Home
|
เลข เด็ด ออนไลน์

วันนี้ (18 พ.ย.2566) ตำรวจเตรียมนำตัวผู้ต้องหาคดีฆ

เลข เด็ด ออนไลน์

วันนี้ (22 เม.ย.2566) พรรคก้าวไกลจัดปราศรัยใหญ่ ลานหน้าสามย่านมิตรทาวน์ หาเสียงชาวกรุงเทพฯ ในชื่อ “ทัพใหญ่ก้าวไกล โค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง” ขนขุนพลเรียกคะแนนเสียงใจกลางเมืองหลวง นำโดยนายพิธา ลิ้มเจ

วันนี้ (26 ก.พ.2564) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรีว่าพรรคร่วมรัฐบาลยังไม่ได้นัดหารือเรื่องนี้ ส่วนจะปรับรัฐมนตรีเพีย

กรณีพบเด็กในพื้นที่ 5 จังหวัดป่วยด้วยภาวะ "ภาวะเมทฮีโมโกลบินนีเมีย" เนื่องจากมีการบริโภคไส้กรอกที่ไม่มีคุณภาพและไม่มีแหล่งผลิตทำให้เสี่ยงต่อการรับสารโซเดียมไนไตรต์เกินมาตรฐาน ไทยพีบีเอสออนไลน์ ตรวจสอบข้อมูลของผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อรสา สุริยาพันธ์ ภาควิชาอาหารเคมี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่เผยแพร่บทความเกี่ยวกับวัตถุกันเสียในไส้กรอก แฮมและโบโลนา ระบุว่า ไส้กรอก แฮม และโบโลน่า เป็นผลิตภัณฑ์อาหารกลุ่มเนื้อสัตว์แปรรูปประเภทเนื้อหมัก ที่เด็กวัยเรียนและนิสิตนักศึกษานิยมบริโภคเป็นอาหารเช้าหรืออาหารว่าง เพราะมีลักษณะรูปร่างที่น่ารับประทาน มีสีชมพู และกลิ่นรสที่เป็นเอกลักษณ์ มีเนื้อสัมผัสที่เหนียวนุ่มเคี้ยวได้ง่ายและมีความอร่อยแตกต่างจากเนื้อไก่หรือเนื้อหมูต้มสุก การยืดอายุการเก็บของไส้กรอก แฮม และโบโลน่า จำเป็นต้องใช้วัตถุกันเสียร่วมกับการบรรจุภายใต้ภาวะสุญญากาศ และเก็บที่อุณหภูมิต่ำในตู้เย็น เนื่องจากไส้กรอก แฮม และโบโลน่าเป็นผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปที่มีความเป็นกรดต่ำ จึงเกิดการเสื่อมเสียคุณภาพจากการเจริญของเชื้อจุลินทรีย์ได้ง่าย สารไนไตรต์ (NO2-) ยังรวมตัวกับรงควัตถุสีม่วงแดงในกล้ามเนื้อสัตว์ คือ ไมโอโกลบิน ได้เป็น nitrosylmyoglobin ที่มีสีแดงเมื่อปรุงเนื้อสัตว์ให้สุกด้วยความร้อน สารสีแดงนี้จะถูกเปลี่ยนเป็น nitrosylhemochrome ซึ่งให้เลข เด็ด ออนไลน์สีชมพูที่คงตัว นอกจากนี้ไนไตรต์ ยังช่วยลดการเกิดกลิ่นหืนในไส้กรอก แฮม และโบโลน่าได้อีกด้วย เพราะไนไตรต์สามารถจับกับอิออนของเหล็กที่ทำหน้าที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาออกซิเดชั่นของไขมัน ความเข้มข้นต่ำสุดของโซเดียมไนไตรต์สำหรับการสร้างสี กลิ่นรส และยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ คือ 20 และ 100 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ตามลำดับ อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง เตือน! เลี้ยงลูกด้วยไส้กรอกไร้ยี่ห้อเสี่ยง "โซเดียมไนไตรต์" ถึงตาย แต่ ในปีพ.ศ. 2555 จากรายงานการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยา ของกระทรวงสาธาณสุข พบว่ามีโซเดียมไนไตรต์ ในปริมาณที่เกินกำหนดในไส้กรอกและกุนเชียง ถึงร้อยละ 16.4 และ 8.9 ของจำนวนตัวอย่างที่ถูกสุ่มตรวจ และตรวจพบการเจือปนของโซเดียมไนไตรต์ในแหนม ไก่ทอด หมูยอ ปลาเค็ม และปลาเค็มตากแห้งหวาน ทั้งที่ไม่อนุญาตให้มีการใช้ไนไตรต์ในผลิตภัณฑ์อาหาร ในเดือนมี.ค.-เม.ย.พ.ศ.2558 ภาควิชาอาหารเคมี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้สุ่มตัวอย่างไส้กรอก แฮม และโบโลน่า จำนวนทั้งหมด 13 ตัวอย่าง ที่มีจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อทั่วไปและซุปเปอร์มาร์เก็ต มาตรวจวิเคราะห์ปริมาณโซเดียมไนไตรต์ด้วยวิธี Modified AOAC official method 973.31 จากการศึกษาด้านความเป็นพิษของไนไตรต์ต่อสัตว์ทดลอง ได้มีรายงานว่าหนูที่ถูกป้อนน้ำหรืออาหารที่มีปริมาณไนไตรต์สูง 250-2,000 มิลลิกรัมต่อกก. พบว่ามีความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองสูงขึ้น ไนไตรต์สามารถทำปฏิกิริยากับกรดในกระเพาะอาหารกลายเป็นกรดไนตรัส ที่สามารถรวมตัวกับสารเอมีน หรือเอมีดที่มีในอาหารกลุ่มเนื้อสัตว์เกิดสารก่อมะเร็งกลุ่มไนโตรซามีนขึ้นในร่างกาย ซึ่งจะถูกดูดซึมผ่านผนังลำไส้อย่างรวดเร็ว ถ้าผู้บริโภคได้รับไนไตรต์ในปริมาณที่สูงมากทันที ไนไตรต์จะก่อให้เกิดภาวะอาการขาดออกซิเจน คือ มีอาการตัวเขียว เล็บเขียว หอบ เหนื่อย หัวใจเต้นแรง และอาจเสียชีวิตได้ เพราะไนไตรต์จับตัวกับฮีโมโกลบินในเลือดเกิดเป็นเมทฮีโมโกลบิน ทำให้ฮีโมโกลบินไม่สามารถจับตัวกับออกซิเจน ข้อมูลระบุอีกว่า ปริมาณไนไตรต์ที่ทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ในการบริโภคหนึ่งครั้งคือ 32 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม โดยถ้าคำนวณเทียบกับน้ำหนักตัวเฉลี่ยของวัยรุ่น 9-18 ปี น้ำหนัก 44.5 กก.และผู้ใหญ่ ตั้งแต่ 19 ปีขึ้นไป น้ำหนัก54.5 กก. พบว่าปริมาณไนไตรต์ ที่ทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ในการบริโภคหนึ่งครั้ง คือ 1,424 และ 1,744 มิลลิกรัม ในอดีตในประเทศไทยเคยมีรายงานการเกิดโรคเมทฮีโมโกลบีนีเมียถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกปี 2550 ผู้ป่วยเป็นเด็กนักเรียนที่บริโภคไส้กรอกไก่ที่มีปริมาณโซเดียมไนไตรต์สูงถึง 3,137 มิลลิกรัมต่อกก.และครั้งที่ 2 ปี 2553 เป็นผู้ป่วยที่บริโภคไก่ทอด ซึ่งมีการหมักด้วยสารไนไตรต์ ในปี 2002 คณะผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุเจือปนอาหารของโคเด็กซ์ ได้กำหนดค่า acceptable daily intake (ADI) หรือค่าปริมาณการได้รับไนไตรต์ต่อวันโดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพตลอดช่วงชีวิต ที่ 0-0.07 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กก. สรุปผลิตภัณฑ์อาหารพวกไส้กรอก แฮม โบโลน่า ซึ่งเป็นที่นิยมมากในกลุ่มผู้บริโภค ทั้งในวัยรุ่นและผู้ใหญ่ สิ่งที่ต้องระมัดระวังในการบริโภคคือปริมาณไนไตรต์ที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ จะเห็นได้ว่าปริมาณที่กินได้อย่างปลอดภัยไม่ควรเกินวันละ 50-100 กรัมไม่ควรกินในปริมาณมากต่อครั้ง หรือกินบ่อยๆครั้งในแต่ละวัน เพราะจะทำให้ผู้บริโภคได้รับไนไตรต์ ในปริมาณที่สูงเกินกว่าค่าความปลอดภัยได้ เกิดความเสี่ยงที่จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง พบเด็กป่วย "เมทฮีโมโกลบิน" 6 คน กินไส้กรอกไม่มียี่ห้อ

วันนี้ (3 ก.ค.2567) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมตรี กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการหารือกับนายสุทิน คลังแสง รมว

การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป ที่จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 7 พ.ค.2566 สำหรับผู้ใช้สิท

กรณีพบเด็กในพื้นที่ 5 จังหวัดป่วยด้วยภาวะ "ภาวะเมทฮีโมโกลบินนีเมีย" เนื่องจากมีการบริโภคไส้กรอกที่ไม

กรณีพบเด็กในพื้นที่ 5 จังหวัดป่วยด้วยภาวะ "ภาวะเมทฮีโมโกลบินนีเมีย" เนื่องจากมีการบริโภคไส้กรอกที่ไม่มีคุณภาพและไม่มีแหล่งผลิตทำให้เสี่ยงต่อการรับสารโซเดียมไนไตรต์เกินมาตรฐาน ไทยพีบีเอสออนไลน์ ตรวจสอบข้อมูลของผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อรสา สุริยาพันธ์ ภาควิชาอาหารเคมี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่เผยแพร่บทความเกี่ยวกับวัตถุกันเสียในไส้กรอก แฮมและโบโลนา ระบุว่า ไส้กรอก แฮม และโบโลน่า เป็นผลิตภัณฑ์อาหารกลุ่มเนื้อสัตว์แปรรูปประเภทเนื้อหมัก ที่เด็กวัยเรียนและนิสิตนักศึกษานิยมบริโภคเป็นอาหารเช้าหรืออาหารว่าง เพราะมีลักษณะรูปร่างที่น่ารับประทาน มีสีชมพู และกลิ่นรสที่เป็นเอกลักษณ์ มีเนื้อสัมผัสที่เหนียวนุ่มเคี้ยวได้ง่ายและมีความอร่อยแตกต่างจากเนื้อไก่หรือเนื้อหมูต้มสุก การยืดอายุการเก็บของไส้กรอก แฮม และโบโลน่า จำเป็นต้องใช้วัตถุกันเสียร่วมกับการบรรจุภายใต้ภาวะสุญญากาศ และเก็บที่อุณหภูมิต่ำในตู้เย็น เนื่องจากไส้กรอก แฮม และโบโลน่าเป็นผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปที่มีความเป็นกรดต่ำ จึงเกิดการเสื่อมเสียคุณภาพจากการเจริญของเชื้อจุลินทรีย์ได้ง่าย สารไนไตรต์ (NO2-) ยังรวมตัวกับรงควัตถุสีม่วงแดงในกล้ามเนื้อสัตว์ คือ ไมโอโกลบิน ได้เป็น nitrosylmyoglobin ที่มีสีแดงเมื่อปรุงเนื้อสัตว์ให้สุกด้วยความร้อน สารสีแดงนี้จะถูกเปลี่ยนเป็น nitrosylhemochrome ซึ่งให้เลข เด็ด ออนไลน์สีชมพูที่คงตัว นอกจากนี้ไนไตรต์ ยังช่วยลดการเกิดกลิ่นหืนในไส้กรอก แฮม และโบโลน่าได้อีกด้วย เพราะไนไตรต์สามารถจับกับอิออนของเหล็กที่ทำหน้าที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาออกซิเดชั่นของไขมัน ความเข้มข้นต่ำสุดของโซเดียมไนไตรต์สำหรับการสร้างสี กลิ่นรส และยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ คือ 20 และ 100 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ตามลำดับ อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง เตือน! เลี้ยงลูกด้วยไส้กรอกไร้ยี่ห้อเสี่ยง "โซเดียมไนไตรต์" ถึงตาย แต่ ในปีพ.ศ. 2555 จากรายงานการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยา ของกระทรวงสาธาณสุข พบว่ามีโซเดียมไนไตรต์ ในปริมาณที่เกินกำหนดในไส้กรอกและกุนเชียง ถึงร้อยละ 16.4 และ 8.9 ของจำนวนตัวอย่างที่ถูกสุ่มตรวจ และตรวจพบการเจือปนของโซเดียมไนไตรต์ในแหนม ไก่ทอด หมูยอ ปลาเค็ม และปลาเค็มตากแห้งหวาน ทั้งที่ไม่อนุญาตให้มีการใช้ไนไตรต์ในผลิตภัณฑ์อาหาร ในเดือนมี.ค.-เม.ย.พ.ศ.2558 ภาควิชาอาหารเคมี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้สุ่มตัวอย่างไส้กรอก แฮม และโบโลน่า จำนวนทั้งหมด 13 ตัวอย่าง ที่มีจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อทั่วไปและซุปเปอร์มาร์เก็ต มาตรวจวิเคราะห์ปริมาณโซเดียมไนไตรต์ด้วยวิธี Modified AOAC official method 973.31 จากการศึกษาด้านความเป็นพิษของไนไตรต์ต่อสัตว์ทดลอง ได้มีรายงานว่าหนูที่ถูกป้อนน้ำหรืออาหารที่มีปริมาณไนไตรต์สูง 250-2,000 มิลลิกรัมต่อกก. พบว่ามีความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองสูงขึ้น ไนไตรต์สามารถทำปฏิกิริยากับกรดในกระเพาะอาหารกลายเป็นกรดไนตรัส ที่สามารถรวมตัวกับสารเอมีน หรือเอมีดที่มีในอาหารกลุ่มเนื้อสัตว์เกิดสารก่อมะเร็งกลุ่มไนโตรซามีนขึ้นในร่างกาย ซึ่งจะถูกดูดซึมผ่านผนังลำไส้อย่างรวดเร็ว ถ้าผู้บริโภคได้รับไนไตรต์ในปริมาณที่สูงมากทันที ไนไตรต์จะก่อให้เกิดภาวะอาการขาดออกซิเจน คือ มีอาการตัวเขียว เล็บเขียว หอบ เหนื่อย หัวใจเต้นแรง และอาจเสียชีวิตได้ เพราะไนไตรต์จับตัวกับฮีโมโกลบินในเลือดเกิดเป็นเมทฮีโมโกลบิน ทำให้ฮีโมโกลบินไม่สามารถจับตัวกับออกซิเจน ข้อมูลระบุอีกว่า ปริมาณไนไตรต์ที่ทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ในการบริโภคหนึ่งครั้งคือ 32 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม โดยถ้าคำนวณเทียบกับน้ำหนักตัวเฉลี่ยของวัยรุ่น 9-18 ปี น้ำหนัก 44.5 กก.และผู้ใหญ่ ตั้งแต่ 19 ปีขึ้นไป น้ำหนัก54.5 กก. พบว่าปริมาณไนไตรต์ ที่ทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ในการบริโภคหนึ่งครั้ง คือ 1,424 และ 1,744 มิลลิกรัม ในอดีตในประเทศไทยเคยมีรายงานการเกิดโรคเมทฮีโมโกลบีนีเมียถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกปี 2550 ผู้ป่วยเป็นเด็กนักเรียนที่บริโภคไส้กรอกไก่ที่มีปริมาณโซเดียมไนไตรต์สูงถึง 3,137 มิลลิกรัมต่อกก.และครั้งที่ 2 ปี 2553 เป็นผู้ป่วยที่บริโภคไก่ทอด ซึ่งมีการหมักด้วยสารไนไตรต์ ในปี 2002 คณะผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุเจือปนอาหารของโคเด็กซ์ ได้กำหนดค่า acceptable daily intake (ADI) หรือค่าปริมาณการได้รับไนไตรต์ต่อวันโดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพตลอดช่วงชีวิต ที่ 0-0.07 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กก. สรุปผลิตภัณฑ์อาหารพวกไส้กรอก แฮม โบโลน่า ซึ่งเป็นที่นิยมมากในกลุ่มผู้บริโภค ทั้งในวัยรุ่นและผู้ใหญ่ สิ่งที่ต้องระมัดระวังในการบริโภคคือปริมาณไนไตรต์ที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ จะเห็นได้ว่าปริมาณที่กินได้อย่างปลอดภัยไม่ควรเกินวันละ 50-100 กรัมไม่ควรกินในปริมาณมากต่อครั้ง หรือกินบ่อยๆครั้งในแต่ละวัน เพราะจะทำให้ผู้บริโภคได้รับไนไตรต์ ในปริมาณที่สูงเกินกว่าค่าความปลอดภัยได้ เกิดความเสี่ยงที่จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง พบเด็กป่วย "เมทฮีโมโกลบิน" 6 คน กินไส้กรอกไม่มียี่ห้อ

ในช่วงวันที่ 3-5 ธ.ค.2567 หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างจะเคลื่อนผ่านอ่าวไทยและภาคใต้ตอน