Kementerian Ketenagakerjaan bekerja sama dengan Ka

วันนี้ (5 มี.ค.2568) กองทัพอากาศไทย ซ้อมการจัดแสดงฝูงบินผาดแผลงระดับโลก ในงานครบรอบ 88 ปี กองทัพอากาศ โดยถือเป็นครั้งแรกกับ International Air Show ของฝูงบินผาดแผลงระดับโลก ฝูงบิน August First จากกองทั
วันนี้ (23 ก.ค.2567) น.ส.กรรวี สิทธิชีวภาค อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 8 เรื่องพายุพระพิรุณ โดยเมื่อเวลา 07.00 น. ของวันนี้ (23 ก.ค.) พายุโซนร้อนพระพิรุณได้เคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเมืองก๋วงนิ
นายชลวิทย์ ทองเจริญชัยกิจ นักวิชาการ 6 สำนักวิชาการพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา อพวช. หัวหน้าชุดในการศึกษา เรื่องราวจากโครงกระดูกวาฬบรูด้า "แม่จ๊ะเอ๋" เขาเป็นหนึ่งในนักโบราณคดี ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในทีมวิจัย โดยโครงกระดูกวาฬบรูด้า "แม่จ๊ะเอ๋" 120 ชิ้น ถูกจัดแสดงภายในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2564 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-19 พ.ย.2564 ที่อิมแพค เมืองทองธานี ผ่านนิทรรศการโครงร่างสร้างเรื่อง (SKeleton) ถือเป็นโครงวาฬบรูด้า ที่สมบูรณ์ที่สุดในไทย ชลวิทย์ เล่าว่า หลายคนอาจเข้าใจว่า นักโบราณคดีเป็นผู้ค้นพบไดโนเสาร์แต่เป็นคนละอย่างกัน เพราะคนที่ศึกษาเรื่องของฟอสซิลก่อนหน้าจะมีบรรพบุรุษมนุษย์ถือกำเนิดขึ้นมาจะเรียกว่า "นักบรรพชีวินวิทยา" ซึ่งจะศึกษาเกี่ยวกับซากดึกดำบรรพ์ ลักษณะรูปร่าง ลักษณะความเป็นอยู่ และประวัติการวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ผ่านข้อมูลและร่อยรอยสัตว์ต่าง ๆ บนชั้นหิน ขณะที่ นักโบราณคดีพยายามที่จะศึกษาเกี่ยวกับเรื่องของผู้เป็นเจ้าของวัฒนธรรมนั้น ๆ เช่น มีการขุดพบภาชนะดินเผาที่เป็นเครื่องมือ เครื่องใช้ของคน ความเปลี่ยนแปลงในเรื่องเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นการผลิตภาชนะดินเผา เครื่องมือหิน รวมไปถึงการศึกษาเรื่องโครงกระดูกของมนุษย์ จะเป็นลักษณะกลุ่มประชากรที่พบเห็นมีเพศชาย เพศหญิง ช่วงวัย ร่องรอยโรค มีความผิดปกติอะไรบ้าง ศึกษาในทุกแง่มุม ทำให้เข้าใจวัฒนธรรมที่ไม่เป็นที่รู้จักและหายสาบสูญไปแล้ว นักโบราณคดีจะศึกษาตั้งแต่ช่วงเวลาที่มีบรรพบุรุษมนุษย์ถือกำเนิดขึ้นมา และเป็นสังคมวัฒนธรรมต่างๆ ตั้งแต่การเก็บของป่าล่าสัตว์ ไปจนถึงเกษตรกรรมล่าสัตว์ เช่น พวกแหล่งโบราณคดี บ้านเชียง และไม่เพียงศึกษาเรื่องของมนุษย์เพียงอย่างเดียว ยังศึกษาเรื่อง สัตววิทยาโบราณคดี เกี่ยวกับกระดูกสัตว์ ด้วย ภาพ : museumthailand ภาพ : museumthailand ชลวิทย์ เล่าความท้าทายใหม่ การศึกษาเรื่องกระดูกวาฬและโลมา ที่ในประเทศไทยยังมีน้อยคนที่ศึกษาเรื่องนี้โดยเฉพาะ ถือว่าตนเองโชคดี ที่พบเห็นวาฬ โลมา หลากหลายชนิดในทะเลอ่าวไทยและอันดามัน หากเทียบกับนักบรรพชีวินวิทยาที่ศึกษาเกี่ยวกับซากดึกดำบรรพ์ เช่น ไดโนเสาร์ ต่อให้เขาอยากออกไปเห็นของจริงก็ทำไม่ได้ ภาพ : พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา ภาพ : พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา งานศึกษาวิจัยชิ้นนี้ ถือเป็นชิ้นแรกที่ทำร่วมกับ อพวช. ซึ่งได้มีการรับบริจาคตัวอย่าง กระดูกวาฬบรูด้า "เม่จ๊ะเอ๋" สัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมมาเก็บรักษา เป็นตัวอย่างสำหรับการวิจัย ทำให้ได้มีโอกาสได้สัมผัสความพิเศษหลายอย่างของสัตว์ในกลุ่มนี้ ไม่ว่าจะเป็นโครงกระดูก รวมไปถึงความผิดปกติในโครงกระดูกนั้น ๆ อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจของสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดใหญ่ คือ การได้ศึกษาเรื่องวิวัฒนาการ เพื่อเอื้ออำนวยต่อการอยู่อาศัยในทะเลได้วิเคราะห์ บอล พรุ่งนี้ แม่น ๆ เช่น รูปทรงที่มีลักษณะเพรียว คล้ายจรวดตอปิโด หรือลักษณะของครีบ ที่ช่วยในการว่ายน้ำ เรื่องของกระดูกอาจจะไม่มีโอกาสได้ศึกษา หรือครอบคลุมนัก เพราะว่าหลังชันสูตรเสร็จแล้วจะฝังซาก ทิ้งไว้อีก 1-2 ปี จึงจะกลับไปขุด กู้ขึ้นมาอีกครั้ง ฉะนั้นงานของเราเหมือนกับช่วยในเรื่องของการเสริมต่อจากสิ่งที่สัตวแพทย์ได้ศึกษาไว้ ชลวิทย์ เล่าว่า ได้พบกับวาฬบรูด้า "แม่จ๊ะเอ๋" ตอนเป็น "เจ้าจ๊ะเอ๋" ยังไม่รู้ว่าเป็น ตัวผู้ หรือตัวเมีย จนกระทั้งเปลี่ยนสภาพมาเป็น “แม่จ๊ะเอ๋” มีลูกมา 2 ตัว คือ เจ้าตึก เจ้าหนึ่ง ชลวิทย์ บอกว่า ลักษณะเด่นของสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม คือ มีไขมัน เรื่องของการสงวนรักษาสภาพของกระดูก “แม่จ๊ะเอ๋” จึงกลายเป็นเรื่องท้าทายในการเก็บรักษา ตัวไขมันที่จะซึมออกมาจากกระดูกวาฬ อาจทำให้เกิดเป็นคราบกับกระดูก หากไม่ทำความสะอาด อาจกลายเป็นที่เกาะของฝุ่นละออง และทำให้เกิดเชื้อราหรือปฎิกริยาที่เรียกว่า ปฏิกิริยาออกซิเดชัน ทำให้กระดูกเปลี่ยนเป็นสีดำคล้ำ ภาพ : พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา ภาพ : พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา นายชลวิทย์ กล่าวถึงความสมบูรณ์ของทะเลไทย ซึ่งเป็นถิ่นอาศัยของ "วาฬบรูด้า" เรียกได้ว่าแค่นั่งเรือออกไป แถบเพชรบูรณ์ สมุทรสาคร มีโอกาสที่ได้พบเห็นวาฬตัวใหญ่ จากสถิติของสัตว์ทะเล สาเหตุหนึ่งของการตาย จะเป็นเป็นเรื่องอุบัติเหตุจากเครื่องมือประมง เรือ จึงต้องสร้างความตระหนักเพื่อลดความสูญเสีย ตราบใดที่ทะเลยังมีความอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งอาหาร ปราศจากขยะพลาสติก ซึ่งอาจจะมีปัญหาไม่เฉพาะวาฬกับโลมา แต่รวมไปถึงสัตว์ทะเลอื่น ๆ ด้วย เราก็ยังมีโอกาสได้พบวาฬบรูด้าเรื่อย ๆ ทุกครั้ง ที่ออกทะเลไป ข่าวที่เกี่ยวข้อง รู้จัก "แม่จ๊ะเอ๋" ผ่านโครงกระดูกวาฬบรูด้า 126 ชิ้น ครั้งแรก! "วาฬบรูด้าแม่จ๊ะเอ๋" โชว์งานวิทยาศาสตร์ 9-19 พ.ย.
เกาหลีเหนือเปิดภัตตาคาร เกาหลีเหนือ ย้ำสัมพันธ์ร่วมพม่า เปิดภัตตาคารหรู ให้นักการทูตทั้งโสมแดงและโสม
นายชลวิทย์ ทองเจริญชัยกิจ นักวิชาการ 6 สำนักวิชาการพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา อพวช. หัวหน้าชุดในการศึกษ
วันนี้ (12 ต.ค.65) ที่พรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีนายจุรินท
นายชลวิทย์ ทองเจริญชัยกิจ นักวิชาการ 6 สำนักวิชาการพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา อพวช. หัวหน้าชุดในการศึกษา เรื่องราวจากโครงกระดูกวาฬบรูด้า "แม่จ๊ะเอ๋" เขาเป็นหนึ่งในนักโบราณคดี ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในทีมวิจัย โดยโครงกระดูกวาฬบรูด้า "แม่จ๊ะเอ๋" 120 ชิ้น ถูกจัดแสดงภายในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2564 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-19 พ.ย.2564 ที่อิมแพค เมืองทองธานี ผ่านนิทรรศการโครงร่างสร้างเรื่อง (SKeleton) ถือเป็นโครงวาฬบรูด้า ที่สมบูรณ์ที่สุดในไทย ชลวิทย์ เล่าว่า หลายคนอาจเข้าใจว่า นักโบราณคดีเป็นผู้ค้นพบไดโนเสาร์แต่เป็นคนละอย่างกัน เพราะคนที่ศึกษาเรื่องของฟอสซิลก่อนหน้าจะมีบรรพบุรุษมนุษย์ถือกำเนิดขึ้นมาจะเรียกว่า "นักบรรพชีวินวิทยา" ซึ่งจะศึกษาเกี่ยวกับซากดึกดำบรรพ์ ลักษณะรูปร่าง ลักษณะความเป็นอยู่ และประวัติการวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ผ่านข้อมูลและร่อยรอยสัตว์ต่าง ๆ บนชั้นหิน ขณะที่ นักโบราณคดีพยายามที่จะศึกษาเกี่ยวกับเรื่องของผู้เป็นเจ้าของวัฒนธรรมนั้น ๆ เช่น มีการขุดพบภาชนะดินเผาที่เป็นเครื่องมือ เครื่องใช้ของคน ความเปลี่ยนแปลงในเรื่องเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นการผลิตภาชนะดินเผา เครื่องมือหิน รวมไปถึงการศึกษาเรื่องโครงกระดูกของมนุษย์ จะเป็นลักษณะกลุ่มประชากรที่พบเห็นมีเพศชาย เพศหญิง ช่วงวัย ร่องรอยโรค มีความผิดปกติอะไรบ้าง ศึกษาในทุกแง่มุม ทำให้เข้าใจวัฒนธรรมที่ไม่เป็นที่รู้จักและหายสาบสูญไปแล้ว นักโบราณคดีจะศึกษาตั้งแต่ช่วงเวลาที่มีบรรพบุรุษมนุษย์ถือกำเนิดขึ้นมา และเป็นสังคมวัฒนธรรมต่างๆ ตั้งแต่การเก็บของป่าล่าสัตว์ ไปจนถึงเกษตรกรรมล่าสัตว์ เช่น พวกแหล่งโบราณคดี บ้านเชียง และไม่เพียงศึกษาเรื่องของมนุษย์เพียงอย่างเดียว ยังศึกษาเรื่อง สัตววิทยาโบราณคดี เกี่ยวกับกระดูกสัตว์ ด้วย ภาพ : museumthailand ภาพ : museumthailand ชลวิทย์ เล่าความท้าทายใหม่ การศึกษาเรื่องกระดูกวาฬและโลมา ที่ในประเทศไทยยังมีน้อยคนที่ศึกษาเรื่องนี้โดยเฉพาะ ถือว่าตนเองโชคดี ที่พบเห็นวาฬ โลมา หลากหลายชนิดในทะเลอ่าวไทยและอันดามัน หากเทียบกับนักบรรพชีวินวิทยาที่ศึกษาเกี่ยวกับซากดึกดำบรรพ์ เช่น ไดโนเสาร์ ต่อให้เขาอยากออกไปเห็นของจริงก็ทำไม่ได้ ภาพ : พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา ภาพ : พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา งานศึกษาวิจัยชิ้นนี้ ถือเป็นชิ้นแรกที่ทำร่วมกับ อพวช. ซึ่งได้มีการรับบริจาคตัวอย่าง กระดูกวาฬบรูด้า "เม่จ๊ะเอ๋" สัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมมาเก็บรักษา เป็นตัวอย่างสำหรับการวิจัย ทำให้ได้มีโอกาสได้สัมผัสความพิเศษหลายอย่างของสัตว์ในกลุ่มนี้ ไม่ว่าจะเป็นโครงกระดูก รวมไปถึงความผิดปกติในโครงกระดูกนั้น ๆ อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจของสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดใหญ่ คือ การได้ศึกษาเรื่องวิวัฒนาการ เพื่อเอื้ออำนวยต่อการอยู่อาศัยในทะเลได้วิเคราะห์ บอล พรุ่งนี้ แม่น ๆ เช่น รูปทรงที่มีลักษณะเพรียว คล้ายจรวดตอปิโด หรือลักษณะของครีบ ที่ช่วยในการว่ายน้ำ เรื่องของกระดูกอาจจะไม่มีโอกาสได้ศึกษา หรือครอบคลุมนัก เพราะว่าหลังชันสูตรเสร็จแล้วจะฝังซาก ทิ้งไว้อีก 1-2 ปี จึงจะกลับไปขุด กู้ขึ้นมาอีกครั้ง ฉะนั้นงานของเราเหมือนกับช่วยในเรื่องของการเสริมต่อจากสิ่งที่สัตวแพทย์ได้ศึกษาไว้ ชลวิทย์ เล่าว่า ได้พบกับวาฬบรูด้า "แม่จ๊ะเอ๋" ตอนเป็น "เจ้าจ๊ะเอ๋" ยังไม่รู้ว่าเป็น ตัวผู้ หรือตัวเมีย จนกระทั้งเปลี่ยนสภาพมาเป็น “แม่จ๊ะเอ๋” มีลูกมา 2 ตัว คือ เจ้าตึก เจ้าหนึ่ง ชลวิทย์ บอกว่า ลักษณะเด่นของสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม คือ มีไขมัน เรื่องของการสงวนรักษาสภาพของกระดูก “แม่จ๊ะเอ๋” จึงกลายเป็นเรื่องท้าทายในการเก็บรักษา ตัวไขมันที่จะซึมออกมาจากกระดูกวาฬ อาจทำให้เกิดเป็นคราบกับกระดูก หากไม่ทำความสะอาด อาจกลายเป็นที่เกาะของฝุ่นละออง และทำให้เกิดเชื้อราหรือปฎิกริยาที่เรียกว่า ปฏิกิริยาออกซิเดชัน ทำให้กระดูกเปลี่ยนเป็นสีดำคล้ำ ภาพ : พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา ภาพ : พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา นายชลวิทย์ กล่าวถึงความสมบูรณ์ของทะเลไทย ซึ่งเป็นถิ่นอาศัยของ "วาฬบรูด้า" เรียกได้ว่าแค่นั่งเรือออกไป แถบเพชรบูรณ์ สมุทรสาคร มีโอกาสที่ได้พบเห็นวาฬตัวใหญ่ จากสถิติของสัตว์ทะเล สาเหตุหนึ่งของการตาย จะเป็นเป็นเรื่องอุบัติเหตุจากเครื่องมือประมง เรือ จึงต้องสร้างความตระหนักเพื่อลดความสูญเสีย ตราบใดที่ทะเลยังมีความอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งอาหาร ปราศจากขยะพลาสติก ซึ่งอาจจะมีปัญหาไม่เฉพาะวาฬกับโลมา แต่รวมไปถึงสัตว์ทะเลอื่น ๆ ด้วย เราก็ยังมีโอกาสได้พบวาฬบรูด้าเรื่อย ๆ ทุกครั้ง ที่ออกทะเลไป ข่าวที่เกี่ยวข้อง รู้จัก "แม่จ๊ะเอ๋" ผ่านโครงกระดูกวาฬบรูด้า 126 ชิ้น ครั้งแรก! "วาฬบรูด้าแม่จ๊ะเอ๋" โชว์งานวิทยาศาสตร์ 9-19 พ.ย.
วันนี้ (27 เม.ย.2567) กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้