Ketua Pengadilan Tinggi (PT) Daerah Istimewa Yogya

เมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา TIJ-UNODC Public Forum: People-centered Justice Solutions โดยสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (TIJ) จัดเวทีสาธารณะนำเสนอโครงการส่งเสริมความยุติธรรมที่มีประชาชนเป็นศูนย์
วันนี้ (16 พ.ย.2567) ตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก ตำรวจภูธรนครไทย พร้อมชุดคอมมานโด กองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง รวมเกือบ 100 นาย เปิดปฎิบัติการฟ้าสางที่นาบัว นำหมายค้นและหมายจับ
ประชุมใหญ่สามัญพรรคชาติพัฒนากล้า มีมติเลือกให้ นายกรณ์ จาติกวณิช ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรค และมีนายเทวัญ ลิปตพัลลภ เป็นเลขาธิการพรรค ส่วนนายสุวัจน์ เป็นประธานพรรค พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อขับเคลื่อนงานทางเมืองรวม 30 คน ที่น่าสนใจคือ มีแกนนำและสมาชิกพรรคกล้า รวม ๆ แล้วไม่ต่ำกว่า 80 คน ที่ย้ายเข้ามาสังกัดพรรคนี้ด้วย อาทิ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เป็นรองหัวหน้าพรรค และนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เป็นประธานยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจ นี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น หากไปดูกระแสการควบรวมพรรคการเมือง ขณะนี้มีอย่างน้อย 4 พรรคการเมืองใหม่ ที่จะจับขั้วทางการเมืองร่วมกัน อย่างพรรคไทยสร้างไทย กับ พรรคสร้างอนาคตไทย ซึ่งเลขาธิการของทั้ง 2 พรรคยืนยันตรงกันว่า ไม่ปิดโอกาสที่จะร่วมงานทางการเมืองกัน แต่มีรายงานข่าวระบุว่า ทั้ง 2 พรรค ยังเจรจากันไม่ลงตัวว่า ใครจะเป็นเบอร์ 1 ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ระหว่าง "สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ กับ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์" ส่วนอีกขั้วหนึ่ง คือ พรรครวมไทยสร้างชาติ กับ พรรครวมพลัง ซึ่งแกนนำของ 2 พรรคนี้ อดีตเคยร่วมงานทางการเมืองในนามพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งล่program baccaratาสุด นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ได้ปฏิเสธกระแสข่าวนี้ โดยบอกเพียงว่า การจับขั้วทางการเมืองเป็นเรื่องของอนาคต
ปรากฏการณ์ “หักปากกาเซียน” ของพรรคก้าวไกล จะเกิดขึ้นหรือไม่ อีกไม่กี่อึดใจคงได้เห็น แต่ที่แน่ๆ ผลการ
ประชุมใหญ่สามัญพรรคชาติพัฒนากล้า มีมติเลือกให้ นายกรณ์ จาติกวณิช ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรค และมีนาย
เมื่อวันที่ 8 ก.พ.2565 สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "NARIT สถาบัน
ประชุมใหญ่สามัญพรรคชาติพัฒนากล้า มีมติเลือกให้ นายกรณ์ จาติกวณิช ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรค และมีนายเทวัญ ลิปตพัลลภ เป็นเลขาธิการพรรค ส่วนนายสุวัจน์ เป็นประธานพรรค พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อขับเคลื่อนงานทางเมืองรวม 30 คน ที่น่าสนใจคือ มีแกนนำและสมาชิกพรรคกล้า รวม ๆ แล้วไม่ต่ำกว่า 80 คน ที่ย้ายเข้ามาสังกัดพรรคนี้ด้วย อาทิ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เป็นรองหัวหน้าพรรค และนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เป็นประธานยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจ นี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น หากไปดูกระแสการควบรวมพรรคการเมือง ขณะนี้มีอย่างน้อย 4 พรรคการเมืองใหม่ ที่จะจับขั้วทางการเมืองร่วมกัน อย่างพรรคไทยสร้างไทย กับ พรรคสร้างอนาคตไทย ซึ่งเลขาธิการของทั้ง 2 พรรคยืนยันตรงกันว่า ไม่ปิดโอกาสที่จะร่วมงานทางการเมืองกัน แต่มีรายงานข่าวระบุว่า ทั้ง 2 พรรค ยังเจรจากันไม่ลงตัวว่า ใครจะเป็นเบอร์ 1 ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ระหว่าง "สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ กับ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์" ส่วนอีกขั้วหนึ่ง คือ พรรครวมไทยสร้างชาติ กับ พรรครวมพลัง ซึ่งแกนนำของ 2 พรรคนี้ อดีตเคยร่วมงานทางการเมืองในนามพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งล่program baccaratาสุด นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ได้ปฏิเสธกระแสข่าวนี้ โดยบอกเพียงว่า การจับขั้วทางการเมืองเป็นเรื่องของอนาคต
วันนี้ (22 เม.ย.2568) ที่ผ่านมา ตัวแทนรัฐบาลไทยย้ำมาตลอดว่า สงครามการค้ารอบนี้ ไทยจะวางตัวเป็นกลาง ไ