Home
|
โจ๊ก เกอร์ 898

Kepala Kejaksaan Tinggi (Kejati) Kalimantan Tengah

โจ๊ก เกอร์ 898

วันนี้ (30 ธ.ค.2567)  พนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) เข้ารับตัว นายธีระวัฒน์ หรือ เบิร์ด จากห้องควบคุมตัวผู้ต้องหา สน.ทุ่งสองห้อง หลังส่งตัวเข้าฝากคุมขังไว้ตั้ง

วันนี้ (7 ก.พ.2566) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี หนึ่งในคณะทำงานคลี่คลายคดีอุ้ม-ทำร้ายอดีตแอดมินเว็บพนันออนไลน์ เปิดเผยความคืบหน้าในการสืบสวนสอ

ภาพดวงอาทิตย์ถ่ายโดยยานอวกาศ ภาพดวงอาทิตย์ถ่ายโดยยานอวกาศ ช้างแวน (Changvan) คือเครื่องตรวจวัดนิวตรอน ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับการผลิตจากทีมนักวิจัยจากภาควิชาฟิสิกส์และวัสดุศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับนักวิจัยจากหลากหลายสถาบัน เพื่อสร้างเครื่องตรวจวัดนิวตรอนสำหรับล่องไปยังทวีปแอนตาร์กติกาพร้อมกับเรือสำรวจวิจัย “เซว่หลง” (Xue Long) หรือ “เรือมังกรหิมะ” จากสถาบันวิจัยขั้วโลกแห่งจีน (Polar Research Institute of China : PRIC) การเดินทางนี้เกิดขึ้นในช่วงคาบเกี่โจ๊ก เกอร์ 898ยวฤดูร้อนของทวีปแอนตาร์กติกาในช่วงปี 2018-2019 ซึ่งเหมาะสมกับการเดินทางไปยังขั้วโลกใต้ด้วยเรือตัดน้ำแข็งของโครงการวิจัยทางวิทยาศาสตร์จากทั่วทุกมุมโลก คณะเดินทางได้ออกเรือจากท่าเรือเซี่ยงไฮ้ ลัดเลาะลงไปตามแผ่นดินต่าง ๆ จนไปถึงสถานีวิจัยจงซาน (Zhongshan) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งของทวีปแอนตาร์กติกา อุปกรณ์ตรวจจับนิวตรอนภายใน “ช้างแวน” จะเริ่มเก็บข้อมูลของอนุภาคนิวตรอนตั้งแต่เริ่มต้นออกเดินทางจากท่าเรือเซี่ยงไฮ้จนไปถึงทวีปแอนตาร์กติกา และเดินทางกลับด้วยเรือลำเดียวกันจนถึงท่าเรือเซี่ยงไฮ้ เพื่อนำข้อมูลของระดับพลังงานนิวตรอนที่ตรวจจับได้จากระดับละติจูดที่เปลี่ยนแปลงไปมาวิเคราะห์ผล คณะนักวิจัยได้นำข้อมูลจากเครื่องตรวจวัดนิวตรอนที่มีการเดินทางลักษณะเดียวกันตั้งแต่ปี 1994-2007 เข้ามาใช้ในการวิเคราะห์ผลร่วมด้วย ซึ่งช่วงเวลา 13 ปีดังกล่าว ครอบคลุมช่วงวัฏจักรของดวงอาทิตย์ โดยสนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์เกิดการกลับขั้วในปี 2000 (ก่อนปี 2000 สนามแม่เหล็กมีขั้วบวก และหลังปี 2000 สนามแม่เหล็กมีขั้วลบ) การเก็บข้อมูลของช้างแวนมีความพิเศษตรงที่การเดินทางอยู่ในช่วง Solar Minimum (ดวงอาทิตย์มีกิจกรรมน้อยที่สุด) ของปี 2019 และอยู่ในช่วงของสนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์มีขั้วบวก ทำให้นักวิจัยมีข้อมูลพิเศษในการศึกษาการเปลี่ยนแปลงของสเปกตรัมในสองปีการสำรวจที่อยู่ใน Solar Minimum เดียวกันและขั้วสนามแม่เหล็กเดียวกัน ซึ่งไม่เคยมีใครศึกษามาก่อน รวมถึงข้อมูลของช้างแวนช่วยยืนยันผลการทดลองก่อนหน้าในการศึกษาการตัดข้ามของสเปกตรัมของสองปีการสำรวจที่อยู่ในช่วง Solar Minimum แต่ขั้วของสนามแม่เหล็กต่างกันอีกด้วย ดวงอาทิตย์นั้นมีวงจรกิจกรรมของดวงดาวที่เป็นวัฏจักร นักวิทยาศาสตร์ทราบแล้วว่าดวงอาทิตย์มีวัฏจักรที่จะมีการสลับขั้วของสนามแม่เหล็กตัวเองทุก ๆ 11 ปี การสลับกันระหว่างขั้วเหนือและขั้วใต้ของดวงอาทิตย์จะทำให้สนามแม่เหล็กที่ปั่นป่วนของดวงอาทิตย์ปั่นป่วนหนักยิ่งขึ้น ส่งผลทำให้พื้นผิวไม่เสถียรและเกิดจุดดำบนดวงอาทิตย์มากยิ่งขึ้น ช่วงที่ความไม่เสถียรเกิดขึ้นมากเราเรียกว่า Solar Maximum และช่วงที่ไม่ได้มีการสลับขั้วของดวงอาทิตย์ทำให้สนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์ไม่มีความปั่นป่วน จุดดำบนดวงอาทิตย์จึงน้อยลง ช่วงเวลาที่สงบสุขนี้เรียกว่า Solar Minimum ในช่วงปี 2018-2020 เป็นช่วง Solar Minimum อย่างพอดิบพอดี ซึ่งเป็นช่วงที่ดวงอาทิตย์มีกิจกรรมเกิดขึ้นบนพื้นผิวน้อย เครื่องตรวจจับนิวตรอนของ “ช้างแวน” ได้ตรวจวัดระดับนิวตรอนที่มาจากทั้งดวงอาทิตย์และจากภายนอกระบบสุริยะที่อาจมาจากนอกกาแลกซีของเรา จากข้อมูลพบว่าในช่วงเวลาที่มันได้ตรวจวัดนั้น คือช่วงเวลาที่พบจำนวนของนิวตรอนจากนอกระบบสุริยะของเราเป็นจำนวนมาก เมื่อเทียบกับช่วงเวลาที่มี Solar Maximum และไม่มีการเปลี่ยนแปลงของช่วงพลังงานของนิวตรอนที่มาจากดวงอาทิตย์ อีกทั้งยังเป็นการยืนยันว่าช่วงเวลาที่อยู่ใน Solar Minimum ดวงอาทิตย์ไม่มีการสลับขั้วของสนามแม่เหล็ก การนำข้อมูลเก่าจากการเดินทางเมื่อหลายปีก่อนมาวิเคราะห์ร่วมด้วย ยังนับเป็นการยืนยันผลการวิจัยอีกทางหนึ่ง ในช่วงเวลาที่เกิด Solar Maximum เป็นช่วงเวลาที่น่าสนใจแต่ก็แฝงด้วยอันตรายเช่นกัน เนื่องจากช่วงที่ความปั่นป่วนสูง ดวงอาทิตย์จะคายพลังงานภายในตัวมันออกมาเพื่อรักษาเสถียรภาพของตัวเองไว้ เกิดเป็นปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “พายุสุริยะ” ซึ่งอาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของมนุษย์ได้ เช่น ไฟฟ้าดับ ท่อส่งน้ำมันรั่ว หรือ GPS ไม่สามารถใช้งานได้เนื่องจากดาวเทียมจำเป็นต้องหยุดการทำงาน และอาจทำให้เกิดการสูญเสียโครงสร้างพื้นฐานในด้านระบบพลังงานและการโทรคมนาคมได้ หากไม่มีการวางแผนรับมือเกี่ยวกับพายุสุริยะและกิจกรรมของดวงอาทิตย์ที่ดีพอ เนื่องจากช่วงเวลาของคาบวัฏจักรหนึ่งรอบของดวงอาทิตย์กินระยะเวลายาวนาน การศึกษาวิจัยดวงอาทิตย์จึงดำเนินไปได้ช้า องค์ความรู้ที่ดูเหมือนซ้ำซากจำเจนั้นจึงเป็นสิ่งจำเป็นเนื่องจากเป็นการยืนยันว่าองค์ความรู้ที่เรามีอยู่นั้นถูกต้อง อันจะเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการศึกษาเพื่อต่อยอดต่อไป การวิจัยเกี่ยวกับดวงอาทิตย์ในครั้งนี้จึงถือว่าเป็นองค์ความรู้ที่สำคัญต่อการเดินทางของมนุษยชาติอีกครั้งหนึ่ง ที่มาข้อมูล: iopscience “รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech

ภาพดวงอาทิตย์ถ่ายโดยยานอวกาศ ภาพดวงอาทิตย์ถ่ายโดยยานอวกาศ ช้างแวน (Changvan) คือเครื่องตรวจวัดนิวตรอ

“พายุโนรู” ที่ก่อตัวขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิกทางทิศตะวันออกของฟิลิปปินส์ เพิ่งจะถล่มฟิลิปปินส์มาสดๆร้อนๆ

เมื่อวันที่ 27 ต.ค.2564 นักท่องเที่ยวเยี่ยมชมและร่วมอวยพร ฉลองวันเกิด ครบ 2 ปี  "หมูตุ๋น" ฮิปโปแคระ

ภาพดวงอาทิตย์ถ่ายโดยยานอวกาศ ภาพดวงอาทิตย์ถ่ายโดยยานอวกาศ ช้างแวน (Changvan) คือเครื่องตรวจวัดนิวตรอน ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับการผลิตจากทีมนักวิจัยจากภาควิชาฟิสิกส์และวัสดุศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับนักวิจัยจากหลากหลายสถาบัน เพื่อสร้างเครื่องตรวจวัดนิวตรอนสำหรับล่องไปยังทวีปแอนตาร์กติกาพร้อมกับเรือสำรวจวิจัย “เซว่หลง” (Xue Long) หรือ “เรือมังกรหิมะ” จากสถาบันวิจัยขั้วโลกแห่งจีน (Polar Research Institute of China : PRIC) การเดินทางนี้เกิดขึ้นในช่วงคาบเกี่โจ๊ก เกอร์ 898ยวฤดูร้อนของทวีปแอนตาร์กติกาในช่วงปี 2018-2019 ซึ่งเหมาะสมกับการเดินทางไปยังขั้วโลกใต้ด้วยเรือตัดน้ำแข็งของโครงการวิจัยทางวิทยาศาสตร์จากทั่วทุกมุมโลก คณะเดินทางได้ออกเรือจากท่าเรือเซี่ยงไฮ้ ลัดเลาะลงไปตามแผ่นดินต่าง ๆ จนไปถึงสถานีวิจัยจงซาน (Zhongshan) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งของทวีปแอนตาร์กติกา อุปกรณ์ตรวจจับนิวตรอนภายใน “ช้างแวน” จะเริ่มเก็บข้อมูลของอนุภาคนิวตรอนตั้งแต่เริ่มต้นออกเดินทางจากท่าเรือเซี่ยงไฮ้จนไปถึงทวีปแอนตาร์กติกา และเดินทางกลับด้วยเรือลำเดียวกันจนถึงท่าเรือเซี่ยงไฮ้ เพื่อนำข้อมูลของระดับพลังงานนิวตรอนที่ตรวจจับได้จากระดับละติจูดที่เปลี่ยนแปลงไปมาวิเคราะห์ผล คณะนักวิจัยได้นำข้อมูลจากเครื่องตรวจวัดนิวตรอนที่มีการเดินทางลักษณะเดียวกันตั้งแต่ปี 1994-2007 เข้ามาใช้ในการวิเคราะห์ผลร่วมด้วย ซึ่งช่วงเวลา 13 ปีดังกล่าว ครอบคลุมช่วงวัฏจักรของดวงอาทิตย์ โดยสนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์เกิดการกลับขั้วในปี 2000 (ก่อนปี 2000 สนามแม่เหล็กมีขั้วบวก และหลังปี 2000 สนามแม่เหล็กมีขั้วลบ) การเก็บข้อมูลของช้างแวนมีความพิเศษตรงที่การเดินทางอยู่ในช่วง Solar Minimum (ดวงอาทิตย์มีกิจกรรมน้อยที่สุด) ของปี 2019 และอยู่ในช่วงของสนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์มีขั้วบวก ทำให้นักวิจัยมีข้อมูลพิเศษในการศึกษาการเปลี่ยนแปลงของสเปกตรัมในสองปีการสำรวจที่อยู่ใน Solar Minimum เดียวกันและขั้วสนามแม่เหล็กเดียวกัน ซึ่งไม่เคยมีใครศึกษามาก่อน รวมถึงข้อมูลของช้างแวนช่วยยืนยันผลการทดลองก่อนหน้าในการศึกษาการตัดข้ามของสเปกตรัมของสองปีการสำรวจที่อยู่ในช่วง Solar Minimum แต่ขั้วของสนามแม่เหล็กต่างกันอีกด้วย ดวงอาทิตย์นั้นมีวงจรกิจกรรมของดวงดาวที่เป็นวัฏจักร นักวิทยาศาสตร์ทราบแล้วว่าดวงอาทิตย์มีวัฏจักรที่จะมีการสลับขั้วของสนามแม่เหล็กตัวเองทุก ๆ 11 ปี การสลับกันระหว่างขั้วเหนือและขั้วใต้ของดวงอาทิตย์จะทำให้สนามแม่เหล็กที่ปั่นป่วนของดวงอาทิตย์ปั่นป่วนหนักยิ่งขึ้น ส่งผลทำให้พื้นผิวไม่เสถียรและเกิดจุดดำบนดวงอาทิตย์มากยิ่งขึ้น ช่วงที่ความไม่เสถียรเกิดขึ้นมากเราเรียกว่า Solar Maximum และช่วงที่ไม่ได้มีการสลับขั้วของดวงอาทิตย์ทำให้สนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์ไม่มีความปั่นป่วน จุดดำบนดวงอาทิตย์จึงน้อยลง ช่วงเวลาที่สงบสุขนี้เรียกว่า Solar Minimum ในช่วงปี 2018-2020 เป็นช่วง Solar Minimum อย่างพอดิบพอดี ซึ่งเป็นช่วงที่ดวงอาทิตย์มีกิจกรรมเกิดขึ้นบนพื้นผิวน้อย เครื่องตรวจจับนิวตรอนของ “ช้างแวน” ได้ตรวจวัดระดับนิวตรอนที่มาจากทั้งดวงอาทิตย์และจากภายนอกระบบสุริยะที่อาจมาจากนอกกาแลกซีของเรา จากข้อมูลพบว่าในช่วงเวลาที่มันได้ตรวจวัดนั้น คือช่วงเวลาที่พบจำนวนของนิวตรอนจากนอกระบบสุริยะของเราเป็นจำนวนมาก เมื่อเทียบกับช่วงเวลาที่มี Solar Maximum และไม่มีการเปลี่ยนแปลงของช่วงพลังงานของนิวตรอนที่มาจากดวงอาทิตย์ อีกทั้งยังเป็นการยืนยันว่าช่วงเวลาที่อยู่ใน Solar Minimum ดวงอาทิตย์ไม่มีการสลับขั้วของสนามแม่เหล็ก การนำข้อมูลเก่าจากการเดินทางเมื่อหลายปีก่อนมาวิเคราะห์ร่วมด้วย ยังนับเป็นการยืนยันผลการวิจัยอีกทางหนึ่ง ในช่วงเวลาที่เกิด Solar Maximum เป็นช่วงเวลาที่น่าสนใจแต่ก็แฝงด้วยอันตรายเช่นกัน เนื่องจากช่วงที่ความปั่นป่วนสูง ดวงอาทิตย์จะคายพลังงานภายในตัวมันออกมาเพื่อรักษาเสถียรภาพของตัวเองไว้ เกิดเป็นปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “พายุสุริยะ” ซึ่งอาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของมนุษย์ได้ เช่น ไฟฟ้าดับ ท่อส่งน้ำมันรั่ว หรือ GPS ไม่สามารถใช้งานได้เนื่องจากดาวเทียมจำเป็นต้องหยุดการทำงาน และอาจทำให้เกิดการสูญเสียโครงสร้างพื้นฐานในด้านระบบพลังงานและการโทรคมนาคมได้ หากไม่มีการวางแผนรับมือเกี่ยวกับพายุสุริยะและกิจกรรมของดวงอาทิตย์ที่ดีพอ เนื่องจากช่วงเวลาของคาบวัฏจักรหนึ่งรอบของดวงอาทิตย์กินระยะเวลายาวนาน การศึกษาวิจัยดวงอาทิตย์จึงดำเนินไปได้ช้า องค์ความรู้ที่ดูเหมือนซ้ำซากจำเจนั้นจึงเป็นสิ่งจำเป็นเนื่องจากเป็นการยืนยันว่าองค์ความรู้ที่เรามีอยู่นั้นถูกต้อง อันจะเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการศึกษาเพื่อต่อยอดต่อไป การวิจัยเกี่ยวกับดวงอาทิตย์ในครั้งนี้จึงถือว่าเป็นองค์ความรู้ที่สำคัญต่อการเดินทางของมนุษยชาติอีกครั้งหนึ่ง ที่มาข้อมูล: iopscience “รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech

กปน.ระบุความเค็มไม่กระทบการผลิตน้ำประปา นักวิชาการชี้ไม่กระทบสุขภาพ-เกลือเค็มกว่า นักวิชาการสาธารณสุ