วันนี้ (1 ม.ค.2565) เกิดเหตุเหยียบกันระหว่างที่ผู้
แม้ต้นลำไยจะออกดอกสะพรั่งเต็มต้นสวยงาม แต่เจ้าของสวนลำไยใน ต.ทากาศ อ.แม่ทา จ.ลำพูน กลับต้องกังวลหนักเพราะนี้คือสัญญาณเตือนว่า ปัญหาลำไยราคาตกต่ำเนื่องผลผลิตล้นตลาดอาจหวนกลับมาอีกครั้ง ดำรงค์ จินะกาศ ป
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ลงนามในคำสังตำรวจภูธรภาค 7 ที่ 626/2566 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการและรักษาราชการแทน หลังเกิดเหตุยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สารวัตรกองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลว
วันนี้ (4 ก.พ.2568) เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม ในฐานะโจทก์ เดินทางมายังศาลจังหวัดระยอง เพื่อร่วมสืบพยานนัดแรกฝ่ายโจทก์ จากกรณีที่ยื่นฟ้องบริษัท วินโ พรเสส จำกัด กับพวก ฐานความผิด ร่วมกันมีไว้ครอบครองวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันกufabet 888ระทำการให้เกิดการขัดข้องแก่การใช้น้ำซึ่งเป็นสาธารณูปโภค เป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ทรัพย์ของผู้อื่น และร่วมกันเอาของที่มีพิษ หรือสิ่งอื่นที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เจือลงในน้ำ และน้ำนั้นได้มีอยู่เพื่อประชาชน มีรายงานว่า นายโอภาส บุญจันทร์ จำเลยที่ 2 ในฐานะกรรมการบริษัท รับสารภาพตามคำฟ้องทั้งหมด ศาลจึงพิพากษาให้จำเลยทั้งสอง มีความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย ปี 2535 เป็นความผิดหลายกรรม ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ศาลมีคำสั่งปรับจำเลยที่ 1 คือ บริษัท วินโพร เสส จำกัด เป็นเงิน 350,000 บาท และจำคุกจำเลยที่ 2 คือ นายโอภาส 5 ปี 15 เดือน นับต่อจากคำตัดสินเดิมที่ศาลจังหวัดระยองเคยตัดสินแล้ว เมื่อเดือน ธ.ค.2567 ฐานความผิดการมีไว้ครอบครองวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต คดีนี้สืบเนื่องมาจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม ตรวจพบว่าน้ำในบ่อภายในบริษัท วิน โพรเสส จำกัด มีค่าความเป็นกรดสูง เข้าข่ายเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 และพบการลักลอบฝังกลบ และเททิ้งกากอุตสาหกรรมที่เป็นวัตถุอันตรายลงใต้ดิน นอกจากนี้ ยังพบการระบายน้ำที่ปนเปื้อนออกสู่ลำรางสาธารณะ และไหลสู่หนองพะวา หนองน้ำสาธารณะของชุมชน จนไม่สามารถใช้บริโภคได้ นายสุนทร แก้วสว่าง รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ระบุว่า คดีนี้ถือเป็นคดีแรกที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมเอาผิดผู้ก่อให้เกิดมลพิษในคดีอาญา โดยเห็นว่าเกิดความเสียหายต่อประชาชน และแหล่งน้ำที่ประชาชนใช้ เนื่องจากมีการฝังของเสีย สารเคมีใต้ดิน รวมทั้งมีการปนเปื้อนไปยังแหล่งน้ำ ขณะที่ของเสียภายในโรงงาน ศาลมีคำพิพากษาริบของกลางและส่งมอบให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำไปกำจัด-บำบัด โดยให้จำเลยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย ปัจจุบันภายในโกดัง บริษัท วิน โพรเสส จำกัด มีกากอุตสาหกรรมตกค้างเกือบ 30,000 ตัน ขณะนี้อยู่ระหว่างการขนย้ายกากตะกรันอลูมิเนียมดรอส จำนวน 7,000 ตัน ออกไปกำจัด-บำบัด โดยใช้เงิน 4.9 ล้านบาท ที่บริษัท วิน โพรเสส จำกัด เคยวางไว้ต่อศาล ส่วนกากอุตสาหกรรมที่เหลือ ยังอยู่ระหว่างของบประมาณกลางจากรัฐบาล ซึ่งงบประมาณก้อนแรกจำนวน 40 ล้านบาท อยู่ระหว่างการพิจารณา อ่านข่าว : ศาลสั่ง "วิน โพรเสส" ชดใช้ 1.7 พันล้านฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม จ่อประกาศ 2 ตำบลพื้นที่ประสบสาธารณภัย ไฟไหม้ "วิน โพรเสส" บุกค้น "วิน โพรเสส" หลังรวบตัว "โอภาส" หนีกบดานเพชรบูรณ์
สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ยืนยันบทลงโทษ เจ้าหน้าที่ทีมของทีมชาติไทย และนักกีฬา
กรณีที่ผู้ปกครองนักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ แจ้งความตำรวจหลังตรวจพิกัดจีพีเอสจา
วันนี้ (4 ก.พ.2568) เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม ในฐานะโจทก์ เดินทางมายังศาลจังหวัดระยอง เพื่อร่วม
วันนี้ (4 ก.พ.2568) เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม ในฐานะโจทก์ เดินทางมายังศาลจังหวัดระยอง เพื่อร่วมสืบพยานนัดแรกฝ่ายโจทก์ จากกรณีที่ยื่นฟ้องบริษัท วินโ พรเสส จำกัด กับพวก ฐานความผิด ร่วมกันมีไว้ครอบครองวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันกufabet 888ระทำการให้เกิดการขัดข้องแก่การใช้น้ำซึ่งเป็นสาธารณูปโภค เป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ทรัพย์ของผู้อื่น และร่วมกันเอาของที่มีพิษ หรือสิ่งอื่นที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เจือลงในน้ำ และน้ำนั้นได้มีอยู่เพื่อประชาชน มีรายงานว่า นายโอภาส บุญจันทร์ จำเลยที่ 2 ในฐานะกรรมการบริษัท รับสารภาพตามคำฟ้องทั้งหมด ศาลจึงพิพากษาให้จำเลยทั้งสอง มีความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย ปี 2535 เป็นความผิดหลายกรรม ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ศาลมีคำสั่งปรับจำเลยที่ 1 คือ บริษัท วินโพร เสส จำกัด เป็นเงิน 350,000 บาท และจำคุกจำเลยที่ 2 คือ นายโอภาส 5 ปี 15 เดือน นับต่อจากคำตัดสินเดิมที่ศาลจังหวัดระยองเคยตัดสินแล้ว เมื่อเดือน ธ.ค.2567 ฐานความผิดการมีไว้ครอบครองวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต คดีนี้สืบเนื่องมาจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม ตรวจพบว่าน้ำในบ่อภายในบริษัท วิน โพรเสส จำกัด มีค่าความเป็นกรดสูง เข้าข่ายเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 และพบการลักลอบฝังกลบ และเททิ้งกากอุตสาหกรรมที่เป็นวัตถุอันตรายลงใต้ดิน นอกจากนี้ ยังพบการระบายน้ำที่ปนเปื้อนออกสู่ลำรางสาธารณะ และไหลสู่หนองพะวา หนองน้ำสาธารณะของชุมชน จนไม่สามารถใช้บริโภคได้ นายสุนทร แก้วสว่าง รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ระบุว่า คดีนี้ถือเป็นคดีแรกที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมเอาผิดผู้ก่อให้เกิดมลพิษในคดีอาญา โดยเห็นว่าเกิดความเสียหายต่อประชาชน และแหล่งน้ำที่ประชาชนใช้ เนื่องจากมีการฝังของเสีย สารเคมีใต้ดิน รวมทั้งมีการปนเปื้อนไปยังแหล่งน้ำ ขณะที่ของเสียภายในโรงงาน ศาลมีคำพิพากษาริบของกลางและส่งมอบให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำไปกำจัด-บำบัด โดยให้จำเลยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย ปัจจุบันภายในโกดัง บริษัท วิน โพรเสส จำกัด มีกากอุตสาหกรรมตกค้างเกือบ 30,000 ตัน ขณะนี้อยู่ระหว่างการขนย้ายกากตะกรันอลูมิเนียมดรอส จำนวน 7,000 ตัน ออกไปกำจัด-บำบัด โดยใช้เงิน 4.9 ล้านบาท ที่บริษัท วิน โพรเสส จำกัด เคยวางไว้ต่อศาล ส่วนกากอุตสาหกรรมที่เหลือ ยังอยู่ระหว่างของบประมาณกลางจากรัฐบาล ซึ่งงบประมาณก้อนแรกจำนวน 40 ล้านบาท อยู่ระหว่างการพิจารณา อ่านข่าว : ศาลสั่ง "วิน โพรเสส" ชดใช้ 1.7 พันล้านฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม จ่อประกาศ 2 ตำบลพื้นที่ประสบสาธารณภัย ไฟไหม้ "วิน โพรเสส" บุกค้น "วิน โพรเสส" หลังรวบตัว "โอภาส" หนีกบดานเพชรบูรณ์
วันนี้ (9 ก.ค.2564) ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศไทย พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 9,2