Home
|
bakara sa

Pengurus Besar Akuatik Indonesia menggelar Kejuara

bakara sa

วันนี้ (31 ธ.ค.2566) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงการลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นวันที่ 30 นับตั้งแต่เปิดลงทะเบียน (1 ธ.ค.2566) จากข้อมูลของสำนักการสอบสวนและนิติการ กร

วันนี้ (3 ส.ค.2565) สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) แจ้งสายการบินสัญชาติไทยที่จะเดินทางเข้าและออกจากประเทศไทยในระยะนี้ ให้เลี่ยงเส้นทางบินเหนือบริเวณน่านฟ้ารอบๆ ไต้หวัน หลังจากที่สาธารณรัฐปร

ก่อนที่ปมเหตุกำลังพลในพื้นที่กองทัพภาคที่ 4 ร้องเรียนปัญหาโครงการบ้านจัดสรรที่ จ.นครศรีธรรมราช โดยมีนายทหารระดับ พ.อ.เป็นผู้ประสานงานโครงการ อาจจะซ้ำรอยปัญหากู้เงินสวัสดิการซื้อบ้านที่ จ.นครราชสีมา จนนำไปสู่มูลเหตุความขัดแย้ง ระหว่างกำลังพลชั้นผู้น้อย กับผู้บังคัญชาและบานปลายเกิดเหตุกราดยิง เมื่อวันที่ 8-9 ก.พ.2563 ทำให้ พล.อ.ณรงค์พันธุ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบการบริหารจัดการโครงการบ้านพัก เพื่อสวัสดิการกำลังพลทุกโครงการในทุกจังหวัด และช่วยเหลือกำลังพลชั้นผู้น้อยที่ประสบปัญหาต่างๆ เช่น บ้านไม่ได้มาตรฐาน การก่อสร้างผิดแบบจนเข้าอยู่อาศัยไม่ได้ รวมไปถึงการถูกจูงใจให้กู้ซื้อบ้านในโครงการเหล่านั้น เพื่อใหัได้เงินส่วนต่าง หรือ เงินทอนจากการกู้เงินสวัสดิการทหารมูลค่าเกินกว่าราคาบ้านที่ซื้อขายจริง สำหรับสวัสดิการด้านที่พักอาศัยของกองทัพบกว่า มี 3 รูปแบบ คือการจัดสร้างบ้านพักของทางราชการ หรือบ้านหลวง ,การให้กู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองผ่านกิจการออมทรัพย์เคหะสงเคราะห์ และโครงการบ้านธนารักษ์บนที่ราชพัสดุในการครอบครองของกองทัพบกที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ทางทหาร ซึ่งริเริ่มเมื่อปี 2548 ตามมติ ครม.ในยุครัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร และมี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็น ผบ.ทบ.ในขณะนั้น จนถึงปัจจุบันดําเนินการทั้งสิ้น 16 โครงการ ในหลายจังหวัด และปิดโครงการไปแล้ว 8 โครงการ จำนวน 2,884 หลัง หนึ่งในจำนวนนั้นคือโครงการบ้านธนารักษ์ มทบ.13 จ.ลพบุรี ซึ่งถือเป็นโครงการที่เปิดขายให้กำลังพลในลำดับต้นๆ เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีหน่วยทหารจำนวนมาก พล.ต.ธนสิน สุขโข ผบ.มทบ.13 กล่าวว่า บ้านในโครงการธนารักษ์จะถูกกว่าการซื้อบ้านในโครงการเอกชน เนื่องจากที่ดินเป็นการเช่าระยะยาวกับกรมธนารักษ์มีกฎหมายรองรับ โดยสัดส่วนโครงการสำหรับข้าราชการทหารร้อยละ 70 และขายให้ข้าราชการพลเรือนร้อยละ 30 โดยมีคณะกรรมการกลั่นกรองและตรวจสอบทุกขั้นตอน รวมทั้งปิดช่องเรื่องเงินทอนส่วนต่าง เพราะราคาบ้านถูกระบุไว้ชัดเจน จ.ส.อ.พิเชษฐ์ สุดสวาท กำลังพล มทบ.13 ที่เข้าร่วมโครงการนี้ตั้งแต่เริ่มต้นและต้องผ่อนชำระรวม 25 ปี ยอมรับว่า บ้านเป็นปัจจัยสำคัญ แต่การตัดสินใจซื้อต้องรอบคอบ การปัดฝุ่นสะสางปัญหาโครงการบ้านพักสวัสดิการทbakara saหารทั่วประเทศของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ เป็นการสานต่อนโยบาย พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีต ผบ.ทบ.ในการจัดระเบียบบ้านพักสวัสดิการทั้งระบบ เพื่อให้กำลังพลมีบ้านเป็นของตนเองหลังเกษียณและต้องคืนบ้านหลวง ช่วง 20 ปี ที่ผ่านมา มีกำลังพลกู้ยืมเงินสวัสดิการไปซื้อที่เป็นที่พักอาศัย รวมถึงการปลูกสร้างบ้าน ไม่น้อยกว่า 50,000 นาย และปัจจุบันมีกำลังพล ที่มีภาระผูกพันในการผ่อนชำระกว่า 15,000 นาย

เมื่อวันที่ 15 พ.ย.2565 นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม เปิดเผยว่า การจัดงานเลี้ยงรับรองการประชุมผู

เตรียมความพร้อม “ยื่นภาษี 2567” ช่วงต้นปี 2568 ที่จะต้องยื่นในช่วงเดือน มกราคม-มีนาคม 2568 และยื่นภา

วันนี้ (11 ก.พ.2564) นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล เปิดเผยว่า วันนี้ยังไม่มีการบรรจุระเบียบวาระ

ก่อนที่ปมเหตุกำลังพลในพื้นที่กองทัพภาคที่ 4 ร้องเรียนปัญหาโครงการบ้านจัดสรรที่ จ.นครศรีธรรมราช โดยมีนายทหารระดับ พ.อ.เป็นผู้ประสานงานโครงการ อาจจะซ้ำรอยปัญหากู้เงินสวัสดิการซื้อบ้านที่ จ.นครราชสีมา จนนำไปสู่มูลเหตุความขัดแย้ง ระหว่างกำลังพลชั้นผู้น้อย กับผู้บังคัญชาและบานปลายเกิดเหตุกราดยิง เมื่อวันที่ 8-9 ก.พ.2563 ทำให้ พล.อ.ณรงค์พันธุ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบการบริหารจัดการโครงการบ้านพัก เพื่อสวัสดิการกำลังพลทุกโครงการในทุกจังหวัด และช่วยเหลือกำลังพลชั้นผู้น้อยที่ประสบปัญหาต่างๆ เช่น บ้านไม่ได้มาตรฐาน การก่อสร้างผิดแบบจนเข้าอยู่อาศัยไม่ได้ รวมไปถึงการถูกจูงใจให้กู้ซื้อบ้านในโครงการเหล่านั้น เพื่อใหัได้เงินส่วนต่าง หรือ เงินทอนจากการกู้เงินสวัสดิการทหารมูลค่าเกินกว่าราคาบ้านที่ซื้อขายจริง สำหรับสวัสดิการด้านที่พักอาศัยของกองทัพบกว่า มี 3 รูปแบบ คือการจัดสร้างบ้านพักของทางราชการ หรือบ้านหลวง ,การให้กู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองผ่านกิจการออมทรัพย์เคหะสงเคราะห์ และโครงการบ้านธนารักษ์บนที่ราชพัสดุในการครอบครองของกองทัพบกที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ทางทหาร ซึ่งริเริ่มเมื่อปี 2548 ตามมติ ครม.ในยุครัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร และมี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็น ผบ.ทบ.ในขณะนั้น จนถึงปัจจุบันดําเนินการทั้งสิ้น 16 โครงการ ในหลายจังหวัด และปิดโครงการไปแล้ว 8 โครงการ จำนวน 2,884 หลัง หนึ่งในจำนวนนั้นคือโครงการบ้านธนารักษ์ มทบ.13 จ.ลพบุรี ซึ่งถือเป็นโครงการที่เปิดขายให้กำลังพลในลำดับต้นๆ เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีหน่วยทหารจำนวนมาก พล.ต.ธนสิน สุขโข ผบ.มทบ.13 กล่าวว่า บ้านในโครงการธนารักษ์จะถูกกว่าการซื้อบ้านในโครงการเอกชน เนื่องจากที่ดินเป็นการเช่าระยะยาวกับกรมธนารักษ์มีกฎหมายรองรับ โดยสัดส่วนโครงการสำหรับข้าราชการทหารร้อยละ 70 และขายให้ข้าราชการพลเรือนร้อยละ 30 โดยมีคณะกรรมการกลั่นกรองและตรวจสอบทุกขั้นตอน รวมทั้งปิดช่องเรื่องเงินทอนส่วนต่าง เพราะราคาบ้านถูกระบุไว้ชัดเจน จ.ส.อ.พิเชษฐ์ สุดสวาท กำลังพล มทบ.13 ที่เข้าร่วมโครงการนี้ตั้งแต่เริ่มต้นและต้องผ่อนชำระรวม 25 ปี ยอมรับว่า บ้านเป็นปัจจัยสำคัญ แต่การตัดสินใจซื้อต้องรอบคอบ การปัดฝุ่นสะสางปัญหาโครงการบ้านพักสวัสดิการทbakara saหารทั่วประเทศของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ เป็นการสานต่อนโยบาย พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีต ผบ.ทบ.ในการจัดระเบียบบ้านพักสวัสดิการทั้งระบบ เพื่อให้กำลังพลมีบ้านเป็นของตนเองหลังเกษียณและต้องคืนบ้านหลวง ช่วง 20 ปี ที่ผ่านมา มีกำลังพลกู้ยืมเงินสวัสดิการไปซื้อที่เป็นที่พักอาศัย รวมถึงการปลูกสร้างบ้าน ไม่น้อยกว่า 50,000 นาย และปัจจุบันมีกำลังพล ที่มีภาระผูกพันในการผ่อนชำระกว่า 15,000 นาย

ก่อนที่ปมเหตุกำลังพลในพื้นที่กองทัพภาคที่ 4 ร้องเรียนปัญหาโครงการบ้านจัดสรรที่ จ.นครศรีธรรมราช โดยมี