UID: 37086

วันนี้ (18 มี.ค.2568) กลุ่มลูกจ้างชั่วคราว ประกอบด้วยนักการภารโรง ครูผู้ช่วย ครูพี่เลี้ยง และเจ้าหน้

วันนี้ (14 ม.ค.2567) ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผล

“CobraK” เผยเทคนิคแต่งเพลงแร็พแบบใหม่ “แร็พกวี” เสียดสีสังคม ไม่ใช่แค่จังหวะที่ฟังดูสนุกสนาน แต่เนื้อหาของเพลงแร็พยังต้องสะท้อนสังคมในขณะนั้นด้วย เพราะฉะนั้นการจะแต่งเพลงแร็พจึงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะศิลปินส่วนใหญ่ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง แต่วันนี้จะมาเปิดเผยเทคนิคการแต่งเพลงแบบหมดเปลือกกับแร็พเปอร์มืออาชีพ “CobraK” ซึ่งโด่งดังในโลกออนไลน์ “CobraK” เผยเทคนิคแต่งเพลงแร็พแบบใหม่ “แร็พกsbobet 236วี” เสียดสีสังคม เสียดสีวัยรุ่นที่นิยมพูดคุยกันผ่านตัวอักษรในสมาร์ทโฟนด้วยเนื้อเพลงที่เจ็บแสบอย่าง “สังคมก้มหน้า” หนึ่งในผลงานสร้างชื่อของแร็พเปอร์ดัง “บงกช ยุพา” เจ้าของฉายา “CobraK” กว่า 8 ปีที่ทำเพลงแร็พเสียดสีสังคมจนประสบความสำเร็จและได้การยอมรับ ทำให้ขวัญใจขาแร็พคนนี้ ถูกเชิญมาถ่ายทอดเทคนิคการทำเพลงแร็พให้ผู้ที่สนใจเป็นครั้งแรกในงานเทศกาลศิลปะ JaF ความช่างสังเกตทำให้ CobraK บันทึกแผนผังการแต่งเพลงแร็พออกมาได้มากถึง 9 รูปแบบ ที่สามารถใช้กับดนตรีได้หลายประเภท ซึ่งแบบที่นิยมมากที่สุดในปัจจุบันคือการเล่นสัมผัสสองคำสุดท้ายของประโยค ด้วยวิธีการที่คล้ายคลึงกับการแต่งกลอนไทย ทำให้แร็ปเปอร์ขนานนามตัวเองว่าเป็นเหมือน “นักกวียุคใหม่” เดิมทีเพลงแร็พถูกใช้เพื่อแสดงความเป็นตัวตนของกลุ่มก้อนของบรรดาแก๊งค์วัยรุ่นในสหรัฐอเมริกา ทำให้นิยมการเล่าเรื่องโดยใช้ถ้อยคำรุนแรง แต่ก็แฝงไปด้วยเนื้อหาและแนวคิดสะท้อนสังคมจากมุมมองของคนรากหญ้าชาวแอฟริกัน-อเมริกัน ซึ่งเป็นหัวใจหลักของเพลงแร็พตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม ปัจจุบันมีคนรุ่นใหม่คนสนใจอยากทำเพลงแร็พมากขึ้น เพราะเทคโนโลยีที่สามารถทำงานเพลงได้ง่ายขึ้น หากแร็พเปอร์มืออาชีพมองว่าบางส่วนทำตามกระแส เพราะเชื่อแบบผิดๆ ว่าเพลงแร็พทำให้ดูเท่และทันสมัย จนลืมจุดหมายสำคัญที่แท้จริงว่าบทเพลงโดยเฉพาะแร็พและฮิพฮอพ นอกจากฟังเพื่อความบันเทิงแล้ว ยังต้องเป็นภาพสะท้อนของสังคม ในสายตาของเจ้าของเพลงอีกด้วย เสียดสีวัยรุ่นที่นิยมพูดคุยกันผ่านตัวอักษรในสมาร์ทโฟนด้วยเนื้อเพลงที่เจ็บแสบอย่าง “สังคมก้มหน้า” หนึ่งในผลงานสร้างชื่อของแร็พเปอร์ดัง “บงกช ยุพา” เจ้าของฉายา “CobraK” กว่า 8 ปีที่ทำเพลงแร็พเสียดสีสังคมจนประสบความสำเร็จและได้การยอมรับ ทำให้ขวัญใจขาแร็พคนนี้ ถูกเชิญมาถ่ายทอดเทคนิคการทำเพลงแร็พให้ผู้ที่สนใจเป็นครั้งแรกในงานเทศกาลศิลปะ JaF ความช่างสังเกตทำให้ CobraK บันทึกแผนผังการแต่งเพลงแร็พออกมาได้มากถึง 9 รูปแบบ ที่สามารถใช้กับดนตรีได้หลายประเภท ซึ่งแบบที่นิยมมากที่สุดในปัจจุบันคือการเล่นสัมผัสสองคำสุดท้ายของประโยค ด้วยวิธีการที่คล้ายคลึงกับการแต่งกลอนไทย ทำให้แร็ปเปอร์ขนานนามตัวเองว่าเป็นเหมือน “นักกวียุคใหม่” เดิมทีเพลงแร็พถูกใช้เพื่อแสดงความเป็นตัวตนของกลุ่มก้อนของบรรดาแก๊งค์วัยรุ่นในสหรัฐอเมริกา ทำให้นิยมการเล่าเรื่องโดยใช้ถ้อยคำรุนแรง แต่ก็แฝงไปด้วยเนื้อหาและแนวคิดสะท้อนสังคมจากมุมมองของคนรากหญ้าชาวแอฟริกัน-อเมริกัน ซึ่งเป็นหัวใจหลักของเพลงแร็พตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม ปัจจุบันมีคนรุ่นใหม่คนสนใจอยากทำเพลงแร็พมากขึ้น เพราะเทคโนโลยีที่สามารถทำงานเพลงได้ง่ายขึ้น หากแร็พเปอร์มืออาชีพมองว่าบางส่วนทำตามกระแส เพราะเชื่อแบบผิดๆ ว่าเพลงแร็พทำให้ดูเท่และทันสมัย จนลืมจุดหมายสำคัญที่แท้จริงว่าบทเพลงโดยเฉพาะแร็พและฮิพฮอพ นอกจากฟังเพื่อความบันเทิงแล้ว ยังต้องเป็นภาพสะท้อนของสังคม ในสายตาของเจ้าของเพลงอีกด้วย

“CobraK” เผยเทคนิคแต่งเพลงแร็พแบบใหม่ “แร็พกวี” เสียดสีสังคม ไม่ใช่แค่จังหวะที่ฟังดูสนุกสนาน แต่เนื้