โดยใช้ใบหน้าของตัวเองใส่ในบัตรและเปลี่ยนชื่อเป็นเจ้าของรถ ก่อนที่จะนำไปขายให้กับเต็นท์ โดยที่จะเลือกรถยนต์หรูที่มีราคาสูง เมื่อได้เงินมาแล้วบางส่วนก็จะนำไปหมุนเวียนจ่ายให้กับบุคคลที่มาร่วมลงทุน เพื่อที่จะให้ไปบอกต่อให้มาร่วมลงทุนและหลอกลวงกันต่อเนื่อง เบื้องต้น พบว่ามีผู้ร่วมขบวนการคือคนที่พามาเช่ารถ และกำลังสืบสวนต่อว่ามีผู้ใดร่วมขบวนการเพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งพบว่าผู้ต้องหาจะตามหาลูกค้ารายใหม่ไปเรื่อย ๆ ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัวิเคราะห์บอลแอฟริกา วันนี้ญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้ติดตามรถยนต์ของกลางมาได้แล้ว 9 คัน และยังพบว่าผู้ต้องหามีวิธีการเช็กเจ้าของรถยนต์ และทำเอกสารปลอมประมาณ 30 นาที ก่อนไปก่อเหตุ และหากเต็นท์รถไหนไม่รับซื้อรถก็จะเปลี่ยนที่ไปเรื่อย ๆ ทั้งนี้ ตามกฎหมายการซื้อขายรถยนต์ที่มีมูลค่าสูง ต้องมีเอกสารครบ ทั้งรูปเล่มและเอกสารการครอบครองรถยนต์ ต้องไปตรวจสอบว่าเต็นท์รถมีการซื้อขายอย่างถูกต้องหรือไม่ หากผิดก็จะเข้าข่ายรับของโจร ซึ่งหากเจ้าของรถตัวจริงมาติดตามรถยนต์คืนแล้วไม่สามารถตกลงกันได้ก็ต้องไปฟ้องศาลต่อไป นอกจากนี้ ยังเชื่อว่าบางส่วนถูกนำไปขายในตลาดมืด ราคาคันละไม่ต่ำกว่า 3-5 ล้านบาท ซึ่ง 12 คัน ที่พบว่าถูกนำไปขายมูลค่ารวมกว่า 76 ล้านบาท และพบเงินหมุนเวียนในบัญชีผู้ต้องหามากกว่า 200 ล้านบาท แต่ไม่มีเงินคงเหลืออยู่ในบัญชี เนื่องจากผู้ต้องหาอ้างว่านำไปใช้จ่าย และบางส่วนนำไปจ่ายค่าตอบแทนให้กับกลุ่มทุน
วันนี้ (12 ก.ค.2567) สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) เคาะ 3 ทางเลือกปรับขึ้นค่า