วันนี้ (4 ก.พ.64) นพ.เศวตสรร นามวาท รักษาราชการแทน

จากมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ทำให้มีคำสั่งล็อกดาวน์และห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานและออกจากเคหสถานในช่วงเวลาที่กำลัง โดยเฉพาะการเดินทางเข้าพื้นที่ ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด รวม 29 จังหวัด ซึ่ง
วันนี้ (15 พ.ย.2565) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.เห็นชอบการจัดทำบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย กับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ว่าด้วยการยกเ
วันนี้ (15 พ.ย.2565) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.เห็นชอบการจัดทำบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย กับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูต หนังสือเดินทางราชการและหนังสือเดินทางพิเศษ ทั้งนี้ จะมีการลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของมกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย วันที่ 18-19 พ.ย.นี้ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้แทนรัฐบาลไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย เป็นผู้แทนรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย สาระสำคัญของร่างบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ กำหนดให้ประชาชนของประเทศคู่ภาคีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ถือหนังสือเดินทางทูตและหนังสือเดินทางราชการที่มีผลใช้ได้ของรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และหนังสือเดินทางทูตpgล่าสุดและหนังสือเดินทางพิเศษที่มีผลใช้ได้ของรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย จะต้องเดินทางผ่าน พำนักและเดินทางออกจากดินแดนของภาคีอีกฝ่ายหนึ่ง โดยไม่ต้องรับการตรวจลงตราเป็นระยะเวลารวมกันไม่เกินกว่า 90 วัน ในช่วงระยะเวลา 180 วัน นับจากวันแรกที่เดินทางเข้า โดยมีเงื่อนไขว่า บุคคลเหล่านั้นจะไม่ทำงานใด ไม่ว่าการทำงานนั้นจะเป็นการดำเนินกิจการของตนเอง หรือกิจกรรมเชิงพาณิชย์ส่วนตัวใด รองโฆษกรัฐบาล กล่าวอีกว่า นอกจากร่างบันทึกความเข้าใจข้างต้น รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย พร้อมลงนามร่างบันทึกความเข้าใจฯ ระหว่างวันที่ 18-19 พ.ย. อีก 2 ฉบับ ฉบับแรก คือ ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแห่งราชอาณาจักรไทย กับกระทรวงการท่องเที่ยวแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เพื่อพัฒนาความร่วมมือระดับทวิภาคในสาขาท่องเที่ยว ภายใต้ขอบเขตความร่วมมือ เช่น ส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวระหว่างกันมากขึ้น แลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญและพัฒนาบุคลากรในภาคการท่องเที่ยวและบริการ รวมถึงส่งเสริมการพัฒนาการท่องเที่ยว เช่น การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และการท่องเที่ยวเชิงมรดกวัฒนธรรม เป็นต้น ส่วนฉบับที่ 2 คือ ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านพลังงาน ระหว่างกระทรวงพลังงานแห่งราชอาณาจักรไทย กับกระทรวงพลังงานแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดตั้งกรอบความร่วมมือระหว่างคู่ภาคีในสาขาพลังงาน ภายใต้สาขาความร่วมมือ เช่น การพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียนและเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำ การส่งเสริมการปรับเปลี่ยนไปสู่ดิจิทัลและนวัตกรรมด้านพลังงาน การเสริมสร้างขีดความสามารถบุคลากรผ่านการฝึกอบรมและแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับด้านพลังงาน การขับเคลื่อนของคู่ภาคีมีหน้าที่ เช่น จัดตั้งคณะทำงานเพื่อจัดทำข้อเสนอที่จำเป็นสำหรับการดำเนินการภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจนี้ แต่ละภาคีจะรับผิดชอบต้นทุนทางการเงินตามความตกลงนี้ ข่าวที่เกี่ยวข้อง เปิดคิว "พล.อ.ประยุทธ์" ถกผู้นำโลก ช่วงเอเปค 16-19 พ.ย.
วันนี้ (27 ต.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตรวจคัดกรองโควิด-19 ให้กับผู้ค้าในตลาดสันป่าข่อ
วันนี้ (10 ต.ค.2565) สถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือจากอิทธิพลของพายุโนรู ยังวิกฤ
Mojo Vision บริษัทผู้ผลิตคอนแท็กต์เลนส์อัจฉริยะ (Smart Contact Len) ในสหรัฐฯ ได้เผยถึงความคืบหน้าของ
วันนี้ (15 พ.ย.2565) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.เห็นชอบการจัดทำบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย กับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูต หนังสือเดินทางราชการและหนังสือเดินทางพิเศษ ทั้งนี้ จะมีการลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของมกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย วันที่ 18-19 พ.ย.นี้ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้แทนรัฐบาลไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย เป็นผู้แทนรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย สาระสำคัญของร่างบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ กำหนดให้ประชาชนของประเทศคู่ภาคีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ถือหนังสือเดินทางทูตและหนังสือเดินทางราชการที่มีผลใช้ได้ของรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และหนังสือเดินทางทูตpgล่าสุดและหนังสือเดินทางพิเศษที่มีผลใช้ได้ของรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย จะต้องเดินทางผ่าน พำนักและเดินทางออกจากดินแดนของภาคีอีกฝ่ายหนึ่ง โดยไม่ต้องรับการตรวจลงตราเป็นระยะเวลารวมกันไม่เกินกว่า 90 วัน ในช่วงระยะเวลา 180 วัน นับจากวันแรกที่เดินทางเข้า โดยมีเงื่อนไขว่า บุคคลเหล่านั้นจะไม่ทำงานใด ไม่ว่าการทำงานนั้นจะเป็นการดำเนินกิจการของตนเอง หรือกิจกรรมเชิงพาณิชย์ส่วนตัวใด รองโฆษกรัฐบาล กล่าวอีกว่า นอกจากร่างบันทึกความเข้าใจข้างต้น รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย พร้อมลงนามร่างบันทึกความเข้าใจฯ ระหว่างวันที่ 18-19 พ.ย. อีก 2 ฉบับ ฉบับแรก คือ ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแห่งราชอาณาจักรไทย กับกระทรวงการท่องเที่ยวแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เพื่อพัฒนาความร่วมมือระดับทวิภาคในสาขาท่องเที่ยว ภายใต้ขอบเขตความร่วมมือ เช่น ส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวระหว่างกันมากขึ้น แลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญและพัฒนาบุคลากรในภาคการท่องเที่ยวและบริการ รวมถึงส่งเสริมการพัฒนาการท่องเที่ยว เช่น การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และการท่องเที่ยวเชิงมรดกวัฒนธรรม เป็นต้น ส่วนฉบับที่ 2 คือ ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านพลังงาน ระหว่างกระทรวงพลังงานแห่งราชอาณาจักรไทย กับกระทรวงพลังงานแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดตั้งกรอบความร่วมมือระหว่างคู่ภาคีในสาขาพลังงาน ภายใต้สาขาความร่วมมือ เช่น การพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียนและเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำ การส่งเสริมการปรับเปลี่ยนไปสู่ดิจิทัลและนวัตกรรมด้านพลังงาน การเสริมสร้างขีดความสามารถบุคลากรผ่านการฝึกอบรมและแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับด้านพลังงาน การขับเคลื่อนของคู่ภาคีมีหน้าที่ เช่น จัดตั้งคณะทำงานเพื่อจัดทำข้อเสนอที่จำเป็นสำหรับการดำเนินการภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจนี้ แต่ละภาคีจะรับผิดชอบต้นทุนทางการเงินตามความตกลงนี้ ข่าวที่เกี่ยวข้อง เปิดคิว "พล.อ.ประยุทธ์" ถกผู้นำโลก ช่วงเอเปค 16-19 พ.ย.
วันนี้ (31 ธ.ค.2566) ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์และสถานีหัวลำโพง บรรยากาศประชาชนเดินทางกลับบ้านช่วงห