วันนี้ (9 มิ.ย.2564) สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ หรื

นางชม้อย ทิพย์โส หรืออีกชื่อ “ประเสริฐศรี” หรือที่ถูกเรียกชื่อจนติดปากว่า “แม่ชม้อย” ระหว่างปี พ.ศ.2520-2528 นางชม้อย ทิพย์โส ได้รับการชักชวนจากนายประสิทธิ์ พนักงานขององค์การน้ำมันเชื้อเพลิง ให้เข้าร่
ไค คล็อปเฟอร์ (Kai Kloepfer) ชายชาวสหรัฐฯ ได้พัฒนา "ปืนอัจฉริยะ" ที่สามารถใช้งานได้โดยเจ้าของเท่านั้นตั้งแต่ตอนที่เขาอายุเพียง 15 ปี จากการเข้าร่วมงานวิทยาศาสตร์ของโรงเรียน ซึ่งเขาได้แก้ไขแบบพิมพ์เขีย
ไค คล็อปเฟอร์ (Kai Kloepfer) ชายชาวสหรัฐฯ ได้พัฒนา "ปืนอัจฉริยะ" ที่สามารถใช้งานได้โดยเจ้าของเท่านั้นตั้งแต่ตอนที่เขาอายุเพียง 15 ปี จากการเข้าร่วมงานวิทยาศาสตร์ของโรงเรียน ซึ่งเขาได้แก้ไขแบบพิมพ์เขียวปืนซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอดช่วงมัธยมศึกษาจนถึงมหาวิทยาลัย ก่อนเขาได้ตัดสินใจลาออกจากการเรียนกะทันหัน เพื่อเริ่มต้นสร้างบริษัทผลิตปืนเป็นของตนเองในปี ค.ศ. 2018 ไค คล็อปเฟอร์ ได้ตั้งชื่อบริษัทสตาร์ตอัปและปืนของตัวเองว่า “ไบโอไฟร์” (Biofire) ซึ่งได้รับการออกแบบมาให้มีน้ำหนักเบาและควบคุมง่ายสำหรับผู้ใช้งาน ขณะที่ด้ามปืนจะมีอุปกรณ์อ่านลายนิ้วมือ และเซนเซอร์ตรวจจับใบหน้า ไค คล็อปเฟอร์ ยังได้โฆษณาปืนกระบอกนี้เอาไว้ว่า “ยิงได้ด้วยสายไฟ” ซึ่งมีความหมายแฝงว่า ปืนกระบอกนี้ใช้ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ในการควบคุม ดังนั้นภายในปืนกระบอกนี้จึงมีแผงวงจรมากมายติดตั้งเอาไว้อยู่ และต้องใช้อาศัยไฟฟ้าในการทำงาน การใช้งานปืนที่ต้องสแกนลายนิ้วมือและใบหน้านั้น ง่ายดายไม่ต่างกับการใช้โทรศัพท์มือถือ ซึ่งใช้เวลาเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น และถึงแม้ว่าปืนกระบอกนี้จะไม่มี GPS ระบุตำแหน่ง แต่เจ้าของก็สามารถเชื่อมต่อปืนกับคอมพิวเตอร์เพื่ออัปเดตระบบสำหรับการป้องกันการถูกล้วงข้อมูลได้ การทดสอบtded8zeanจากกลุ่มผู้สร้างและผู้ทดลองใช้งาน ค้นพบว่าระบบความปลอดภัยของปืนไบโอไฟร์นั้น ทำงานได้เป็นอย่างดี เมื่อบุคคลที่ไม่ได้ลงทะเบียนกับระบบของปืนกระบอกนั้น ๆ ถือปืนในท่าพร้อมยิง ก่อนจะเหนี่ยวไก ปืนจะไม่ทำงานหรือลั่นกระสุนใด ๆ ทั้งสิ้น ส่วนบุคคลที่ได้ลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วนั้นกลับใช้งานปืนที่ไม่ต่างอะไรไปจากปืนทั่ว ๆ ไป ไค คล็อปเฟอร์ และกลุ่มวิศวกรของเขาอีกกว่า 40 ชีวิตนั้น เห็นพ้องตรงกันว่าพวกเขาต้องการพัฒนาให้ปืนอัจฉริยะกระบอกนี้สำเร็จลุล่วงพร้อมวางขายให้ได้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตของผู้บริสุทธิ์จากการก่อเหตุของอาชญากร เนื่องจากพวกเขารู้ดีว่าสาเหตุอันดับหนึ่งที่พรากชีวิตเด็ก ๆ ชาวอเมริกันคือการถูกยิง ทั้งนี้ยังไม่รวมถึงช่วงวัยอื่น ๆ ที่ได้เสียชีวิตจากปืนด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่น การฆาตกรรม การทำอัตวินิบาตกรรม และอุบัติเหตุจากปืน ที่มาข้อมูล: Bloombergที่มาภาพ: BIOFIRE-SMARTGUN“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech
วันนี้ (21 เม.ย.2564) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมโรง
วันนี้ (11 ธ.ค.2565) เวลาประมาณ 00.30 น. เกิดอุบัติเหตุรถชนได้รับความเสียหายหลายคัน เหตุเกิดที่หน้าร
วันนี้ (5 ก.ย.2567) ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล ประธานมูลนิธิพฤษภาประชาธรรม เปิดเผยความคืบหน้า การสร้างส
ไค คล็อปเฟอร์ (Kai Kloepfer) ชายชาวสหรัฐฯ ได้พัฒนา "ปืนอัจฉริยะ" ที่สามารถใช้งานได้โดยเจ้าของเท่านั้นตั้งแต่ตอนที่เขาอายุเพียง 15 ปี จากการเข้าร่วมงานวิทยาศาสตร์ของโรงเรียน ซึ่งเขาได้แก้ไขแบบพิมพ์เขียวปืนซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอดช่วงมัธยมศึกษาจนถึงมหาวิทยาลัย ก่อนเขาได้ตัดสินใจลาออกจากการเรียนกะทันหัน เพื่อเริ่มต้นสร้างบริษัทผลิตปืนเป็นของตนเองในปี ค.ศ. 2018 ไค คล็อปเฟอร์ ได้ตั้งชื่อบริษัทสตาร์ตอัปและปืนของตัวเองว่า “ไบโอไฟร์” (Biofire) ซึ่งได้รับการออกแบบมาให้มีน้ำหนักเบาและควบคุมง่ายสำหรับผู้ใช้งาน ขณะที่ด้ามปืนจะมีอุปกรณ์อ่านลายนิ้วมือ และเซนเซอร์ตรวจจับใบหน้า ไค คล็อปเฟอร์ ยังได้โฆษณาปืนกระบอกนี้เอาไว้ว่า “ยิงได้ด้วยสายไฟ” ซึ่งมีความหมายแฝงว่า ปืนกระบอกนี้ใช้ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ในการควบคุม ดังนั้นภายในปืนกระบอกนี้จึงมีแผงวงจรมากมายติดตั้งเอาไว้อยู่ และต้องใช้อาศัยไฟฟ้าในการทำงาน การใช้งานปืนที่ต้องสแกนลายนิ้วมือและใบหน้านั้น ง่ายดายไม่ต่างกับการใช้โทรศัพท์มือถือ ซึ่งใช้เวลาเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น และถึงแม้ว่าปืนกระบอกนี้จะไม่มี GPS ระบุตำแหน่ง แต่เจ้าของก็สามารถเชื่อมต่อปืนกับคอมพิวเตอร์เพื่ออัปเดตระบบสำหรับการป้องกันการถูกล้วงข้อมูลได้ การทดสอบtded8zeanจากกลุ่มผู้สร้างและผู้ทดลองใช้งาน ค้นพบว่าระบบความปลอดภัยของปืนไบโอไฟร์นั้น ทำงานได้เป็นอย่างดี เมื่อบุคคลที่ไม่ได้ลงทะเบียนกับระบบของปืนกระบอกนั้น ๆ ถือปืนในท่าพร้อมยิง ก่อนจะเหนี่ยวไก ปืนจะไม่ทำงานหรือลั่นกระสุนใด ๆ ทั้งสิ้น ส่วนบุคคลที่ได้ลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วนั้นกลับใช้งานปืนที่ไม่ต่างอะไรไปจากปืนทั่ว ๆ ไป ไค คล็อปเฟอร์ และกลุ่มวิศวกรของเขาอีกกว่า 40 ชีวิตนั้น เห็นพ้องตรงกันว่าพวกเขาต้องการพัฒนาให้ปืนอัจฉริยะกระบอกนี้สำเร็จลุล่วงพร้อมวางขายให้ได้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตของผู้บริสุทธิ์จากการก่อเหตุของอาชญากร เนื่องจากพวกเขารู้ดีว่าสาเหตุอันดับหนึ่งที่พรากชีวิตเด็ก ๆ ชาวอเมริกันคือการถูกยิง ทั้งนี้ยังไม่รวมถึงช่วงวัยอื่น ๆ ที่ได้เสียชีวิตจากปืนด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่น การฆาตกรรม การทำอัตวินิบาตกรรม และอุบัติเหตุจากปืน ที่มาข้อมูล: Bloombergที่มาภาพ: BIOFIRE-SMARTGUN“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech
วันนี้ (26 ก.ย.2566) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ครม.มีมติเห็นชอบมาตรการพักชำระหนี้ให