วันนี้ (9 พ.ย.2565) ตำรวจชุดปฏิบัติการเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) ตรวจวัตถุต้องสงสัยโดยใช้สุนัขตำรวจหน่

วันนี้ (21 ม.ค.2564) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.ภัคพงษ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางเข้าติดตามเหตุวิสามัญฆาตกรรมชายคลั่งก่อเหตุฆ่าหั่นศพแม่และเผาบ้านตัวเองใ

วันนี้(15 ธ.ค.2566) นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า สนค. วิเคราะห์ผลกระทบของการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าต่ออัตราเงินเฟ้อทั่วไปและต้นทุนในระบบเศรษฐกิจ พบว่า หากมีการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าเป็น 4.68 บาทต่อหน่วย เท่ากันทั้งครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรม จากระดับปัจจุบัน ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 3.99 บาทต่อหน่วย หรือเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 17.29 จะส่งผลกระทบในหลากหลายมิติ นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ทั้งอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น ต้นทุนผู้ประกอบการมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และเพิ่มความเสี่ยงต่อผู้ประกอบการที่มีข้อจำกัดอยู่แล้ว เนื่องจากค่ากระแสไฟฟ้าเป็นปัจจัยการผลิตต้นน้ำที่สำคัญ หากปรับขึ้น จะส่งผ่านผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอื่น ๆ ทั้งกลางน้ำและปลายน้ำ และยังส่งผลกระทบทางตรงและทางอ้อมได้เป็นวงกว้าง อ่านข่าว: "พาณิชย์" ส่ง "เกมส์-แฟชั่น -ภาพยนตร์" Soft Power ไทย โกอินเตอร์ "พีระพันธุ์"​ ชง ครม.ของบกลาง 1.9 พันล้าน ช่วยค่าไฟกลุ่มเปราะบาง โดยมีสัดส่วนร้อยละ 2.51ของต้นทุนการผลิตทั้งหมด (ข้อมูลจากตารางปัจจัยการผลิตและผลผลิต , Input-Output Table) โดยสาขาการผลิตที่มีการใช้ไฟฟ้าเป็นต้นทุนสูง ได้แก่ การผลิตน้ำแข็ง ร้อยละ 29.88 ของต้นทุนการผลิตทั้งหมด โรงแรมและที่พักอื่น ร้อยละ 17.12 นายพูนพงษ์ กล่าวอีกว่า เช่นเดียวกับสถานที่เก็บสินค้าและการเก็บสินค้า ร้อยละ 16.90 การประปา ร้อยละ 14.30 การผลิตซีเมนต์ ร้อยละ 12.13 การปัcopa168 pantip2-1/2 3 ราคาบอล่นด้าย การหีบฝ้าย และเส้นใยประดิษฐ์ ร้อยละ 12.11 ตามลำดับ ขณะที่ในมิติของสินค้าที่ครัวเรือนบริโภค ค่ากระแสไฟฟ้ามีสัดส่วนถึงร้อยละ 3.90 ของค่าใช้จ่ายครัวเรือน สำหรับภาคการผลิตและบริการจะมีต้นทุนเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.65 และภาคครัวเรือนมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.66 ทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นจากคาดการณ์เดิมทันทีร้อยละ 0.66 และมีโอกาสเพิ่มขึ้นอีกถึงร้อยละ 1.62 หากมีการส่งผ่านต้นทุนการผลิตและบริการไปยังสินค้าขั้นสุดท้ายในระยะต่อไป สำหรับสินค้าและบริการที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุดมี 5 อันดับ คือ  น้ำแข็ง ค่าห้องพักโรงแรม น้ำประปา เสื้อผ้า และผ้าอ้อมเด็ก และยังมีความเสี่ยงทำให้ค่าเช่าบ้านและอาหารสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นด้วย โดยเฉพาะราคาอาหารสำเร็จรูปเป็นผลจากค่าเช่าพื้นที่หรือค่าเช่าตลาดที่เพิ่มขึ้นด้วย นายพูนพงษ์กล่าวว่า สิ่งที่ควรเฝ้าระวังและติดตามภาคธุรกิจที่มีความเสี่ยงจะได้รับผลกระทบค่อนข้างสูงจากการปรับขึ้นค่าไฟฟ้า โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมหรือบริการที่มีการแข่งขันสูง มีสภาพคล่องต่ำ การเติบโตทางรายได้และผลประกอบการยังไม่ฟื้นตัว รวมถึงมีผู้ประกอบการรายย่อยเป็นจำนวนมากในอุตสาหกรรมดังกล่าว โดยจากข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า วิเคราะห์กลุ่มที่มีอัตราส่วนสภาพคล่องต่ำกว่า 1 และวิเคราะห์อัตรากำไรสุทธิต่อรายได้รวมที่ยังคงติดลบ หรือขาดทุน ในปี 2565 เช่น โรงแรม รีสอร์ตและห้องชุด มีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ลดลงร้อยละ 12.6รวมทั้งจำนวนวิสาหกิจขนาดย่อย (Micro SME) หรือสัดส่วนครึ่งหนึ่งของจำนวนบริษัทที่จดทะเบียนนิติบุคคลทั้งหมด เกสต์เฮ้าส์ มีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ลดลงร้อยละ 7.4 โดยมีจำนวนวิสาหกิจขนาดย่อยสูงถึงร้อยละ 80 ,การผลิตน้ำแข็งเพื่อการบริโภค มีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ลดลงร้อยละ 3.5 โดยมีจำนวนวิสาหกิจขนาดย่อยคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 12.2 ,การทอผ้าจากเส้นใยธรรมชาติ มีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ลดลงร้อยละ 2.1 โดยมีจำนวนวิสาหกิจขนาดย่อยอยู่ที่ร้อยละ 47.5 และ การผลิตจักรยาน มีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ลดลงร้อยละ 1.1โดยมีจำนวนวิสาหกิจขนาดย่อยอยู่ที่ร้อยละ 31.5 ดังนั้น การปรับเพิ่มค่าไฟฟ้า ย่อมเพิ่มความเสี่ยงให้กับกลุ่มธุรกิจเหล่านี้มากขึ้น นอกจากนี้รัฐบาลมีมาตรการลดค่าครองชีพอื่น ๆ จะช่วยลดภาระของประชาชน รวมทั้งควรหลีกเลี่ยงการปรับค่าไฟฟ้าสำหรับภาคธุรกิจในช่วงที่ต้นทุนอื่น ๆ กำลังทยอยปรับเพิ่มขึ้น เช่น ค่าแรงขั้นต่ำ และอัตราดอกเบี้ย เป็นต้น อ่านข่าว: พาณิชย์"จ่อเรียกสอบ 400 ผู้ประกอบการท่องเที่ยว โยงกลุ่มทุนเทา แรงงาน-นายจ้าง ยิ้มไม่ออก ! ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 2 บาท "ดีกว่าไม่ได้"

วันนี้(15 ธ.ค.2566) นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า สนค. วิเคราะห์ผลกระทบของการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าต่ออัตราเงินเฟ้อทั่วไปและต้นทุนในระบบเศรษฐกิจ พบว่า