Sebanyak 100 mahasiswa Universitas BSI (Bina Saran

วันที่ 30 พ.ย.2565 สำนักข่าว CNN รายงานว่า หน่วยงานเฝ้าระวังทางอินเทอร์เน็ตของจีน หรือ China’s internet watchdog เพิ่มกฎระเบียบด้านการใช้อินเตอร์เน็ต สร้างความความไม่พอใจให้สาธารณชนที่ต้องเจอกับข้อจำก
วันนี้ (20 ธ.ค.2565) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ระบุถึงการเตรียมพร้อมมาตรการป้องกันโควิด-19 ในช่วงเทศกาลปีใหม่ว่า สถานการณ์ทุกอย่างยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของกระทรวงสาธารณสุข โดยได
วันนี้ (20 ธ.ค.2566) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ป.ป.ช.มีมติชี้มูล 2 คดี โดยคดีแรกชี้มูลความผิดนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ, น.ส.ประนอม คงพิกุล ผู้อำนวยการกองพุทธศาสนสถาน และนายวตสวัตติ์ กิตติธีระสิทธิ์ หรือนายสงกรานต์ สาทาวงศ์ ผู้อำนวยการส่วนบูรณะพัฒนาวัดและการศาสนาสงเคราะห์ ทั้งนี้ มีมูลความผิดทางอาญา คดีทุจริตเงินทอนวัด วัดตำหนัก วัดโพธิ์ทอง และวัดจงกลณี จ.พระนครศรีอยุธยา โดยเรียกรับเงินทอนร้อยละ 90 ของเงินอุดหนุนวัดในปี 2556 อ้างว่าเป็นการส่งคืนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อนำไปใช้ในกิจการอื่นและสนับสนุนวัดในถิ่นทุรกันดารในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้ว มีมติแต่ละสำนวนคดี ดังนี้ การกระทำของนายนพรัตน์ มีมูลความผิดอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช. พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และมีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ส่วน น.ส.ประนอม และนายวสวัตติ์ มีมูลความผิดอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช. พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และมีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ ให้ส่งรายงานสำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจ และส่งรายงานสำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินการทางวินัย ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 91 (1) (2) และมาตรา 98 แล้วแต่กรณีต่อไป โดยให้แจ้งผู้บังคับบัญชาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจเพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหาย ตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 ด้วย นอกจากนี้ ยังชี้มูลความผิดนายนพรัตน์ และพวก ในคดีทุจริตเงินทอนวัดปีงบประมาณ 2557 ที่มีการจัดสรรให้วัดในพื้นที่ภาคกลางจำนวน 5 สำนวนคดี มูลค่าความเสียหาย 28,000,000 บาท ประกอบไปด้วยเงินอุดหนุนการบูรณะและปฏิสังขรณ์วัดที่ประสบวินาศภัย วัดห้วยจระเข้ จ.นครปฐม จำนวน 4,000,000 บาท, วัดใหญ่ จ.สมุทรปราการ จำนวน 4,000,000 บาท, วัดเพลง กรุงเทพมหานคร จำนวน 5,000,000 บาท, วัดเกาะแก้วอรุณคาม จำนวน 5,000,000 บาท และวัดกลางเหนือ จ.สมุทรสงคราม จำนวน 10,000,000 บาท อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง พศ.ไม่ย้าย"ประนอม คงพิกุล" ถูกสอบเงินอุดหนุนวัด-อ้างรอชี้มูลความผิด ป.ป.ช.ห้อง สล็อตชี้อดีตข้าราชการ พศ.ผิดวินัยร้ายแรง ทุจริตเงินทอนวัด
วันนี้ (28 ก.พ.2566) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เผยแพร่ประกาศเรื่อง มติคณะกรรมการคดีพิเศษให้คดีความ
วันนี้ (12 เม.ย.2566) ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ควบคุมตัว จ่าสิบโท เขมรัตน์ ผ
วันนี้ (21 ก.พ.2564) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ยืนยันกำชับให้สำนักงานประกันสังคม
วันนี้ (20 ธ.ค.2566) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ป.ป.ช.มีมติชี้มูล 2 คดี โดยคดีแรกชี้มูลความผิดนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ, น.ส.ประนอม คงพิกุล ผู้อำนวยการกองพุทธศาสนสถาน และนายวตสวัตติ์ กิตติธีระสิทธิ์ หรือนายสงกรานต์ สาทาวงศ์ ผู้อำนวยการส่วนบูรณะพัฒนาวัดและการศาสนาสงเคราะห์ ทั้งนี้ มีมูลความผิดทางอาญา คดีทุจริตเงินทอนวัด วัดตำหนัก วัดโพธิ์ทอง และวัดจงกลณี จ.พระนครศรีอยุธยา โดยเรียกรับเงินทอนร้อยละ 90 ของเงินอุดหนุนวัดในปี 2556 อ้างว่าเป็นการส่งคืนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อนำไปใช้ในกิจการอื่นและสนับสนุนวัดในถิ่นทุรกันดารในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้ว มีมติแต่ละสำนวนคดี ดังนี้ การกระทำของนายนพรัตน์ มีมูลความผิดอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช. พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และมีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ส่วน น.ส.ประนอม และนายวสวัตติ์ มีมูลความผิดอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช. พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และมีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ ให้ส่งรายงานสำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจ และส่งรายงานสำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินการทางวินัย ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 91 (1) (2) และมาตรา 98 แล้วแต่กรณีต่อไป โดยให้แจ้งผู้บังคับบัญชาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจเพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหาย ตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 ด้วย นอกจากนี้ ยังชี้มูลความผิดนายนพรัตน์ และพวก ในคดีทุจริตเงินทอนวัดปีงบประมาณ 2557 ที่มีการจัดสรรให้วัดในพื้นที่ภาคกลางจำนวน 5 สำนวนคดี มูลค่าความเสียหาย 28,000,000 บาท ประกอบไปด้วยเงินอุดหนุนการบูรณะและปฏิสังขรณ์วัดที่ประสบวินาศภัย วัดห้วยจระเข้ จ.นครปฐม จำนวน 4,000,000 บาท, วัดใหญ่ จ.สมุทรปราการ จำนวน 4,000,000 บาท, วัดเพลง กรุงเทพมหานคร จำนวน 5,000,000 บาท, วัดเกาะแก้วอรุณคาม จำนวน 5,000,000 บาท และวัดกลางเหนือ จ.สมุทรสงคราม จำนวน 10,000,000 บาท อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง พศ.ไม่ย้าย"ประนอม คงพิกุล" ถูกสอบเงินอุดหนุนวัด-อ้างรอชี้มูลความผิด ป.ป.ช.ห้อง สล็อตชี้อดีตข้าราชการ พศ.ผิดวินัยร้ายแรง ทุจริตเงินทอนวัด
วันนี้ (20 ธ.ค.2566) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป