ในปี 1993 เด็กทารกชายคนหนึ่งเกิดมาพร้อมกับร่างกายที่ไม่แข็งแรง ป่วยออดๆ แอดๆ จนอาการแย่ลงเข้าขั้นวิกฤต กุมารแพทย์ที่เมืองพิษณุโลกในเวลานั้นพยายามช่วยชีวิต แต่ก็ไม่เป็นผลนัก กระทั่งถึงค่ำคืนวันที่ 1 พ.
ในปี 1993 เด็กทารกชายคนหนึ่งเกิดมาพร้อมกับร่างกายที่ไม่แข็งแรง ป่วยออดๆ แอดๆ จนอาการแย่ลงเข้าขั้นวิกฤต กุมารแพทย์ที่เมืองพิษณุโลกในเวลานั้นพยายามช่วยชีวิต แต่ก็ไม่เป็นผลนัก กระทั่งถึงค่ำคืนวันที่ 1 พ.ย. ที่คล้ายจะเป็นจุดสุดท้ายของชีวิตทารกน้อย พ่อได้พยายามหาหนทางช่วยเหลือ จนทราบว่ามีหมอคนหนึ่งที่วิจัยเกี่ยวกับทารกอยู่ที่กรุงเทพ ยุค 90 ที่ไม่มีอินเตอร์เน็ต ไม่มีโทรศัพท์มือถือ “สมุดหน้าเหลือง” จึงเป็นหนทางเดียวในสมัยนั้นที่จะหาช่องทางติดต่อกับโรงพยาบาลในกรุงเทพได้ พ่อของทารกน้อยโบกรถรับจ้างไปไซส์งานใน จ.กำแพงเพชร เพื่อเข้าไปใช้โทรศัพท์และต่อสายหาโรงพยาบาลหลายครั้ง จนได้เบอร์โทรศัพท์ของออฟฟิศแพทย์หญิงวันดี และแล้วเช้าวันที่ 2 พ.ย. พ่อของทารกน้อยก็ได้ยิน “เสียงสวรรค์” แพทย์หญิงวันดี รับสายหลังจากพ่อกระหน่ำโทรไปตลอดคืน พ่อแนะนำตัวและแจ้งอาการของทารกน้อยให้หมอฟังด้วยความร้อนรน ภาพจากเฟซบุ๊ก จ๋อแจ๊ะจับโจร ภาพจากเฟซบุ๊ก จ๋อแจ๊ะจับโจร แพทย์หญิงวันดีได้ถามกลับว่า “ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน” พ่อตอบกลับไปว่า “ผมโทรมาจากกำแพงเพชร ตอนนี้อยู่ในป่า ถ้าต้องพาลูกไปกรุงเทพจะต้องรอรถเมล์ 2 ชั่วโมง แล้วนั่งไปอีก 2 ชั่วโมงจากกำแพงเพชรเข้าไปที่พิษณุโลก เพื่อรับลูกและจะพาขึ้นเครื่องบินที่มีวันละ 1 เที่ยวถึงจะไปถึงกรุงเทพ” แพทย์หญิงวันดีตอบกลับว่า “คุณไม่ต้องมาเด็กจะเสียระหว่างทาง หมอจะรักษาผ่านทางโทรศัพท์ เราจะกระตุ้นให้ลำไส้เริ่มกลับมาทำงาน ก่อนที่เด็กจะเสียชีวิต รีบกลับไปทำตามที่หมอบอก จากนั้นได้เริ่มบอก “สูตรอาหารผสม” และวิธีการรักษาเบื้องต้น ให้กับพ่อของทารกน้อยที่จดทุกสิ่งทุกอย่างลงในกระดาษโน้ตแล้วพับเก็บใส่กระเป๋า ก่อนจะรีบออกจากไซส์งานขึ้นรถเมล์กลับไปที่เมืองพิษณุโลกทันที “ปาฏิหาริย์ยามบ่าย” เมื่อพ่อกลับมาถึงแล้วพบว่าทารกน้อยยังไม่สิ้นใจ จึงรีบนำอาหารผสมสูตรหมอวันดีใส่ปากรักษาทารกน้อยตามโพยหมอ แม้ยังไม่เห็นผลทันตา แต่ทารกก็ยังไม่จากไป พ่อจดทุกอากัปกิริยาของทารกน้อย ก่อนจะรีบโบกรถข้ามจังหวัดกลับไปไซส์งานเพื่อโทรศัพท์ไปหาหมอ การเทียวไปเทียวมา 2 จังหวัดเพื่อรักษาผ่านทางโทรศัพท์ได้เริ่มต้นขึ้นทุก 7 โมงเช้าของทุกวัน ตลอด 3 เดือน แพทย์หญิงวันดีจะใช้เวลาทุกเช้าก่อนเข้างานรอรับสายโทรศัพท์จากพ่อ เพื่อติดตามรักษาอาการและปรับเปลี่ยนสูตรผสมอาหารตามอาการ จนทารกน้อยดีวันดีคืน ผิวหนังที่เหี่ยวก็กลับมาเต่งตึง กระทั่งปลายเดือน ม.ค.1994 พ่อรายงานอาการของทารกน้อยให้หมอวันดีฟังอย่างเช่นทุกๆ วัน ก่อนเสียงปลายสายของหมอตอบกลับว่า “ยินดีด้วยนะลูกคุณหายแล้ว” ภาพจากเฟซบุ๊ก จ๋อแจ๊ะจับโจร ภาพจากเฟซบุ๊ก จ๋อแจ๊ะจับโจร ภาพไซส์งานเบื้องหน้าพ่อของทารกน้อยขาวโพลนทันใด เสียงเงียบเข้าครอบคลุมสายโทรศัพท์ทั้ง 2 ฝ่าย เข้าสู่อารมณ์เอ่อล้นที่ยากจะพรรณนา แม้สัมผัสได้แต่เพียงเสียงปลายสาย แต่ภาพมรสุมกว่า 3 เดือนไล่ย้อนไปเป็นฉากๆ จนปากพูดอะไรไม่ออก พ่อยังคงเก็บกระดาษโน้ตรายละเอียดการรักษาไว้ในกล่องเป็นอย่างดี จนเวลาล่วงเลยผ่านไป เด็กทารกน้อยเติบโตขึ้นย่างเข้าวัย 32 ปี ระหว่างกลับไปเยี่ยมพ่อในวันหยุด เขาสะดุดตากับกล่องพิลึกพิลั่นในห้องของพ่อ เปิดออกมาดูพบกระดาษโน้ตเก่าๆ หลายแผ่น “พ่อ..พวกนี่คืออะไร” พ่อเห็นกระดาษโน้ตเก่า ความทรงจำในอดีตก็พรั่งพรูและเริ่มเล่าเรื่องราวสุดมหัศจรรย์กับการชุบชีวิตทารกน้อย ผ่านสายโทรศัพท์ของหมอเทวดาท่านหนึ่ง “หมอวันดี โรงพยาบาลรามา” พ่อเอ่ยชื่อ ก่อนทิ้งท้ายว่า “ตอนนี้อยู่ไหนแล้วพ่อไม่รู้ น่าจะอายุมากแล้ว” ถึงเวลา “ตามหาผู้มีพระคุณ” ทารกน้อยในวัยหนุ่มออกตามหาหมอวันดีที่โรงพยาบาลรามาฯ แต่ทว่าเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ท่านได้เกษียณ ไม่ได้มาทำงานเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว เขาออกตระเวนถามหาบ้าน จนมาถึงหน้าบ้านเก่าๆ สุดสมถะ บรรยากาศเงียบสงบ “มีใครอยู่ไหมครับ” หลังสิ้นเสียงเรียก หญิงชราเดินออกมาจากประตูบ้านด้วยใบหน้าสงสัย “มาหาใครคะ” น้ำเสียงอันแสนเมตตาขยับเข้ามาใกล้ๆ ครั้งได้สบตาทำให้ทารกน้อยในวัยหนุ่มเข่าทรุดติดพื้น ก้มลงกราบโดยอัตโนมัติ ก่อนบอกกับหมอที่อยู่ในอาการงุนงงว่า “ไม่รู้หมอจะจำผมได้ไหม ผมคือเด็กที่หมอช่วยชีวิตผ่านโทรศัพท์เมื่อ 32 ปีก่อน พ่อผมเล่าให้ฟังตอนผมไปเจอกระดาษโน้ตอันนี้ ที่ท่านบอกสูตรผสมกับวิธีกาทําเทิร์นสล็อต2เท่ารรักษาให้พ่อผม ทำให้ผมรอดตาย” หมอวันดีหยิบกระดาษโน้ตขึ้นมาอ่านอย่างตั้งใจ ก่อนกล่าวว่า “นี่มันสูตรของฉันจริงๆ ด้วย ขอให้มีความสุขความเจริญนะ แล้วตอนนี้หนูเป็นอะไร” ทารกน้อยในวัยหนุ่มกล่าวตอบ “ผมเป็นตำรวจอยู่นครบาลครับ” ก่อนจะถอดเสื้อคลุมสืบนครบาลตัวเก่งให้กับหมอวันดีโดยไม่ลังเล “เสื้อนี้มีค่าสำหรับผมมากครับ ผมขอให้หมอไว้นะครับ ถ้าไม่มีหมอผมคงตายไปแล้ว” เรื่องเล่าของทารกน้อยจากแดนไกลคนนี้ ปัจจุบันคือ พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ หรือ “สารวัตรแจ๊ะ” สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ที่เกิดมาพร้อมอาการป่วยออดๆ แอดๆ และหมอใน จ.พิษณุโลก วินิจฉัยว่าเป็นโรค “โรต้าไวรัส” แต่การรักษาไม่ดีขึ้นจนสภาพร่างกายลีบแห้งใกล้เสียชีวิต แท้จริงเป็นโรคอุจจาระร่วงจากสารอาหารที่เข้มข้นในลำไส้ ซึ่งยังไม่เป็นที่รู้จักในสมัยนั้น สารวัตรแจ๊ะ ได้รับการรักษาจากศาสตราจารย์เกียรติคุณแพทย์หญิงวันดี วราวิทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคนี้โดยตรง “ผ่านทางโทรศัพท์” ที่รักษาด้วยการให้สูตรอาหารผสมที่มีส่วนผสมของเกลือแกงและน้ำตาลทราย จนทำให้รอดตายอย่างปาฏิหาริย์เมื่อปี 1993 แพทย์หญิงวันดี ได้วิจัยและพัฒนาจนกลายเป็น “ผงวันดี” หรือ “วันดีรามา ORS” หรือที่เรียกว่าผงน้ำตาลเกลือแร่ ซึ่งเป็นสารช่วยทดแทนการสูญเสียเกลือแร่ ใช้รักษาโรคท้องร่วงเฉียบพลัน คิดค้นมาจากการสังเกตว่าคนไข้โรคอุจจาระร่วงจำนวนมากมักชักและตายอย่างรวดเร็ว เพราะได้สารน้ำที่เข้มข้นเกินไป ซึ่งการคิดค้นสูตรของแพทย์หญิงวันดี ใช้ได้ผลและมีการนำเสนอผลงานทางเวทีวิจัยระดับนานาชาติ จนเป็นที่ยอมรับทั่วโลก อ่านข่าว เสน่ห์ "ปาย" เมืองเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยมิตรภาพ "ตากระตุก" เรื่องโชคลางหรือสัญญาณเตือนจากร่างกาย ? ความดันดี = ชีวิตดี เคล็ดลับดูแลให้ค่าความดันเป๊ะ ก่อนต้องพึ่งยา
ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ราคาทอง "ดีดตัวแรงขึ้น" เป็นประวัติการณ์ และสร้าง "All-time High" อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ในประเทศไทย เปิดตลาดบวกแรง 850 บาท (ครั้งที่ 2) ส่งผลให้ราคาทองคำแท่งขายออกบาทละ
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)จัดการประชุมนำเสนอผลการศึกษา “ภาระโรคและภาระโรคจากปั
- ทําเทิร์นสล็อต2เท่า
- sa gaming apk
- ปั่น สล็อต โจ๊ก เกอร์
- หวย มาเล ย์ แม็ ก นั่ ม
- super slot เครดิต ฟรี 50 ยืนยัน เบอร์
- bkk joker123
นิยายชีวิต โดย : Nashih Nashrullah
เรื่องและภาพโดย : Nashih Nashrullah
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” ได้ที่นี่..