UID: 34233

น้ำท่วมอยุธยาเข้าขั้นวิกฤต-จับตาน้ำก้อนใหญ่จ่อไหลเข้าเมือง ความจำเป็นที่ต้องผันน้ำจากเขื่อนขนาดใหญ่ห

วันนี้ (26 ม.ค.2566) ตำรวจกองปราบปราม และตำรวจสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เข้าล้อมบ้านหลั

น้ำท่วมอยุธยาเข้าขั้นวิกฤต-จับตาน้ำก้อนใหญ่จ่อไหลเข้าเมือง ความจำเป็นที่ต้องผันน้ำจากเขื่อนขนาดใหญ่หลายแห่งลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสัก ทำให้จุดบรรจบของแม่น้ำทั้ง 2 สายที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขณะนี้อยู่ในภาวะวิกฤต และยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะในช่วง 3-7 วันข้างหน้า มวลน้ำก้อนใหญ่อีกก้อนหนึ่งจะไหลลงมาสมทบ อาจทำให้ปริมาณน้ำสูงขึ้นอีก น้ำท่วมอยุธยาเข้าขั้นวิกฤต-จับตาน้ำก้อนใหญ่จ่อไหลเข้าเมือง ชาวบ้านชุมชนวัดพระญาติ ตำบลธนู อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตัดสินใจพังคันดินที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ธนู ทำขึ้นเพื่อปิดกั้นทางเดินน้ำไม่ให้ไหลเข้าท่วมเขตเศรษฐกิจในตัวอำเภออุทัย ซึ่งชาวบ้านชุมชนวัดพระญาติระบุว่า สาเหตุที่ต้องตัดในใจพังคันดินดังกล่าวเป็นเพราะระดับน้ำเหนือคันดินสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และไม่สามารถระบายไปทางอื่นได้ ทำให้ประชาชนเหนือคันดินได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จึงต้องพังคันดินเพื่อระบายน้ำ ซึ่งผลจากการพังคันดินครั้งนี้ทำให้น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ใต้คันดิน และยังไหลต่อเนื่องไปยังเขตเศรษฐกิจของอำเภออุทัย ซึ่งมีรายงานว่า นอกจากตลาดสด ห้างสรpg โปร ฝาก10รับ100เว็บสล็อต แตกง่าย 2021 ฝากถอน ไม่มี ขั้นต่ำรพสินค้า และสถานที่ราชการ น้ำยังได้ไหลต่อเนื่องไปยังเขตเศรษฐกิจในตำบลคลองสวนพลูด้วย ทำให้ขณะนี้บนถนนโรจนะ น้ำได้ไหลเข้าท่วมเส้นทางทั้งขาเข้าและขาออก ไม่สามารถใช้เส้นทางได้ตั้งแต่บริเวณสี่แยกวัดพระญาติ ต่อเนื่องไปจนถึงสะพานปรีดีพนมยงค์   นอกจากนี้ยังพบเส้นทางในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้รับความเสียหาย และมีระดับน้ำสูงจนไม่สามารถสัญจรได้หลายสาย ทั้งทางหลวงหมายเลข 32 หรือถนนเอเชีย กิโลเมตรที่ 21-23 บริเวณตลาดกลางการเกษตร ตำบลหันตรา อำเภอพระนครศรีอยุธยา ใช้เส้นทางได้เพียงช่องจราจรเดียว ทำให้การจราจรในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาทั้งขาเข้าและขาออกต้องติดขัดอย่างหนักตลอดทั้งวัน และมีแนวโน้มว่าจะมีอีกหลายเส้นทาง โดยเฉพาะเส้นทางสายรองที่จะไม่สามารถใช้งานได้ เนื่องจากระดับน้ำยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง   สำหรับพื้นที่ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขณะนี้ทั้ง 16 อำเภอได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมทุกพื้นที่ คิดเป็นร้อยละ 70 ของพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งแม้จะได้ผลกระทบทุกอำเภอแล้ว แต่หลังจากนี้อีก 3-7 วัน สถานการณ์น้ำอาจเพิ่มสูงขึ้น จนเข้าสู่ภาวะวิกฤตหนัก เพราะมวลน้ำก้อนใหญ่จะไหลลงมาสมทบกันที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งคาดการณ์กันว่า ระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างน้อย 50 เซนติเมตร ซึ่งขณะนี้มีรายงานว่า พื้นที่ของจังหวัดมีน้ำท่วมสูงตั้งแต่ 0.20-3.00 เมตรในบางพื้นที่   ส่วนเขตเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัด ทั้งเทศบาลเมืองอโยธยาและเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมแล้วเช่นกัน แม้จะมีความพยายามในการเสริมกระสอบทรายโดยรอบเกาะเมือง แต่ก็พบว่า ระดับน้ำได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยน้ำท่วมสูงแล้วกว่า 1.00 เมตร ขณะเดียวกันแรงดันน้ำก็ได้สร้างความเสียหายให้กับแนวป้องกันน้ำที่สร้างไว้กว่าร้อยละ 60 ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องเร่งซ่อมแซมเป็นการด่วน

วันนี้ (7 ก.ย.2565) นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน ลงพื้นที่ร่วมกับพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง