วันนี้ (10 ม.ค.2568) นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินว

มูลนิธิหญิงชายก้าวไกลเผยสถิติความรุนแรงในครอบครัว มูลนิธิหญิงชายก้าวไกลเปิดเผยสถานการณ์ความรุนแรงในครอบครัวพบสามีฆ่าตัวตาย หรือพยายามฆ่าตัวตายมากกว่าภรรยา สาเหตุจากปัญหาหย่าร้าง หึงหวง นอกจากนี้ ยังพบ

มูลนิธิหญิงชายก้าวไกลเผยสถิติความรุนแรงในครอบครัว มูลนิธิหญิงชายก้าวไกลเปิดเผยสถานการณ์ความรุนแรงในครอบครัวพบสามีฆ่าตัวตาย หรือพยายามฆ่าตัวตายมากกว่าภรรยา สาเหตุจากปัญหาหย่าร้าง หึงหวง นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้ถูกกระทำส่วนใหญ่ ต้องการยอมความ ส่งผลให้มีการกระทำซ้ำ เนื่องจากไม่ได้เข้าสู่ขั้นตอนการบำบัดเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามที่กฎหมายระบุไว้ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกลเผยสถิติความรุนแรงในครอบครัว ในการสัมมนากลไก และมาตรการเพื่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้กระทำความรุนแรงในครอบครัว มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล เปิดเผยสถานการณ์ความรุนแรงในครอบครัวปี 2553 พบว่า แนวโน้มความรุนแรงในครอบครัวทวีความรุนแรงมากขึ้น แบ่งเป็นการฆ่ากัน รองลงมาเป็นการฆ่าตัวตาย ซึ่งหากวิเคราะห์ถึงสาเหตุการฆ่าตัวตาย พบว่าสามีจะฆ่าตัวตาย หรือพยายามฆ่าตัวตายมากกว่าภรรยามากถึงร้อยละ 46 โดยมีปัจจัยมาจากหย่าร้างภรรยา ภรรยาหนีไปมีสามีใหม่ หวาดระแวงภรรยา น้อยใจภรรยา ส่วนกรณีภรรยาฆ่าตัวตายพบเพียงร้อยละ 24 สาเหตุเกิดจากน้อยใจสามี เพิ่งเลิกกับสามี หึงหวงสามี และรักสามเศร้า ขณะที่การฆ่ากันตายในครอบครัวเกิดจากปัญหาความสัมพันธ์ของหญิงชาย ส่วนใหญ่สามีเป็นผู้กระทำต่อภรรยา เพราะความหึงหวง ระแวงว่าภรรยาจะมีคนอื่น คิดว่าภรรยาเป็นสมบัติของตัวเอง นอกจากจะกระทำต่อภรรยาแล้วยังกระทำต่อลูกด้วย ส่วนผู้ประสบปัญหาความรุนแรงในครอบครัว ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอายุระหว่าง 31-40 ปี นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่า แม้ปัจจุบันจะมีพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัวปี 2550 แต่ประชาชน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กลับมองว่าเป็นเรื่องส่วนตัว รวมทั้งเข้าใจผิดคิดว่าการลงบันทึกประจำวันเป็นการแจ้งความแล้ว จึงไม่มีการดำเนินคดี ส่งผลให้มีการกระทำซ้ำ เนื่องจากผู้กระทำไม่ได้เข้าสู่ขั้นตอนการบำบัด เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามที่กฎหมายระบุไว้ ทั้งนี้ มูลนิธิฯร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์กำหนดกลไกการฟื้นฟูผู้กระทำความรุนแรง เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และสร้างความสมานฉันท์ให้กับสถาบันครอบครัวอีกครั้ง ในการสัมมนากลไก และมาตรการเพื่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้กระทำความรุนแรงในครอบครัว มูลนิธิหญิแหล่งรวมโปรสล็อตงชายก้าวไกล เปิดเผยสถานการณ์ความรุนแรงในครอบครัวปี 2553 พบว่า แนวโน้มความรุนแรงในครอบครัวทวีความรุนแรงมากขึ้น แบ่งเป็นการฆ่ากัน รองลงมาเป็นการฆ่าตัวตาย ซึ่งหากวิเคราะห์ถึงสาเหตุการฆ่าตัวตาย พบว่าสามีจะฆ่าตัวตาย หรือพยายามฆ่าตัวตายมากกว่าภรรยามากถึงร้อยละ 46 โดยมีปัจจัยมาจากหย่าร้างภรรยา ภรรยาหนีไปมีสามีใหม่ หวาดระแวงภรรยา น้อยใจภรรยา ส่วนกรณีภรรยาฆ่าตัวตายพบเพียงร้อยละ 24 สาเหตุเกิดจากน้อยใจสามี เพิ่งเลิกกับสามี หึงหวงสามี และรักสามเศร้า ขณะที่การฆ่ากันตายในครอบครัวเกิดจากปัญหาความสัมพันธ์ของหญิงชาย ส่วนใหญ่สามีเป็นผู้กระทำต่อภรรยา เพราะความหึงหวง ระแวงว่าภรรยาจะมีคนอื่น คิดว่าภรรยาเป็นสมบัติของตัวเอง นอกจากจะกระทำต่อภรรยาแล้วยังกระทำต่อลูกด้วย ส่วนผู้ประสบปัญหาความรุนแรงในครอบครัว ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอายุระหว่าง 31-40 ปี นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่า แม้ปัจจุบันจะมีพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัวปี 2550 แต่ประชาชน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กลับมองว่าเป็นเรื่องส่วนตัว รวมทั้งเข้าใจผิดคิดว่าการลงบันทึกประจำวันเป็นการแจ้งความแล้ว จึงไม่มีการดำเนินคดี ส่งผลให้มีการกระทำซ้ำ เนื่องจากผู้กระทำไม่ได้เข้าสู่ขั้นตอนการบำบัด เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามที่กฎหมายระบุไว้ ทั้งนี้ มูลนิธิฯร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์กำหนดกลไกการฟื้นฟูผู้กระทำความรุนแรง เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และสร้างความสมานฉันท์ให้กับสถาบันครอบครัวอีกครั้ง

(17 ก.ค.2566) เวลา 18.30 น. แกนนำ 8 พรรคพรรคได้ลงมาร่วมแถลงข่าว นำมาโดยนาย นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการ​พรรค​ก้าวไกล​ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย