มุมมองที่แตกต่างกันของ ศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการ นายกรัฐมนตรี กับ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ จากพรรค

อัปเดต 2568! บัตรทองอัปเกรดสิทธิ 30 บาทครอบคลุมทั่วไทย รู้ทัน 4 ระบบประกันสุขภาพไทย คุ้มครองอะไรบ้างในปี 2568 วาระการปรับสูตรคำนวณเงินบำนาญชราภาพประกันสังคมใหม่ จะถูกนำกลับเข้าที่ประชุมคณะกรรมการประกั

อัปเดต 2568! บัตรทองอัปเกรดสิทธิ 30 บาทครอบคลุมทั่วไทย รู้ทัน 4 ระบบประกันสุขภาพไทย คุ้มครองอะไรบ้างในปี 2568 วาระการปรับสูตรคำนวณเงินบำนาญชราภาพประกันสังคมใหม่ จะถูกนำกลับเข้าที่ประชุมคณะกรรมการประกันสังคมอีกครั้ง ในวันอังคารนี้ (11 มี.ค.) หลังการประชุมคราวที่แล้วถูกตีกลับ เพราะมีคณะกรรมการบางคนบอกว่าไม่เข้าใจสูตร จึงยังไม่ผ่านการพิจารณา สมมติว่าหากเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ส่งเงินสมทบมา 30 ปี แต่เกิดมาตกงานตอนอายุ 50 ปี แล้วไปสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 ในเวลาที่เหลืออีก 5 ปี สิทธิบำนาญชราภาพที่ได้รับ จะไม่ได้คิดจากฐานเงินเดือนเดิมที่เคยส่ง แต่จะคิดจากฐานเงินเดือนตามมาตรา 39 นั่นอาจหมายถึงเงินที่ได้รับต่อเดือนในยามชรา จากที่ควรจะได้ 4,000-5,000 บาท อาจเหลือแค่เดือนละ 1,000 กว่าบาทเท่านั้น สูตรที่ใช้อยู่ตอนนี้ ใช้มา 27 ปี ตั้งแต่ปี 2540 ผู้ประกันตนมาตรา 33 จะได้บำนาญชราภาพโดยคิดจาก  20% ของฐานเงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย จากเพดานสูงสุดของเงินเดือนไม่เกิน 15,000 บาท ส่วนผู้ประกันตนมาตรา 39 คิด 20% เท่ากัน แต่ฐานเงินจะคิดจาก 4,800 บาท ทั้ง 2 มาตรา ถ้าส่งเงินสมทบเกิน 180 เดือน จะได้เงินบำนาญเพิ่มอีก ปีละ 1.5% สูตรนี้ถ้าเป็นผู้ประกันตน ส่งเงินสมทบมา 20-30 ปี แต่เกิดมาตกงานก่อนอายุ 55 ปีที่จะได้รับเงิน แล้วไปต่อมาตรา 39 แทนที่จะได้เงินบำนาญโดยคิดจากฐาน 15,000 บาท จะกลายเป็นคิดจากฐาน 4,800 บาท สูตรใหม่จะไม่ใช้ฐานเงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย แต่จะคำนวณจากฐานเงินเดือนเฉลี่ยที่ส่งจริงในมูลค่าปัจจุบัน ถึงจะตกงานแล้วไปต่อมาตรา 39 เงินสมทบทั้ง 2 ส่วน ที่ส่งไปมาตรา 33 และส่งมาตรา 39 ก็จะถูกนำมาคำนวณด้วย ประโยชน์ที่เห็นชัดๆ คือ ผู้ประกันตนมาตรา 39 จะได้รับเงินบำนาญชราภาพที่เป็นธรรมมากขึ้น ยกตัวอย่างผู้ประกันตนมาตรา 39 ส่งเงินสมทบทั้งหมด 25 ปี โดยส่งเงินสมทบมาตรา ข่าว บอล พรีเมียร์ ลีก ล่าสุด33 มา 15 ปี และส่งต่อมาตรา 39 อีก 10 ปี ถ้าสูตรเดิมคำนวณ 20% คูณด้วย 4,800 บาท จะได้เงินบำนาญที่ 960 บาท ถ้าสมทบมาเกิน 180 เดือน จะได้เพิ่มอีกปีละ 1.5% หรือ 720 บาท รวมแล้วผู้ประกันตนรายนี้ จะได้รับบำนาญอยู่ที่เดือนละ 1,680 บาท แต่ถ้าใช้สูตรใหม่ 20% คูณด้วย ฐานเงินเดือนเฉลี่ยส่งจริงในมูลค่าปัจจุบัน จ่ายเงินสมทบเกิน 180 เดือน ได้เพิ่มอีกปีละ 1.5% เช่นกัน รวมแล้วผู้ประกันตนมาตรา 39 รายนี้ จะได้เงินบำนาญเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 3,800 บาท คงมีคำถามว่า แล้วผู้ประกันตนมาตรา 33 จะเปลี่ยนแปลงหรือไม่ คำตอบก็คือ ได้บำนาญชราภาพไม่ต่างจากสูตรเดิม แต่จะมีการปรับฐานเงินเดือนช่วงแรกที่เคยต่ำให้เป็นไปตามอัตราเงินเฟ้อตามมูลค่าปัจจุบัน และถ้าอัตราการจ่ายใหม่นี้ จะกระทบกับความมั่นคงกองทุนหรือไม่ รศ.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี กรรมการประกันสังคม ระบุว่า ทั้งนี้ทั้งนั้นนักคณิตศาสตร์ประกันภัยคำนวณว่าสูตรนี้จะใช้เงินเพิ่มขึ้นใน 10 ปี ประมาณ 6 หมื่นล้านบาท จากกองบำนาญที่มีอยู่ ณ ตอนนี้ 2.2 ล้านล้านบาท ซึ่งหลังจากนั้นในอีก 10 ปีข้างหน้าเงินกองทุนก็จะมากยิ่งขึ้น ค่าใช้จ่ายไม่ได้แตกต่างจากที่คำนวณไว้อย่างมีนัยสำคัญ 10 ปีก็จะถึงจุดสมดุล โดยไม่กระทบกับเสถียรภาพของกองทุน นอกจากนี้ รศ.ษัษฐรัมย์ ย้ำว่า การใช้สูตรคำนวณบำนาญชราภาพใหม่ ไม่ใช่การเพิ่มเงินบำนาญ แต่เป็นการคำนวณเงินบำนาญที่ผู้ประกันตนควรจะได้รับอย่างเป็นธรรม อ่านข่าว : กมธ.เชิญ 3 หน่วยงานแจง สปส.ยันประกันสังคมสิทธิไม่ด้อยกว่าบัตรทอง สปส.สั่งตรวจสอบกรณีผู้ป่วยหัวใจล้มเหลวเสียชีวิต หลังใช้สิทธิประกันสังคมเข้ารักษา บอร์ดประกันสังคมตีกลับสูตรคำนวณเงินบำนาญใหม่ ม.33-ม.39

วันนี้ (3 มี.ค.2565) กรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 2,779 คน ผู้ป่วยตั้งแต่ 1 ม.ค.สะสม 107,531 คน เสียชีวิตเพิ่ม 10 คน เสียชีวิตสะสม 230 คน