วันที่ 1 ม.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงบ่ายที่

ความวัวยังไม่ทันหาย หลัง นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ประธานที่ปรึกษาพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวบนเวทีปราศรัยใหญ่ที่สนามหน้าศาลากลาง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 26 ก.พ.2566 ตอนหนึ่งว่า “พระพุทธเจ้าตรัสเอา
วานนี้ (25 มี.ค.2567) มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือทีมชาติไทย นำทัพช้างศึก ลงฝึกซ้อมครั้งสุดท้าย เป็นที่เรียบร้อย ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน พร้อม ยืนยันข่าวดีเมื่อ ธีราทร บุญมาทัน แบ็กซ้ายกัปตันทีม พร้อมเป็นห
เช้าจูงมือกันเดินเข้าพบนายกฯ เคลียร์ใจปมบาดหมาง 2 ฝ่ายเที่ยงกอดเอวโชว์สื่อยัน ยังรักกันดี ไม่เคยทะเลาะคล้อยบ่ายกอดคอกันรับคำสั่งย้ายเข้าปฏิบัติราชการสำนักนายกฯ เป็นเวลา 60 วัน นายกฯ ออกโรงชี้แจงพร้อมคำสั่ง 3 ฉบับ จำเป็นต้องเอาตัวคู่ขัดแย้งออกจากสนามเพื่อให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินต่อไปได้แบบที่ไม่ถูกแทรกแซง เป็นที่มาของคำสั่งฉบับแรก สั่งย้ายราชการ 2 บิ๊กตำรวจ ส่วนฉบับที่ 2 แต่งตั้ง "บิ๊กต่าย" พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ เป็นรักษาการ ผบ.ตร. ส่วนฉบับที่ 3 แต่งตั้ง ฉัตรชัย-ชาติพงษ์-พล.ต.อ.วินัย สอบปมขัดแย้งเรื่องคดีของบุคลากรภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยทั้ง 3 ฉบับมีคีย์เวิร์ดเหมือนกันคือ ระยะเวลา 60 วัน ที่น่าจับตา ณ ขณะนี้คือ การขึ้นมาดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. แม้จะมีคำนำหน้าว่า "รักษาการ" แต่เมื่อเปิดเอกสารราชการ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาตตรวจ ผล สลาก 16 ธันวาคม 2563ิ พ.ศ.2565 พบว่ามีมาตราหนึ่งระบุว่า "ผู้รักษาราชการแทนมีหน้าที่และอำนาจเช่นเดียวกับผู้ซึ่งตนแทน" นั่นหมายถึง "บิ๊กต่าย" ต้องปฏิบัติหน้าที่ของ ผบ.ตร. รวมถึง "การเสนอชื่อ ผบ.ตร. คนที่ 15" ให้แก่นายกฯ อีกด้วย ย้อนดูประวัติ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เองก็ยังมีลุ้นนั่ง ผบ.ตร.คนที่ 15 เหมือนกัน เพราะอาวุโสรองแค่ "บิ๊กโจ๊ก" คนเดียว การนั่งเก้าอี้ ผบ.ตร. 2 เดือนนี้ ถ้าจะบอกว่า ซ้อมนั่งเก้าอี้ "พิทักษ์ 1" ก็คงเป็นไปได้ หมวด 5 การรักษาราชการแทนและการปฏิบัติราชการแทน มาตรา 105 ในกรณีที่ตำแหน่งข้าราชการตำรวจในส่วนราชการหรือหน่วยงานใดในสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่างลง หรือผู้ดำรงตำแหน่งใดไม่สามารถปฏิบัติราชการได้ ให้ผู้บังคับบัญชาดังต่อไปนี้ สั่งให้ข้าราชการตำรวจซึ่งเห็นสมควรรักษาราชการแทนในตำแหน่งนั้นได้ ในกรณีที่ไม่มีการแต่งตั้งให้ข้าราชการตำรวจผู้ใดรักษาราชการแทน และมีผู้ดำรงตำแหน่งรองของตำแหน่งนั้น ให้ผู้ดำรงตำแหน่งรองเป็นผู้รักษาราชการแทน ถ้าไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรองหรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ และมีผู้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยของตำแหน่งดังกล่าว ให้ผู้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเป็นผู้รักษาราชการแทนในตำแหน่งนั้น ถ้ามีผู้ดำรงตำแหน่งรองหรือผู้ช่วยหลายคน ให้ผู้มีอาวุโสตามที่กำหนดในระเบียบ ก.ตร. เป็นผู้รักษาราชการแทน ถ้าไม่มีทั้งผู้ดำรงตำแหน่งรองหรือผู้ช่วย หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ก็ให้ข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร ผู้มีอาวุโสตามที่กำหนดในระเบียบ ก.ตร. ในส่วนราชการหรือหน่วยงานนั้นเป็นผู้รักษาราชการแทน เพื่อประโยชน์ของทางราชการ ข้าราชการตำรวจที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งตามมาตรา 77 (1) ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (2) รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและจเรตำรวจแห่งชาติ (3) ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและรองจเรตำรวจแห่งชาติ (4) ผู้บัญชาการและจเรตำรวจ (5) รองผู้บัญชาการและรองจเรตำรวจ (6) ผู้บังคับการ เป็นการย้อนหลัง การปฏิบัติหน้าที่หรือการใช้อำนาจในตำแหน่งเดิมที่ได้กระทำไปก่อนมีประกาศพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ให้เป็นอันใช้ได้ มาตรา 106 นอกจากที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้ อำนาจในการสั่ง การอนุญาต การอนุมัติ การปฏิบัติราชการ และการดำเนินการด้านอื่นที่ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะพึงปฏิบัติหรือดำเนินการตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือคำสั่งใด หรือมติคณะรัฐมนตรีในเรื่องใด ในกิจการของแต่ละกองบัญชาการ ให้ผู้บัญชาการของแต่ละกองบัญชาการนั้นเป็นผู้ปฏิบัติราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในการปฏิบัติราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตามวรรคหนึ่ง ผู้บัญชาการจะมอบหมายให้รองผู้บัญชาการปฏิบัติราชการแทนก็ได้ ให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมีหน้าที่กำกับติดตามผลการปฏิบัติราชการของผู้บัญชาการตามวรรคหนึ่ง และให้มีอำนาจแนะนำและแก้ไขการปฏิบัติราชการของผู้บัญชาการตามวรรคหนึ่ง ในกรณีจำเป็นเพื่อรักษาประโยชน์ของทางราชการหรือการระงับความเสียหาย ที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้อำนาจของผู้บัญชาการตามวรรคหนึ่ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะระงับการใช้อำนาจของผู้บัญชาการดังกล่าวไว้เป็นการชั่วคราวและใช้อำนาจนั้นด้วยตนเองก็ได้ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ ก.ต.ช. กำหนด มาตรา 108 ให้ผู้รักษาราชการแทนตามมาตรา 105 มีหน้าที่และอำนาจเช่นเดียวกับผู้ซึ่งตนแทน ในกรณีที่กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง หรือมติคณะรัฐมนตรี แต่งตั้งให้ผู้ดำรงตำแหน่งใดเป็นกรรมการหรือให้มีหน้าที่และอำนาจอย่างใด ให้ผู้รักษาราชการแทนมีหน้าที่และอำนาจเป็นกรรมการหรือมีหน้าที่และอำนาจเช่นเดียวกับผู้ดำรงตำแหน่งนั้นในระหว่างที่รักษาราชการแทน การสั่งให้รักษาราชการแทนให้มีผล นับแต่เวลาที่ผู้ได้รับแต่งตั้งเข้ารับหน้าที่ และให้ผู้ดำรงตำแหน่งรองหรือตำแหน่งผู้ช่วยพ้นจากความเป็นผู้รักษาราชการแทน นับแต่เวลาที่ผู้ได้รับแต่งตั้งเข้ารับหน้าที่ ทั้งนี้ ไม่เป็นการกระทบกระเทือนถึงการใดที่ผู้นั้นได้ปฏิบัติไปแล้วในระหว่างเป็นผู้รักษาราชการแทน หมวด 2 ตำแหน่งและการกำหนดตำแหน่ง มาตรา 63 สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นหัวหน้าส่วนราชการมีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้ มาตรา 78 การคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งตามมาตรา 77 (1) ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (2) รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและจเรตำรวจแห่งชาติ (3) ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและรองจเรตำรวจแห่งชาติ (4) ผู้บัญชาการและจเรตำรวจ (5) รองผู้บัญชาการและรองจเรตำรวจ (6) ผู้บังคับการ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้ การจัดทำข้อมูลการเสนอแต่งตั้งของหัวหน้าส่วนราชการตาม (4) ให้พิจารณาเสนอรายชื่อได้เฉพาะข้าราชการตำรวจที่ดำรงตำแหน่งในสังกัดเท่านั้น ในกรณีที่ ก.ตร. ตรวจสอบแล้วเห็นว่าไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่พระราชบัญญัตินี้กำหนด ให้แจ้งให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเพื่อดำเนินการให้ถูกต้องต่อไป
วันนี้ (24 มิ.ย.2565) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า โรเบิร์ต ฮาเบค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการก
เมื่อวันที่ 31 ม.ค.2567 สุลต่านอิบราฮิม สุลต่าน อิสกันดาร์ แห่งรัฐยะโฮร์ ทรงเข้าพิธีราชาภิเษกเป็นสมเ
เช้าจูงมือกันเดินเข้าพบนายกฯ เคลียร์ใจปมบาดหมาง 2 ฝ่ายเที่ยงกอดเอวโชว์สื่อยัน ยังรักกันดี ไม่เคยทะเล
เช้าจูงมือกันเดินเข้าพบนายกฯ เคลียร์ใจปมบาดหมาง 2 ฝ่ายเที่ยงกอดเอวโชว์สื่อยัน ยังรักกันดี ไม่เคยทะเลาะคล้อยบ่ายกอดคอกันรับคำสั่งย้ายเข้าปฏิบัติราชการสำนักนายกฯ เป็นเวลา 60 วัน นายกฯ ออกโรงชี้แจงพร้อมคำสั่ง 3 ฉบับ จำเป็นต้องเอาตัวคู่ขัดแย้งออกจากสนามเพื่อให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินต่อไปได้แบบที่ไม่ถูกแทรกแซง เป็นที่มาของคำสั่งฉบับแรก สั่งย้ายราชการ 2 บิ๊กตำรวจ ส่วนฉบับที่ 2 แต่งตั้ง "บิ๊กต่าย" พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ เป็นรักษาการ ผบ.ตร. ส่วนฉบับที่ 3 แต่งตั้ง ฉัตรชัย-ชาติพงษ์-พล.ต.อ.วินัย สอบปมขัดแย้งเรื่องคดีของบุคลากรภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยทั้ง 3 ฉบับมีคีย์เวิร์ดเหมือนกันคือ ระยะเวลา 60 วัน ที่น่าจับตา ณ ขณะนี้คือ การขึ้นมาดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. แม้จะมีคำนำหน้าว่า "รักษาการ" แต่เมื่อเปิดเอกสารราชการ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาตตรวจ ผล สลาก 16 ธันวาคม 2563ิ พ.ศ.2565 พบว่ามีมาตราหนึ่งระบุว่า "ผู้รักษาราชการแทนมีหน้าที่และอำนาจเช่นเดียวกับผู้ซึ่งตนแทน" นั่นหมายถึง "บิ๊กต่าย" ต้องปฏิบัติหน้าที่ของ ผบ.ตร. รวมถึง "การเสนอชื่อ ผบ.ตร. คนที่ 15" ให้แก่นายกฯ อีกด้วย ย้อนดูประวัติ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เองก็ยังมีลุ้นนั่ง ผบ.ตร.คนที่ 15 เหมือนกัน เพราะอาวุโสรองแค่ "บิ๊กโจ๊ก" คนเดียว การนั่งเก้าอี้ ผบ.ตร. 2 เดือนนี้ ถ้าจะบอกว่า ซ้อมนั่งเก้าอี้ "พิทักษ์ 1" ก็คงเป็นไปได้ หมวด 5 การรักษาราชการแทนและการปฏิบัติราชการแทน มาตรา 105 ในกรณีที่ตำแหน่งข้าราชการตำรวจในส่วนราชการหรือหน่วยงานใดในสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่างลง หรือผู้ดำรงตำแหน่งใดไม่สามารถปฏิบัติราชการได้ ให้ผู้บังคับบัญชาดังต่อไปนี้ สั่งให้ข้าราชการตำรวจซึ่งเห็นสมควรรักษาราชการแทนในตำแหน่งนั้นได้ ในกรณีที่ไม่มีการแต่งตั้งให้ข้าราชการตำรวจผู้ใดรักษาราชการแทน และมีผู้ดำรงตำแหน่งรองของตำแหน่งนั้น ให้ผู้ดำรงตำแหน่งรองเป็นผู้รักษาราชการแทน ถ้าไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรองหรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ และมีผู้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยของตำแหน่งดังกล่าว ให้ผู้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเป็นผู้รักษาราชการแทนในตำแหน่งนั้น ถ้ามีผู้ดำรงตำแหน่งรองหรือผู้ช่วยหลายคน ให้ผู้มีอาวุโสตามที่กำหนดในระเบียบ ก.ตร. เป็นผู้รักษาราชการแทน ถ้าไม่มีทั้งผู้ดำรงตำแหน่งรองหรือผู้ช่วย หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ก็ให้ข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร ผู้มีอาวุโสตามที่กำหนดในระเบียบ ก.ตร. ในส่วนราชการหรือหน่วยงานนั้นเป็นผู้รักษาราชการแทน เพื่อประโยชน์ของทางราชการ ข้าราชการตำรวจที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งตามมาตรา 77 (1) ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (2) รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและจเรตำรวจแห่งชาติ (3) ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและรองจเรตำรวจแห่งชาติ (4) ผู้บัญชาการและจเรตำรวจ (5) รองผู้บัญชาการและรองจเรตำรวจ (6) ผู้บังคับการ เป็นการย้อนหลัง การปฏิบัติหน้าที่หรือการใช้อำนาจในตำแหน่งเดิมที่ได้กระทำไปก่อนมีประกาศพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ให้เป็นอันใช้ได้ มาตรา 106 นอกจากที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้ อำนาจในการสั่ง การอนุญาต การอนุมัติ การปฏิบัติราชการ และการดำเนินการด้านอื่นที่ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะพึงปฏิบัติหรือดำเนินการตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือคำสั่งใด หรือมติคณะรัฐมนตรีในเรื่องใด ในกิจการของแต่ละกองบัญชาการ ให้ผู้บัญชาการของแต่ละกองบัญชาการนั้นเป็นผู้ปฏิบัติราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในการปฏิบัติราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตามวรรคหนึ่ง ผู้บัญชาการจะมอบหมายให้รองผู้บัญชาการปฏิบัติราชการแทนก็ได้ ให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมีหน้าที่กำกับติดตามผลการปฏิบัติราชการของผู้บัญชาการตามวรรคหนึ่ง และให้มีอำนาจแนะนำและแก้ไขการปฏิบัติราชการของผู้บัญชาการตามวรรคหนึ่ง ในกรณีจำเป็นเพื่อรักษาประโยชน์ของทางราชการหรือการระงับความเสียหาย ที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้อำนาจของผู้บัญชาการตามวรรคหนึ่ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะระงับการใช้อำนาจของผู้บัญชาการดังกล่าวไว้เป็นการชั่วคราวและใช้อำนาจนั้นด้วยตนเองก็ได้ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ ก.ต.ช. กำหนด มาตรา 108 ให้ผู้รักษาราชการแทนตามมาตรา 105 มีหน้าที่และอำนาจเช่นเดียวกับผู้ซึ่งตนแทน ในกรณีที่กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง หรือมติคณะรัฐมนตรี แต่งตั้งให้ผู้ดำรงตำแหน่งใดเป็นกรรมการหรือให้มีหน้าที่และอำนาจอย่างใด ให้ผู้รักษาราชการแทนมีหน้าที่และอำนาจเป็นกรรมการหรือมีหน้าที่และอำนาจเช่นเดียวกับผู้ดำรงตำแหน่งนั้นในระหว่างที่รักษาราชการแทน การสั่งให้รักษาราชการแทนให้มีผล นับแต่เวลาที่ผู้ได้รับแต่งตั้งเข้ารับหน้าที่ และให้ผู้ดำรงตำแหน่งรองหรือตำแหน่งผู้ช่วยพ้นจากความเป็นผู้รักษาราชการแทน นับแต่เวลาที่ผู้ได้รับแต่งตั้งเข้ารับหน้าที่ ทั้งนี้ ไม่เป็นการกระทบกระเทือนถึงการใดที่ผู้นั้นได้ปฏิบัติไปแล้วในระหว่างเป็นผู้รักษาราชการแทน หมวด 2 ตำแหน่งและการกำหนดตำแหน่ง มาตรา 63 สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นหัวหน้าส่วนราชการมีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้ มาตรา 78 การคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งตามมาตรา 77 (1) ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (2) รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและจเรตำรวจแห่งชาติ (3) ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและรองจเรตำรวจแห่งชาติ (4) ผู้บัญชาการและจเรตำรวจ (5) รองผู้บัญชาการและรองจเรตำรวจ (6) ผู้บังคับการ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้ การจัดทำข้อมูลการเสนอแต่งตั้งของหัวหน้าส่วนราชการตาม (4) ให้พิจารณาเสนอรายชื่อได้เฉพาะข้าราชการตำรวจที่ดำรงตำแหน่งในสังกัดเท่านั้น ในกรณีที่ ก.ตร. ตรวจสอบแล้วเห็นว่าไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่พระราชบัญญัตินี้กำหนด ให้แจ้งให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเพื่อดำเนินการให้ถูกต้องต่อไป
วันนี้ (3 ก.พ.2567) สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT ชี้แจงกรณีมีผู้เผยแพร่ภาพราค