วันนี้ (22 ก.พ.2564) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำเอกสารหลักฐาน เขผล การ ออก สลากกินแบ่ง รัฐบาล ปี 63
กรณีโซเชียลถ่ายคลิปภาพขณะที่ ด.ต.มานะ นนทภา ผู้บังคับหมู่งานจราจร สภ.เมืองอุดรธานี ที่เกาะประตูรถบรรทุกน้ำมันที่ขับฝ่าสัญญาณไฟจราจร ที่ถูกส่งต่อในสังคมออนไลน์ จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์และชื่นชมการทำงาน
หนักสุดคืออาคาร สตง.แห่งใหม่ สูงกว่า 30 ชั้นพังถล่มยับ ทับร่างคนงานค่อนร้อย ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัวผู้จากไปอย่างไม่มีวันกลับ ไม่เพียงเท่านั้น ยังลุกลามขยายผลไปถึงกลุ่มก่อสร้างยักษ์ใหญ่จากจีน บริษัท ไชน่า เรลย์เวย์ นัมเบอร์ 10 ที่รับงานก่อสร้างตึก สตง.ร่วมกับยักษ์ใหญ่ของไทยแบบจอยท์ เวนเจอร์ หรือร่วมทุน แต่ตัวตนกลับเต็มไปด้วยปมคำถามปริศนา ทั้งที่ตั้งบริษัท งบดุลที่ขาดทุน ลักษณะการประกอบการ ผู้ถือหุ้นคนไทยเพื่อให้เกินเกณฑ์ 51 % กระทั่งคุณภาพและมาตรฐานวัสดุก่อสร้างที่ใช้ ที่กำลังเป็นข้อสงสัย แม้แต่ในแวดวงวิศวกร ข้อมูลจากดีเอสไอที่เข้ามารับทำคดีนี้ ยิ่งทำให้น่าตกใจมากขึ้น ในทางลึก ดีเอสไอยังพบเป็นบริษัท 0 บาท เพราะไม่ได้นำเงินเข้ามาลงทุนในไทยจริง ตัวเลขงบดุลก็ขาดทุน และมักอ้างเป็นของคนไทย ทำให้หวนนึกไปถึง “ทัวร์ 0 เหรียญ” ของกลุ่มกิจการทัวร์ของจีน ที่เคยเป็นข่าวคราวมาก่อนหน้านี้ คือเป็นกิจการที่ไม่ได้ก่อให้เกิดรายได้แก่ประเทศไทยเลย เพราะทุกอย่างเป็นนอมินีของคนจีน แต่สุดท้ายก็หลุดคดีจากหลายสาเหตุ หนึ่งในจำนวนนั้น คือได้รับการช่วยเหลือแนวทางสู้คดีจากกูรูทางกฎหมายของไทย เป็นเหตุให้ดีเอสไอต้องวางแนวทางรับมือคดีนี้ โดยด้านหนึ่งคือ ตรวจหาคนไทย สมอ้างถือหุ้นเป็นนอมินีให้ ทั้งที่มีรายได้แค่หลักหมื่นบาทต่อเดือน และบางสำนักข่าว ขุดคุ้ยถึงขั้นใส่เสื้อผ้าแบบพนักงานของบริษัท ส่อเค้าความไม่ปกติของกลุ่มทุนจีน ที่เข้ามาทำกิจการในไทย เฉพาะงานรับเหมาก่อสร้างโครงการภาครัฐมีมากกว่า 300 บริษัท ที่สำคัญมีคนระดับ “บิ๊ก” ของไทย คอยเป็น “แบ๊คอัพ” ประสานเจรจาให้ โดยมีผลประโยชน์ต่างตอบแทน อาศัย “แบ๊คดี” และ “มือเติบ” ทำเม็ดเงินตกหล่นตามรายทางแค่นี้ด่านเจ้าหน้าที่รัฐก็เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ หนทางโล่งสะดวกแล้ว จึงไม่ใช่เรผล การ ออก สลากกินแบ่ง รัฐบาล ปี 63ื่องแปลกที่ผู้ผลิตเหล็กบางราย แม้จะโดนคำสั่งปิดโรงงานผลิต แต่กลับฝ่าฝืนอยู่ต่อไปได้ ทั้งยังได้สิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนจากบีโอไอ ท่ามกลางการส่งสัญญาณเอาจริง ของรัฐมนตรีอุตสาหกรรม นายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ เข้าข่ายอุตสาหกรรม 0 บาทอีกหนึ่งประเภท ความจริง เรื่องทุนจีนสีเทา เป็นเรื่องที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง เคยออกโรงแฉยิบ เป็นข่าวใหญ่ต่อเนื่องบนหน้าสื่อ แต่พอเจ้าตัวเกิดปัญหาสุขภาพต้องพักรักษาตัว เรื่องนี้ก็กลับเงียบไปด้วย หากไม่เกิดแผ่นดินไหว คนทั่วไปจะมีโอกาสรู้ความจริงที่ยังซุกซ่อนอยู่ภายในเรื่องทุนจีนสีเทานี้อีกหรือไม่ แม้ทุนจีนที่เข้ามา ส่วนใหญ่อาจไม่ใช่ “ทุนสีเทา” ทั้งหมดก็ตาม แต่รัฐบาลไทยต้องพึงตระหนักและจริงใจสำหรับการรับมือเรื่องนี้อย่างเป็นระบบ เพราะตอผุดหลังน้ำลดครั้งนี้ หากยังปล่อยไว้ สุดอันตรายเกินจะคิด วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส อ่านข่าว : 10 วันกู้ซากตึก สตง.ถล่ม มท.1 สรุปผลสอบสวนต่อนายกฯ พรุ่งนี้ "กรมบัญชีกลาง" เตรียมปรับสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง-เพิ่มโทษผู้รับเหมา ตร.ตั้งทีมสอบสวนเหตุตึก สตง.ถล่ม เข้าเก็บหลักฐาน 8 เม.ย.
วันนี้ (8 ก.พ.2564) เพจเฟซบุ๊กสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (จิสด้า) โดยศูนย์วิจัยและพ
ผล การ ออก สลากกินแบ่ง รัฐบาล ปี 63-ประมวลภาพ อัญเชิญ "เรือพระที่นั่ง" ลงน้ำ เตรียมการจัดขบวนพยุหยาตราชลมารค
วันนี้ (22 ก.พ.2564) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำเอกสารหลักฐาน เขผล การ ออก สลากกินแบ่ง รัฐบาล ปี 63
กรณีโซเชียลถ่ายคลิปภาพขณะที่ ด.ต.มานะ นนทภา ผู้บังคับหมู่งานจราจร สภ.เมืองอุดรธานี ที่เกาะประตูรถบรรทุกน้ำมันที่ขับฝ่าสัญญาณไฟจราจร ที่ถูกส่งต่อในสังคมออนไลน์ จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์และชื่นชมการทำงาน
หนักสุดคืออาคาร สตง.แห่งใหม่ สูงกว่า 30 ชั้นพังถล่มยับ ทับร่างคนงานค่อนร้อย ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัวผู้จากไปอย่างไม่มีวันกลับ ไม่เพียงเท่านั้น ยังลุกลามขยายผลไปถึงกลุ่มก่อสร้างยักษ์ใหญ่จากจีน บริษัท ไชน่า เรลย์เวย์ นัมเบอร์ 10 ที่รับงานก่อสร้างตึก สตง.ร่วมกับยักษ์ใหญ่ของไทยแบบจอยท์ เวนเจอร์ หรือร่วมทุน แต่ตัวตนกลับเต็มไปด้วยปมคำถามปริศนา ทั้งที่ตั้งบริษัท งบดุลที่ขาดทุน ลักษณะการประกอบการ ผู้ถือหุ้นคนไทยเพื่อให้เกินเกณฑ์ 51 % กระทั่งคุณภาพและมาตรฐานวัสดุก่อสร้างที่ใช้ ที่กำลังเป็นข้อสงสัย แม้แต่ในแวดวงวิศวกร ข้อมูลจากดีเอสไอที่เข้ามารับทำคดีนี้ ยิ่งทำให้น่าตกใจมากขึ้น ในทางลึก ดีเอสไอยังพบเป็นบริษัท 0 บาท เพราะไม่ได้นำเงินเข้ามาลงทุนในไทยจริง ตัวเลขงบดุลก็ขาดทุน และมักอ้างเป็นของคนไทย ทำให้หวนนึกไปถึง “ทัวร์ 0 เหรียญ” ของกลุ่มกิจการทัวร์ของจีน ที่เคยเป็นข่าวคราวมาก่อนหน้านี้ คือเป็นกิจการที่ไม่ได้ก่อให้เกิดรายได้แก่ประเทศไทยเลย เพราะทุกอย่างเป็นนอมินีของคนจีน แต่สุดท้ายก็หลุดคดีจากหลายสาเหตุ หนึ่งในจำนวนนั้น คือได้รับการช่วยเหลือแนวทางสู้คดีจากกูรูทางกฎหมายของไทย เป็นเหตุให้ดีเอสไอต้องวางแนวทางรับมือคดีนี้ โดยด้านหนึ่งคือ ตรวจหาคนไทย สมอ้างถือหุ้นเป็นนอมินีให้ ทั้งที่มีรายได้แค่หลักหมื่นบาทต่อเดือน และบางสำนักข่าว ขุดคุ้ยถึงขั้นใส่เสื้อผ้าแบบพนักงานของบริษัท ส่อเค้าความไม่ปกติของกลุ่มทุนจีน ที่เข้ามาทำกิจการในไทย เฉพาะงานรับเหมาก่อสร้างโครงการภาครัฐมีมากกว่า 300 บริษัท ที่สำคัญมีคนระดับ “บิ๊ก” ของไทย คอยเป็น “แบ๊คอัพ” ประสานเจรจาให้ โดยมีผลประโยชน์ต่างตอบแทน อาศัย “แบ๊คดี” และ “มือเติบ” ทำเม็ดเงินตกหล่นตามรายทางแค่นี้ด่านเจ้าหน้าที่รัฐก็เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ หนทางโล่งสะดวกแล้ว จึงไม่ใช่เรผล การ ออก สลากกินแบ่ง รัฐบาล ปี 63ื่องแปลกที่ผู้ผลิตเหล็กบางราย แม้จะโดนคำสั่งปิดโรงงานผลิต แต่กลับฝ่าฝืนอยู่ต่อไปได้ ทั้งยังได้สิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนจากบีโอไอ ท่ามกลางการส่งสัญญาณเอาจริง ของรัฐมนตรีอุตสาหกรรม นายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ เข้าข่ายอุตสาหกรรม 0 บาทอีกหนึ่งประเภท ความจริง เรื่องทุนจีนสีเทา เป็นเรื่องที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง เคยออกโรงแฉยิบ เป็นข่าวใหญ่ต่อเนื่องบนหน้าสื่อ แต่พอเจ้าตัวเกิดปัญหาสุขภาพต้องพักรักษาตัว เรื่องนี้ก็กลับเงียบไปด้วย หากไม่เกิดแผ่นดินไหว คนทั่วไปจะมีโอกาสรู้ความจริงที่ยังซุกซ่อนอยู่ภายในเรื่องทุนจีนสีเทานี้อีกหรือไม่ แม้ทุนจีนที่เข้ามา ส่วนใหญ่อาจไม่ใช่ “ทุนสีเทา” ทั้งหมดก็ตาม แต่รัฐบาลไทยต้องพึงตระหนักและจริงใจสำหรับการรับมือเรื่องนี้อย่างเป็นระบบ เพราะตอผุดหลังน้ำลดครั้งนี้ หากยังปล่อยไว้ สุดอันตรายเกินจะคิด วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส อ่านข่าว : 10 วันกู้ซากตึก สตง.ถล่ม มท.1 สรุปผลสอบสวนต่อนายกฯ พรุ่งนี้ "กรมบัญชีกลาง" เตรียมปรับสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง-เพิ่มโทษผู้รับเหมา ตร.ตั้งทีมสอบสวนเหตุตึก สตง.ถล่ม เข้าเก็บหลักฐาน 8 เม.ย.
วันนี้ (8 ก.พ.2564) เพจเฟซบุ๊กสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (จิสด้า) โดยศูนย์วิจัยและพ