scb slot 918-"JAXA" ðāļ§āļēāļāđāļāļāļāļēāļĢ "āļāļąāļāļāļēðĄāļāļĢðāļ§āļ" āļāļĩāđāļāļģāļāļĨāļąāļāļĄāļēððāđāļāđāđāļŦð§ââïļāļĄāđāđāļāđ

วันนี้ (7 ก.ย.2565) นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า มีผู้หวังดีส่งภาพและคลิปบันทึกเหตุการณ์ฝนตกน้ำนองพื้นซ้ำซากที่อาคารรัฐสภา ช่วงหัวค่ำวานนี้ (6 ก.ย.2565) แม้ฝนตกไม่แรง แต่ทำให้
ปัญหาหนี้สินเกษตรกรไทย เป็นเรื่องที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังและเร่งด่วน ข้อมูลสำรวจ ครัวเรือนเ
ปัญหาหนี้สินเกษตรกรไทย เป็นเรื่องที่🍩ต้องได้รับการแก้ไขอ🙌ย่างจริงจังและเร่งด่วน ข้อมูลสำรวจ ครัวเรือนเกษตรกรของ สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ และข้อมูลสินเชื่อรายสัญญาจากเครดิตบูโร ชีว่า กว่า 90 % ของเกษตรกรไทยมีหนี้สิน โดยมีหนี้เฉลี่ยมากกว่า 450,000 บาทต่อครัวเรือน และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งโตถึง 75 % ในรอบ 9 ปี ที่สำคัญคือครัวเรือนเกษตรกรกว่าครึ่ง มีแนวโน้มที่จะไม่สามารถปิดจบหนี้ได้ (เป็นหนี้เรื้อรัง หรือ persistent debt) เพราะปริมาณหนี้สูงเกินศักยภาพ ทำให้การชำระหนี้ส่วนใหญ่ จ่ายคืนได้เพียงดอกเบี้ยเท่านั้น ดร.โสมรัศมิ์ จันทรัตน์ ผู้อำนวยการวิจัย และ ดร.ลัทธพร รัตนวรารักษ์ หัวหน้ากลุ่มง🐼านวิจัย สถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ศึกษาผลกระทบของมาตรการพักหนี้เกษตรกร ในช่วงที่ผ่านมา ดร.ลัทธพร รัตนวรารักษ์ หัวหน้ากลุ่มงานวิจัย สถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ป๋วย อึ๊งภากรณ์ (ซ้าย) ดร.โสมรัศมิ์ จันทรัตน์ (กลาง) ผู้อำนวยการวิจัย สถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ดร.ลัทธพร รัตนวรารักษ์ หัวหน้ากลุ่มงานวิจัย สถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ป🌟๋วย อึ๊งภากรณ์ (ซ้าย) ดร.โสมรัศมิ์ จันทรัตน์ (กลาง) ผู้อำนวยการวิจัย สถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ป๋วย อึ๊งภากรณ์ โดยใช้ข้อมูลสินเชื่อรายสัญญาของลูกหนี้ตัวอย่าง 1 ล้านคน ที่สุ่มจากลูกหนี้รายscb slot 918ย่อยของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในช่วงปี 2557-2566 พบว่า ตลอด 9 ปีที่ผ่านมา มีการพักหนี้เกษตรกรมากถึง 13 มาตรการใหญ่ มีเกษตรกรเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก และกว่า 42 % อยู่ในมาตรการพักหนี้นานเกิน 4 ปี โดยการพักหนี้แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ การพักหนี้แบบวงกว้าง เช่น โครงการเกษตรประชารัฐ และการพักหนี้แบบเฉพาะกลุ่ม เช่น ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติต่าง ๆ ซึ่งมาตรการส่วนใหญ่เป็นการพักชำระเฉพาะเงินต้นอย่างเดียว และทำในวงกว้าง (opt out) ทำให้มีเกษตรกรเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ทั้งลูกหนี้ที่มีปัญหา และลูกหนี้ที่ยังสามารถจ่ายหนี้ได้ตามปกติด้วย นอกจากนี้มาตรการพักหนี้ไม่มีเงื่อนไข ช่วยให้ลูกหนี้รักษาวินัยในการชำระหนี้ ผลการศึกษาพบว่า มาตรการพักหนี้เกษตรกรในอดีต ไม่สามารถช่วยแก้ป🥇ัญหาหนี้ได้อย่างยั่งยืน เห็นได้จากเกษตรกรที่เข้ามาตรการพักหนี้ มียอดหนี้สูงขึ้นกว่ากลุ่มที่ไม่ได้เข้ามาตรการอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเกิดจาก 1) 77 % ของลูกหนี้ที่เข้าร่วมมาตรการ ได้รับสินเชื่อใหม่ระหว่างการพักหนี้ และ 2) 50 % ของลู🍉กหนี้ที่เข้าร่วมมาตรการ ขาดการจ่ายภาระดอกเบี้ยที่ยังเดินอยู่ นอกจากนี้ เกษตรกรที่เข้ามาตรการพักหนี้ ไม่ได้มีการออมเงินหรือลงทุนทำการเกษตรเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อศึกษาผลกระทบของมาตรการพักหนี้ แยกรายกลุ่มเกษตรกร พบว่า 1) กลุ่มเกษตรกรที่มีศักยภาพในการกู้และชำระหนี้อยู่แล้ว เมื่อเข้าร่วมมาตรการพักหนี้ กลับมีหนี้เพิ่มขึ้นและมีแนวโน้มการผิดนัดชำระหนี้เพิ่มขึ้นกว่ากลุ่มอื่น ๆ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะลูกหนี้กลุ่มนี้เกิด moral hazard และขาดวินัยทางการเงินมากขึ้น โดยมีการขอสินเชื่อเพิ่มเติมในปริมาณมาก ในช่วงที่อยู่ในมาตรการพักหนี้ ดังนั้น การพักหนี้จึงยิ่งสร้างปัญหาหนี้ให้กับกลุ่มนี้ 2) กลุ่มเกษตรกรที่มีศักยภาพ แต่ประสบปัญหาในการชำระหนี้ชั่วคราว การพักหนี้อาจมีผลดีบ้าง เช่น ช่วยบรรเทาปัญหาสภาพคล่องให้เกษตรกรในระยะสั้น ทำให้สามารถลงทุนทำการเกษตรเพื่อสร้างรายได้ต่อไปได้ แต่ยังไม่ทำให้การชำระหนี้ปรับดีขึ้น อีกทั้งยังมีแนวโน้มกลับเข้าไปพักหนี้ต่ออย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น การพักหนี้จะไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาหนี้ในระยะยาวให้กับลูกหนี้กลุ่มนี้ได้ 3) กลุ่มเกษตรกรที่มีศักยภาพต่ำและจ่ายหนี้ไม่ได้อยู่แล้ว เช่น กลุ่มผู้สูงอายุ จะมียอดหนี้สะสมและมีแนวโน้มการผิดนัดชำระหนี้เพิ่มขึ้น และการพักหนี้ไม่ได้ช่วยให้เกิดการออมและลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเปรียบเหมือนการผลักปัญหาไปในอนาคต และไม่ช่วยให้กลับมาชำระหนี้ได้ โดยสรุป ผลการศึกษาชี้ว่ามาตรการพักหนี้ที่ทำในวงกว้าง ต่อเนื่องยาวนาน และไม่มีเงื่อนไขการรักษาวินัยทางการเงินที่ดี จะไม่สามารถแก้ปัญหาให้ลูกหนี้เกษตรกรในกลุ่มต่าง ๆ ได้อย่างยั่งยืน จากผลการศึกษาข้างต้น สามารถถอดบทเรียนการออกแบบมาตรการพักหนี้ที่เหมาะสมได้ 3 ประเด็น ดังนี้ 1.ควรเป็นมาตรการระยะสั้น และใช้เฉพาะในสถานการณ์รุนแรง เช่น การเกิดภัยธรรมชาติรุนแรง การระบาดของไวรัสโควิด 19 รวมทั้งทำในวงจำกัด (opt in) สำหรับลูกหนี้ที่ยังมีศักยภาพ แต่ประสบปัญหาในการชำระหนี้ชั่วคราวเท่านั้น 2.ควรมีกลไกสร้างแรงจูงใจให้ลูกหนี้ทุกกลุ่ม ยังรักษาวินัยในการชำระหนี้อย่างต่อเนื่อง สำหรับกลุ่มลูกหนี้ดี ที่สามารถชำระหนี้ได้ตามปกติ ต้องมีกลไกที่ทำให้ลูกหนี้ยังเลือกชำระหนี้อย่างมีวินัย ป้องกันไม่ให้เข้าร่วมมาตรการพักหนี้ เช่น การลดดอกเบี้ยสินเชื่อใหม่ สำหรับลูกหนี้ที่ชำระได้ตามปกติ เพื่อสร้างแรงกระตุ้นให้ชำระหนี้ต่อเนื่อง นอกจากนี้ อาจมีแนวทางเสริมให้เกษตรกร ที่เข้ามาตรการพักหนี้มีการปรับตัว เพื่อเพิ่มศักยภาพในการหารายได้ และลดความเสี่ยง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการชำระหนี้ในระยะยาวด้วย ทั้งนี้ในการแก้ปัญหาหนี้เกษตรกรอย่างยั่งยืน ภาครัฐควรมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มศักยภาพและภูมิคุ้มกัน เพื่อให้เกษตรกรทุกกลุ่มสามารถชำระหนี้ได้ และลดการพึ่งเงินกู้ อีกทั้งควรให้น้ำหนัก กับการช่วยเหลือกลุ่มลูกหนี้เรื้อรัง ซึ่งคิดเป็นกว่า 50 % ของลูกหนี้เกษตรกรทั้งหมด ตลอดจนพัฒนาฐานข้อมูลลูกหนี้ เพื่อช่วยให้สถาบันการเงินช่วยเหลือลูกหนี้ได้ตรงจุดขึ้น และสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ที่มีคุณภาพและยั่งยืนขึ้น อ่านข่าวอื่นๆ DSI ส่งสำนวนคดี "แก๊งสแกมเมอร์" หลอกหญิงไทยเสียหาย 18 ล้านบาท "วรรณรัตน์" เสนอ "รมว.ยุติธรรม" ย้ายเรือนจำกลางโคราช ออกนอกเมือง "กระซู่-แรดชวา" ความทรงจำ "วัชระ สงวนสมบัติ" นักอนุกรมวิธาน
จนท.ตรวจค้น 3 เรือนจำภาคเหนือ เจ้าหน้าที่สนธิกำลังเข้าตรวจค้นเรือนจำ 3 จังหวัดภาคเหนือประกอบด้วยจังหวัดแพร่ น่าน และ จังหวัดเชียงราย เพื่อป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตามนโยบายของกรมราชทัณฑ์ จนท.ตรวจค้น