วันนี้ (16 มี.ค.2566) เวลา 04.00 น. เกิดเหตุไฟไหม้ภายในโรงเรียน ในพื้นที่หมู่ที่ 5 ต.บ้านทาม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นอาคารไม้ทั้งหลัง ทำให้ไฟลุกไหม้อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถดับเพลิงเ
จากกรณีนายกัณฐ์ศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง ได้รับร้องเรียนจากผู้ปกครอง ให้ช่วยเหลือตำรวจ สภ
จากกรณีเมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่ สภ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเหตุพบศพนายธนทัต อายุ 23 ปี สภาพศพนอนคว่ำ ถูกไฟเผาไหม้ทั้งตัว บริเวณที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ เบื้องต้นไม่ทราบสา
ระหว่างทางของการเดินหน้าโครงการแจกเงิน 10,000 บาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ถูกทักท้วงถึงความคุ้มค่าของเม็ดเงินงบประมาณมาโดยตลอด หากนับรวมโครงการฯ ตั้งแต่เฟสแรกจนถึงเฟสที่ 3 รวมๆ แล้วใช้งบประมาณกว่า 200,000 ล้านบาท แต่หลายฝ่ายประเมินว่ายังไม่เห็นภาพการเติบโตที่ชัดเจนตามที่รัฐบาลบอกไว้ อีกทั้งหลายสถาบันยังปรับลด GDP ปีนี้อาจโตไม่ถึงร้อยละ 3 จึงไม่แปลกที่เสียงทักท้วงเรื่องความคุ้มค่าจะดังไม่หยุด โครงการแจกเงิน 10,000 บาทเฟสแรก แจกให้กับกลุ่มเปราะบางและคนพิการ 14.5 ล้านคน งบประมาณ 145,000 ล้านบาท ส่วนเฟสที่ 2 แจกให้กับกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป เป้าหมาย 3 ล้านคน งบประมาณ 30,000 ล้านบาท ล่าสุด เฟส 3 แจกผ่านดิจิทัลวอลเล็ต กลุ่มอายุ 16-20 ปี เป้าหมาย 2.7 ล้านคน งบประมาณ 27,000 ล้านบาท จึงไม่แปลกที่โครงการนี้ถูกตั้งคำถามด้วยขนาดเม็ดเงินที่ลดลง จะพอช่วยพยุงเศรษฐกิจให้ขยายตัวตามเป้าที่รัฐบาลตั้งไว้หรือไม่ ย้อนดูตัวเลขที่กระทรงการคลังเคยประเมินไว้กับโครงการแจกเงินหมื่น 2 เฟสที่ผ่านมา เฟสแรกเม็ดเงินที่ลงไปมีผลต่อการขยายตัวเศรษฐกิจ (GDP) ร้อยละ 0.3 ขณะที่เฟสที่ 2 มีผลต่อ GDP เพียงร้อยละ 0.1 ขณะที่ธนาคารโลกมีการประเมินแรงส่งจากมาตรการแจกเงิน 10,000 บาท โดยเฉพาะในเฟสที่ 1 ที่ใช้งบมากสุด แลกมาด้วยต้นทุนทางการคลังที่สูง คิดเป็นร้อยละ 0.8 ของ GDP แต่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้เพียงร้อยละ 0.3 ส่วนเฟสที่ 3 จะมีแรงส่งเพียงพอในการกระตุ้นเศรษฐกิจและคุ้มค่ากับงบประมาณที่ลงไปหรือไม่ ยังต้องรอเวลาประเมินผล อ่านข่าว : "บอร์ดเศรษฐกิจ" เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 3 กลุ่มอายุ 16-20 ปี ไตรมาส 2-3 ปีนี้ แม้กระทรวงคลังยืนยันว่า การแจกเงินในเฟสที่ 3 จะมีประสิทธิภาพมากกว่าเฟสที่ผ่านมา เพราะจะเริ่มใช้ดิจิทัลวอลเล็ต สามารถกำหนดเงื่อนไขการใช้จ่ายได้และปลดล็อก Negative List หวังจะให้กลุ่มเป้าหมายที่ส่วนใหญ่อยู่ในวัยเรียนไปซื้ออุปกรณ์การศึกษา-จ่ายค่าเทอมได้ แต่ ศ.พรายพล คุ้มทรัพย์ อดีตคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มองว่า โครงการยิ่งเดินมาไกลยิ่งผิดโจทย์ กลายเป็นการช่วยเหลือค่าครองชีพแค่ระยะสั้นและไม่ได้กระตุ้นเศรษฐกิจ "เป็นการช่วยเหลือค่าครองชีพมากกว่า แทนที่จะเป็นเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ เวลาแถลงข่าวเขาจะเน้นว่าเอาไปจ่ายค่าเทอม ไปจ่ายค่าภาระของผู้ปกครอง เพราะฉะนั้นมันเป็นสวัสดิการ ความหวังเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจในรอบนี้ก็คงไม่น่าจะมีมากเท่าไหร่ การแจกเงินเป็นน้ำพริกละลายแม่น้ำ ได้ผลเฉพาะระยะสั้น แม้กระทั่งระยะสั้นก็ยังไม่เต็มที่ เพราะฉะนั้นอย่าไปหวังผลระยะยาวจากโรงการประเภทนี้" ศ.พรายพล คุ้มทรัพย์ อดีตคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศ.พรายพล คุ้มทรัพย์ อดีตคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่อีกมุม กลุ่มคนที่เข้าเกณฑ์ได้รับสิทธิ์ในรอบนี้กำลังรอคอยที่จะนำเงินไปใช้จ่าย เช่นเดียวกับกลุ่มวัยรุ่นอายุ 16-20 ปีใน จ.เชียงใหม่ บางคนคาดหวังว่าเงิน 10,000 บาทจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัว น.ส.พิมพ์ชนก ปู่หล้า นักศึกษาวิทยาลัยเทคโนโลยีโปลิเทคนิคลานนาเชียงใหม่ กล่าวว่า ตนเองเรียนด้านการตลาดและจะนำเงินก้อนนี้ไปซื้อของเกี่ยวกับการเรียน เช่น ไฟไลฟ์สด อุปกรณ์ในการตกแต่งการถ่ายรูป เป็นต้น ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระการเงินของเราได้ส่วนหนึ่ง ส่วนนายศิวกร ปลอดสิริกุล นักศึกษาใน จ.นครราชสีมา มีความกังวลสำหรับเยาวชนที่ได้รับสิทธิ์ แต่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ อาจนำเงินไปใช้ในทางที่ไม่เกิดประโยชน์ โดยมองว่ามี 2 มุม คือคนที่เอาเงินไปใช้ประโยชน์จริงๆ หรือคนที่อาจจะเอาเงินไปใช้ซื้อของที่อยากได้ เช่น เติมเกมส์ หรือนำไปใช้ในทางที่ไม่ดี ขณะที่ น.ส.ปิยนุช สมบูรณ์ นักศึกษา จ.นครราชสีมา เห็นว่าการแจกเงิน 10,000 บาทให้กับกลุ่มวัยรุ่นมีทั้งข้อดีและไม่ดี แม้ว่าจะได้รับเงินมาใช้ แต่ก็อาจจะสร้างภาระให้กับประเทศได้ ฝั่งร้านค้า แม่ค้าในเขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ ระบุว่า การแจกเงินหมื่นตั้งแต่เฟส 1 และเฟส 2 ที่ผ่านมา ไม่ได้รู้สึกว่าเศรษฐกิจดีขึ้นเพราะยังค้าขายได้เท่าเดิม ลูกค้าส่วนใหญ่ก็นำไปใช้หนี้ ไม่ได้นำมาซื้อของบริโภค ขณะที่เจ้าของร้านชำขนาดเล็กในหลายจังหวัด มองว่าโครงการที่ผ่านมาใช้เวลาในการแลกเงินสดออกมาใช้จ่าย ทำให้เงินทุนจมกับสินค้า และโครงการในเฟสที่ 3 อาจไม่ได้ส่งผลดีต่อร้านค้าขนาดเล็ก นายสมจิตร คาพิจารย์ เจ้าของร้านขายของชำ จ.ชัยนาท ระบุว่า ร้านค้าชุมชนส่วนใหญ่ไม่ได้รับเงินดิจิทัลเพราะใช้ยาก แต่อาจส่งผลดีกับห้าง ร้านใหญ่ๆ หรือยี่ปั้วมากกว่า เพราะฉะนั้นไม่ต้องคาดหวังว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ เช่นเดียวกับ พรรณี คูหะมณี แม่ค้าตลาดศิริวัฒนา จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า โครงการคนละครึ่งยังมีเงินมาถึงแม่ค้า เพราะมีลูกค้ามาจับจ่ายซื้อของ แต่โครงการดิจิทัลวอลเล็ตไม่เห็นเม็ดเงินและไม่เห็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งผ่านมา 2 เฟสแล้วเห็นชัดเจนว่าไม่ดีขึ้น มีข้อมูลจาก KKP Research โดยกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ประเมินสถานการณ์หนี้สาธารณะของไทยมีโอกาสแตะระดับ 70% ต่อ GDP ในอีก 2 ปีข้างหน้า หากรัฐบาลใช้งบประมาณไม่ถูกจุด ในภาวะที่เศรษฐกิจมีความเสี่ยงจากการจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้า และการใช้จ่ายของรัฐบาลมากกว่าปีที่แล้วประมาณ 290,000 ล้านบาท ส่งผลให้รัฐบาลต้องกู้ขาดดุลงบประมาณกว่า 410,000 ล้านบาท กลายเป็นความเสี่ยงทางการคลังในปีนี้เพิ่มสูงขึ้น แม้จะมีเสียงท้วงมาตลอดทางของการแจกเงิน แต่รัฐบาลยังย้ำว่ามีกระสุนเพียงพอ เหลืออีก 150,000 ล้านบาท ต้องจับตาว่างบส่วนนี้จะถูกนำมาแจกเงินในเฟส 4 ในรูปแบบไหน แต่กลุ่มเป้าหมายเงินหมื่นเฟส 3 รอบนี้อายุต่ำสุด 16 ปี หากนับอีก 2 ปีกลุ่มนี้จะอายุ 18 ปี เป็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งครั้งแรก ตรงกับช่วงเดียวกันกับที่รัฐบาลครบเทอม นอกจากหวังกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการทุ่มงบกับกลุ่มนี้ก็อาจจะพอซื้อใจวผล บอล บอสเนียัยรุ่นได้บ้าง อ่านข่าว "พิพัฒน์" ดันค่าแรง 400 ทั่วประเทศ ฝากบอร์ดไตรภาคีถก 12 มี.ค. วัยสร้างครอบครัว “แบกหนี้” มากสุด ทีทีบีชี้คนไทยมี “รายได้โตไม่ทันรายจ่าย” "สุริยะ" สั่งลดค่าตั๋วเครื่องบินในประเทศ 30% เริ่มจอง 11-20 มี.ค.นี้ บินจริง 11-17 เม.ย.
ระหว่างทางของการเดินหน้าโครงการแจกเงิน 10,000 บาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ถูกทักท้วงถึงความคุ้มค่าของเม็ดเงินงบประมาณมาโดยตลอด หากนับรวมโครงการฯ ตั้งแต่เฟสแรกจนถึงเฟสที่ 3 รวมๆ แล้วใช้งบประมาณกว
- ผล บอล บอสเนีย
- โหลด เกม pg slotไพ่ dummy
- scr888 918kiss dol.918kiss.com
- kssi918
- สล็อต ส ตา ร์ แบ ท
- star vegas 8888