รายงานจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ระบุว่า ได้ติดต

ทุกๆวันควายไทยสายพันธุ์ลำพูน จำนวนกว่า 120 ตัวของศูนย์อนุรักษ์ควายไทย ตำบลท่าตุ้ม อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน จะถูกปล่อยจากคอกกัก เพื่อลงไปกินหญ้า ซึ่งเป็นการเลี้ยงแบบปล่อยตามธรรมชาติ เพื่อให้ควายได้ผ่อน
ครม.เศรษฐกิจไฟเขียวแก้ภัยแล้งเกษตรกรพื้นที่เสี่ยง 8.5 แสนไร่ คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ เห็นชอบมาตรการแก้ปัญหาภัยแล้ง พื้นที่เสี่ยงในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา 850,000 ไร่ พร้อมขอความร่วมมือประชาชนใช้น้ำอย่างประหยั
พลังภาคีเครือข่ายตั้งศูนย์ “บ้านอาสาใจดี” ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม อบรม “EMBall-ต่อเรือแพ-เสื้อชูชีพ-ส้วมเก้าอี้” รับมือสถานการณ์ พลังภาคีเครือข่ายตั้งศูนย์ “บ้านอาสาใจดี” ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายเพื่อวางแผนการดำเนินการช่วยเหลือเพื่อนภาคี สสส.และประชาชนทั่วไปที่ประสบภัยน้ำท่วม โดยทพ.กฤษดา เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้ประสานภาคีเครือข่ายทั่วประเทศ เพื่อสอบถามถึงสถานการณ์อุทกภัยในแต่ละพื้นที่ เบื้องต้นมีภาคีเครือข่ายจำนวนหนึ่งที่ประสบปัญหาน้ำท่วม และพบว่าความเดือดร้อนได้ขยายวงกว้างขึ้น ดังนั้น สสส.จึงได้ประสานภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง อาทิ ศูนย์ข้อมูลเพื่อการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (Thaiflood) เครือข่ายองค์กรงดเหล้า มูลนิธิสุขภาพไทย มูลนิธิโกมล คีมทอง และภาคีเครือข่ายอื่นๆ เพื่อวางแผนดำเนินการช่วยเหลือเพื่อนภาคี สสส.และประชาชนที่ประสบอุทกภัย โดยขอเปิดใช้อาคารบรรษัทบริหารสินทรัพย์ (บบส.) ปากซอยพหลโยธิน 3 (สามารถลงบฟุตบอล ต่าง ประเทศ ทรรศนะ บอล ล้ม โต๊ะีทีเอสสนามเป้าประตูทางออก 3) เป็น “บ้านอาสาใจดี” (ศูนย์อาสาสมัครเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย) ทำหน้าที่เชื่อมโยงอาสาสมัคร ระดมทุนและความช่วยเหลือ โดยจะเริ่มเปิดดำเนินการตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค.เวลา 10.00-20.00 น. “ทั้งเป็นจุดรับบริจาคสิ่งของที่จำเป็น อาหารแห้ง ยาเวชภัณฑ์ ยากันยุง เทียนไข ผ้าอนามัย เป็นต้น พร้อมทั้งยังมีการบรรจุถุงยังชีพ และจัดกิจกรรม workshop การทำลูกบอลชีวภาพบำบัดน้ำเสีย (EMBall) ส้วมเก้าอี้ เรือแพ เสื้อชูชีพ และเครื่องกรองน้ำ อย่างไรก็ตาม ทางศูนย์ฯ ยังได้เตรียม “ธงเขียว” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ช่วยเหลือฉุกเฉินคนป่วย – คนชรา เพื่อนำไปกระจายต่อยังชุมชนที่ได้รับความเดือดร้อน โดยสามารถนำมาติดไว้ที่บริเวณหน้าบ้าน ในจุดที่สังเกตง่าย เพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้แก่ภาครัฐและเอกชน ในการให้ความช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วนและทั่วถึง นอกจากนี้ จะได้มีการรวบรวมข้อมูล อาทิ การป้องกันโรคที่มาจากน้ำ การปฏิบัติตนในระหว่างเกิดภัยพิบัติ การทำเครื่องกรองน้ำ การสร้างเรือแพด้วยวัสดุเหลือใช้ เพื่อจัดทำเป็นชุดความรู้เผยแพร่ไปยังช่องทางต่างๆ อาทิ โซเชียล เนตเวิร์ค และสื่อสาธารณะ เพื่อให้ถึงผู้ประสบภัยให้มากที่สุดด้วย” ทพ.กฤษดา กล่าว ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายเพื่อวางแผนการดำเนินการช่วยเหลือเพื่อนภาคี สสส.และประชาชนทั่วไปที่ประสบภัยน้ำท่วม โดยทพ.กฤษดา เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้ประสานภาคีเครือข่ายทั่วประเทศ เพื่อสอบถามถึงสถานการณ์อุทกภัยในแต่ละพื้นที่ เบื้องต้นมีภาคีเครือข่ายจำนวนหนึ่งที่ประสบปัญหาน้ำท่วม และพบว่าความเดือดร้อนได้ขยายวงกว้างขึ้น ดังนั้น สสส.จึงได้ประสานภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง อาทิ ศูนย์ข้อมูลเพื่อการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (Thaiflood) เครือข่ายองค์กรงดเหล้า มูลนิธิสุขภาพไทย มูลนิธิโกมล คีมทอง และภาคีเครือข่ายอื่นๆ เพื่อวางแผนดำเนินการช่วยเหลือเพื่อนภาคี สสส.และประชาชนที่ประสบอุทกภัย โดยขอเปิดใช้อาคารบรรษัทบริหารสินทรัพย์ (บบส.) ปากซอยพหลโยธิน 3 (สามารถลงบีทีเอสสนามเป้าประตูทางออก 3) เป็น “บ้านอาสาใจดี” (ศูนย์อาสาสมัครเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย) ทำหน้าที่เชื่อมโยงอาสาสมัคร ระดมทุนและความช่วยเหลือ โดยจะเริ่มเปิดดำเนินการตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค.เวลา 10.00-20.00 น. “ทั้งเป็นจุดรับบริจาคสิ่งของที่จำเป็น อาหารแห้ง ยาเวชภัณฑ์ ยากันยุง เทียนไข ผ้าอนามัย เป็นต้น พร้อมทั้งยังมีการบรรจุถุงยังชีพ และจัดกิจกรรม workshop การทำลูกบอลชีวภาพบำบัดน้ำเสีย (EMBall) ส้วมเก้าอี้ เรือแพ เสื้อชูชีพ และเครื่องกรองน้ำ อย่างไรก็ตาม ทางศูนย์ฯ ยังได้เตรียม “ธงเขียว” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ช่วยเหลือฉุกเฉินคนป่วย – คนชรา เพื่อนำไปกระจายต่อยังชุมชนที่ได้รับความเดือดร้อน โดยสามารถนำมาติดไว้ที่บริเวณหน้าบ้าน ในจุดที่สังเกตง่าย เพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้แก่ภาครัฐและเอกชน ในการให้ความช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วนและทั่วถึง นอกจากนี้ จะได้มีการรวบรวมข้อมูล อาทิ การป้องกันโรคที่มาจากน้ำ การปฏิบัติตนในระหว่างเกิดภัยพิบัติ การทำเครื่องกรองน้ำ การสร้างเรือแพด้วยวัสดุเหลือใช้ เพื่อจัดทำเป็นชุดความรู้เผยแพร่ไปยังช่องทางต่างๆ อาทิ โซเชียล เนตเวิร์ค และสื่อสาธารณะ เพื่อให้ถึงผู้ประสบภัยให้มากที่สุดด้วย” ทพ.กฤษดา กล่าว
วันนี้ (29 ต.ค.2566) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ลงพื้นที่จุดผ่อนปรนการค้าชา
ความเสี่ยงฟองสบู่ทองคำ 1980 และ 2011 ความเหมือนที่แตกต่าง ความเสี่ยงฟองสบู่ทองคำ 1980 และ 2011 ความเ
พลังภาคีเครือข่ายตั้งศูนย์ “บ้านอาสาใจดี” ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม อบรม “EMBall-ต่อเรือแพ-เสื้อชู
พลังภาคีเครือข่ายตั้งศูนย์ “บ้านอาสาใจดี” ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม อบรม “EMBall-ต่อเรือแพ-เสื้อชูชีพ-ส้วมเก้าอี้” รับมือสถานการณ์ พลังภาคีเครือข่ายตั้งศูนย์ “บ้านอาสาใจดี” ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายเพื่อวางแผนการดำเนินการช่วยเหลือเพื่อนภาคี สสส.และประชาชนทั่วไปที่ประสบภัยน้ำท่วม โดยทพ.กฤษดา เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้ประสานภาคีเครือข่ายทั่วประเทศ เพื่อสอบถามถึงสถานการณ์อุทกภัยในแต่ละพื้นที่ เบื้องต้นมีภาคีเครือข่ายจำนวนหนึ่งที่ประสบปัญหาน้ำท่วม และพบว่าความเดือดร้อนได้ขยายวงกว้างขึ้น ดังนั้น สสส.จึงได้ประสานภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง อาทิ ศูนย์ข้อมูลเพื่อการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (Thaiflood) เครือข่ายองค์กรงดเหล้า มูลนิธิสุขภาพไทย มูลนิธิโกมล คีมทอง และภาคีเครือข่ายอื่นๆ เพื่อวางแผนดำเนินการช่วยเหลือเพื่อนภาคี สสส.และประชาชนที่ประสบอุทกภัย โดยขอเปิดใช้อาคารบรรษัทบริหารสินทรัพย์ (บบส.) ปากซอยพหลโยธิน 3 (สามารถลงบฟุตบอล ต่าง ประเทศ ทรรศนะ บอล ล้ม โต๊ะีทีเอสสนามเป้าประตูทางออก 3) เป็น “บ้านอาสาใจดี” (ศูนย์อาสาสมัครเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย) ทำหน้าที่เชื่อมโยงอาสาสมัคร ระดมทุนและความช่วยเหลือ โดยจะเริ่มเปิดดำเนินการตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค.เวลา 10.00-20.00 น. “ทั้งเป็นจุดรับบริจาคสิ่งของที่จำเป็น อาหารแห้ง ยาเวชภัณฑ์ ยากันยุง เทียนไข ผ้าอนามัย เป็นต้น พร้อมทั้งยังมีการบรรจุถุงยังชีพ และจัดกิจกรรม workshop การทำลูกบอลชีวภาพบำบัดน้ำเสีย (EMBall) ส้วมเก้าอี้ เรือแพ เสื้อชูชีพ และเครื่องกรองน้ำ อย่างไรก็ตาม ทางศูนย์ฯ ยังได้เตรียม “ธงเขียว” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ช่วยเหลือฉุกเฉินคนป่วย – คนชรา เพื่อนำไปกระจายต่อยังชุมชนที่ได้รับความเดือดร้อน โดยสามารถนำมาติดไว้ที่บริเวณหน้าบ้าน ในจุดที่สังเกตง่าย เพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้แก่ภาครัฐและเอกชน ในการให้ความช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วนและทั่วถึง นอกจากนี้ จะได้มีการรวบรวมข้อมูล อาทิ การป้องกันโรคที่มาจากน้ำ การปฏิบัติตนในระหว่างเกิดภัยพิบัติ การทำเครื่องกรองน้ำ การสร้างเรือแพด้วยวัสดุเหลือใช้ เพื่อจัดทำเป็นชุดความรู้เผยแพร่ไปยังช่องทางต่างๆ อาทิ โซเชียล เนตเวิร์ค และสื่อสาธารณะ เพื่อให้ถึงผู้ประสบภัยให้มากที่สุดด้วย” ทพ.กฤษดา กล่าว ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายเพื่อวางแผนการดำเนินการช่วยเหลือเพื่อนภาคี สสส.และประชาชนทั่วไปที่ประสบภัยน้ำท่วม โดยทพ.กฤษดา เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้ประสานภาคีเครือข่ายทั่วประเทศ เพื่อสอบถามถึงสถานการณ์อุทกภัยในแต่ละพื้นที่ เบื้องต้นมีภาคีเครือข่ายจำนวนหนึ่งที่ประสบปัญหาน้ำท่วม และพบว่าความเดือดร้อนได้ขยายวงกว้างขึ้น ดังนั้น สสส.จึงได้ประสานภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง อาทิ ศูนย์ข้อมูลเพื่อการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (Thaiflood) เครือข่ายองค์กรงดเหล้า มูลนิธิสุขภาพไทย มูลนิธิโกมล คีมทอง และภาคีเครือข่ายอื่นๆ เพื่อวางแผนดำเนินการช่วยเหลือเพื่อนภาคี สสส.และประชาชนที่ประสบอุทกภัย โดยขอเปิดใช้อาคารบรรษัทบริหารสินทรัพย์ (บบส.) ปากซอยพหลโยธิน 3 (สามารถลงบีทีเอสสนามเป้าประตูทางออก 3) เป็น “บ้านอาสาใจดี” (ศูนย์อาสาสมัครเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย) ทำหน้าที่เชื่อมโยงอาสาสมัคร ระดมทุนและความช่วยเหลือ โดยจะเริ่มเปิดดำเนินการตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค.เวลา 10.00-20.00 น. “ทั้งเป็นจุดรับบริจาคสิ่งของที่จำเป็น อาหารแห้ง ยาเวชภัณฑ์ ยากันยุง เทียนไข ผ้าอนามัย เป็นต้น พร้อมทั้งยังมีการบรรจุถุงยังชีพ และจัดกิจกรรม workshop การทำลูกบอลชีวภาพบำบัดน้ำเสีย (EMBall) ส้วมเก้าอี้ เรือแพ เสื้อชูชีพ และเครื่องกรองน้ำ อย่างไรก็ตาม ทางศูนย์ฯ ยังได้เตรียม “ธงเขียว” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ช่วยเหลือฉุกเฉินคนป่วย – คนชรา เพื่อนำไปกระจายต่อยังชุมชนที่ได้รับความเดือดร้อน โดยสามารถนำมาติดไว้ที่บริเวณหน้าบ้าน ในจุดที่สังเกตง่าย เพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้แก่ภาครัฐและเอกชน ในการให้ความช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วนและทั่วถึง นอกจากนี้ จะได้มีการรวบรวมข้อมูล อาทิ การป้องกันโรคที่มาจากน้ำ การปฏิบัติตนในระหว่างเกิดภัยพิบัติ การทำเครื่องกรองน้ำ การสร้างเรือแพด้วยวัสดุเหลือใช้ เพื่อจัดทำเป็นชุดความรู้เผยแพร่ไปยังช่องทางต่างๆ อาทิ โซเชียล เนตเวิร์ค และสื่อสาธารณะ เพื่อให้ถึงผู้ประสบภัยให้มากที่สุดด้วย” ทพ.กฤษดา กล่าว
วันนี้ (15 ก.ย.2566) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม นำตัวนายประสงค์ ญาติของนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือก