UID: 62452

วันนี้ (19 ธ.ค.2565) เวลา 09.30 น. กรมทางหลวง รายงานสถานการณ์น้ำท่วมและดินสไลด์ในโครงข่ายทางหลวง 5 จ

เมื่อวันที่ 26 เม.ย.2565 คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) และสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (

ชาวบ้านที่ชุมชนกุดแคน จ.ชัยภูมิ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือ หลังต้องอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมมานานกว่า 1 สัปดาห์โดยที่ระดับน้ำยังไม่ลดลง ซึ่งตอนนี้กำลังกังวลว่า ฝนจากพายุโนรูจะมาซ้ำเติมสถานการณ์ นางสวรรค์ อ่อนละมัย ประธานชุมชนกุดแคน เขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ เล่าถึงความยากลำบากในการใช้ชีslotxo ฝาก 30 รับ100 ล่าสุดวิตอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมสูงมานานกว่า 1 สัปดาห์ โดยที่ตัวเองในฐานะชุมชนก็ไม่สามารถให้คำตอบกับลูกบ้านได้ว่า น้ำจะลดลงเมื่อไหร่ เพราะสวนและบ้านของตนเองก็ยังท่วมหนักเหมือนกัน ชาวบ้านในพื้นที่บอกกับนักข่าวว่า ที่ผ่านมาหลังเกิดน้ำท่วม ไม่ได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐแต่อย่างใด ซึ่งชุมชนนี้ ตั้งอยู่ติดกับลำน้ำกุดแคน ที่รับน้ำมาจากเขื่อนลำประทาว เมื่อเข้าสู่ช่วงหน้าฝนจะได้รับผลกระทบก่อนทุกชุมชนเป็นประจำทุกปี ซึ่งปีนี้ชุมชนกุดแคนถูกน้ำท่วมมานานกว่า 7 วันแล้ว จึงอยากวิงวอนขอร้องหน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยลงมาดูแลเพราะเริ่มจะขาดแคลนอาหารแล้ว ขณะนี้ ชาวบ้านต้องนำอาหารมารวมกัน แล้วกินด้วยกัน สิ่งที่อยากได้เร่งด่วนคืออาหารแห้ง เช่นไข่,ปลากระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เป็นต้น แม้ว่าน้ำเก่ายังไม่ลดลง แต่ก็ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับน้ำใหม่ ที่กำลังจะลงมาจากอิทธิพลของพายุโนรู จึงต้องมีการแจ้งเตือนให้คนในชุมชนอย่าเพิ่งประมาท และต้องสู้กันต่อไป สำหรับความคืบหน้าเรื่องนี้ ล่าสุด นายธีวรา วิตนากร นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองชัยภูมิ ลงพื้นที่ชุมชนแห่งนี้แล้ว และได้ออกมาชี้แจงต่อสื่อมวลชนว่า เหตุใดจึงยังให้การช่วยเหลือไม่ได้ ซึ่งสาเหตุเบื้องต้นพบว่า ติดขัดปัญหาเรื่องของการที่จังหวัดยังไม่ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ ทำให้ยังไม่สามารถนำงบประมาณมาช่วยเหลือประชาชนได้ เบื้องต้น เมื่อวานนี้ (29 ก.ย.) หน่วยงานในพื้นที่ได้นำข้าวกล่องแจกให้ประชาชน ซึ่งได้รับความร่วมมือจากในพื้นที่ อนุเคราะห์เป็นการชั่วคราว พร้อมตั้งศูนย์ช่วยเหลือชาวบ้านที่บริเวณ ตลาดคลองพุทธา ซึ่งจะใช้เป็นศูนย์กลางในการช่วยเหลือด้านต่างๆ รวมทั้งอาหารของประชาชน

ชาวบ้านที่ชุมชนกุดแคน จ.ชัยภูมิ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือ หลังต้องอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมม