เล่น gclub ผ่าน หน้า เว็บสล็อต ฝาก 1 บาท ได้ 100 ล่าสุด-สมัครสมาชิกรับ 68 บาท เช็ค ผล บ-จำเนียร

วันนี้ (22 ก.พ.2564) น.ส.อังคณา อินทสา หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล นายชูวิทย์ จันทรส เลขาธิการมูลนิธิเด็กเยาวชนและครอบครัว พร้อมด้วย มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว และภาคี
วันนี้ (29 ม.ค.2564) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยไทม์ไลน์ผู้ป่วย COVID-19 คนที่ 2 โดยพบ
วันนี้ (22 ก.พ.2564) น.ส.อังคณา อินทสา หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล นายชูวิทย์ จันทรส เลขาธิการมูลนิธิเด็กเยาวชนและครอบครัว พร้อมด้วย มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว และภาคีเครือข่ายกว่า 30 คน เข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกต่อ พลโท ดร. พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการ กสทช. เรียกร้องให้เอาผิดสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ที่เผยแพร่ละครเรื่อง “เมียจำเป็น” ออกอากาศช่วงไพรม์ไทม์ ที่เด็กเยาวชนส่วนใหญ่เข้าถึง ปรากฏฉากข่มขืน ความรุนแรง คุกคามทางเพศ ผลิตซ้ำมายาคติ ทำลายความเสมอภาคระหว่างเพศ น.ส.อังคณา กล่าวว่า จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ฉากข่มขืนในละครเรื่อง “เมียจำเป็น” ทางช่อง 3 มีเนื้อหาทรมาน ทารุณ ทำร้ายร่างกายและจิตใจ รวมถึงฉากพยายามข่มขืน ซึ่งวัฒนธรรมการข่มขืน เป็นมุมมองทางสังคมเกี่ยวกับเพศ การกดทับ ส่งผลต่อการล่วงละเมิดทางเพศปัญหาการข่มขืนตามมา โดยแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ 1.ทำให้เป็นเรื่องปกติ เช่น ฉากพระเอกข่มขืนนางเอก เป็นการส่งเสริม มองว่าเป็นเรื่องปกติ โรแมนติก เกี่ยวกับความรัก หรือใช้คำว่าปล้ำแทนข่มขืน เพื่อให้ดูเบาลง 2.ความเสื่อมถอย เช่น โทษว่าเป็นความผิดของฝ่ายหญิง เป็นผู้หญิงชอบมั่ว ไม่ระมัดระวเล่น gclub ผ่าน หน้า เว็บสล็อต ฝาก 1 บาท ได้ 100 ล่าสุดังตนเอง ส่งผลให้ผู้หญิงไม่ได้รับความยุติธรรม หรือมองการถูกข่มขืนเป็นเรื่องน่าอับอาย เป็นตราบาป ทำให้ผู้ถูกข่มขืนไม่กล้าพูด กลัวสังคมตีตรา เหมือนเป็นการส่งเสริมให้มีการข่มขืนต่อไป หรือมองว่าการถูกข่มขืนต้องเกิดอยู่ในป่า ที่ลับตาคนเท่านั้น ทำให้ไม่เชื่อว่าการข่มขืนเกิดในบ้าน โรงเรียน หรือโรงพยาบาล เป็นต้น 3.การใช้กำลัง เช่น การปล้ำ การข่มขืน การมอมเหล้า วางยา สอดคล้องกับสถานการณ์ความรุนแรงทางเพศ จากหนังสือพิมพ์ ที่มูลนิธิฯรวบรวมไว้ เมื่อปี 2562 พบว่า ความรุนแรงทางเพศโดยเฉพาะการข่มขืนยังเป็นปัญหาที่ไม่ลดลง เนื่องจากข่าวความรุนแรงทางเพศสูงถึง 333 ข่าว แบ่งเป็น ข่าวข่มขืน ร้อยละ 43.9 ข่าวบังคับค้าประเวณี ร้อยละ 11.7 ข่าวพยายามข่มขืน ร้อยละ 10.2 สำหรับอายุผู้ถูกกระทำ พบมากที่สุด คือเด็กและเยาวชน 11-15 ปี ร้อยละ 47.3 ความสัมพันธ์ เกิดจากบุคคลแปลกหน้า/ไม่รู้จักกัน ร้อยละ 45.9 เป็นคนรู้จักคุ้นเคยและเป็นบุคคลในครอบครัว ร้อยละ 45.6 ถูกกระทำจากบุคคลที่รู้จักกันผ่าน Social Network ร้อยละ 8.5 และพบปัจจัยกระตุ้นมาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการใช้ยาเสพติด นายชูวิทย์ กล่าวว่า สิ่งเหล่านี้ กดทับการล่วงละเมิดทางเพศ ทำให้ผู้ถูกข่มขืนไม่กล้าพูด ทำให้เกิดการล่วงละเมิดต่อเรื่อยๆ และสนับสนุนวัฒนธรรมการข่มขืน ในฐานะ กสทช. เป็นหน่วยงานอิสระของรัฐที่มีบทบาทหน้าที่ในการกำกับดูแลการประกอบกิจการโทรคมนาคม มูลนิธิฯ และภาคีเครือข่าย จึงขอแสดงจุดยืนและมีข้อเสนอ ดังนี้ 1.ทำหน้าที่กำกับดูแลเนื้อหาละครโทรทัศน์ที่ผลิตซ้ำมายาคติผิด ๆ ต่อการข่มขืนผ่านละคร จากกรณีละครเรื่อง “เมียจำเป็น” มีลักษณะสนับสนุนให้เกิดวัฒนธรรมการข่มขืนทับถมด้วยคำพูดรุนแรง และตอกย้ำความคิดแบบชายเป็นใหญ่ ถือเป็นอุปสรรคต่อความเสมอภาคระหว่างเพศ ซึ่งในกรณีนี้ต้องเอาผิดและลงโทษสถานีโทรทัศน์ช่องดังกล่าวด้วย 2.ขอให้ กสทช. ร่วมกับกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เชิญผู้ผลิตละคร และสถานีโทรทัศน์ ทีวีดิจิตอล รวมไปถึงช่องสื่อออนไลน์ที่มีละคร มาทำความเข้าใจเพื่อยุติเนื้อหาละครที่ไม่สร้างสรรค์และยังสร้างทัศนคติผิดๆเกี่ยวกับการข่มขืน และการคุกคามทางเพศ 3.ในขณะที่หลายๆฝ่ายกำลังรณรงค์เพื่อทำความเข้าใจเรื่องการคุกคามทางเพศ การข่มขืนในความหมายที่ถูกต้องอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง กสทช. จึงจำเป็นต้องมีมีกลไกติดตามเฝ้าระวังเพื่อจัดการให้อยู่ในทิศทางที่ถูกต้อง และ 4. มูลนิธิและภาคีเครือข่ายยินดีสนับสนุนการทำงานของ กสทช. เพื่อเฝ้าระวังและแจ้งเหตุความไม่เหมาะสมต่างในสื่อโทรทัศน์ ทุกรูปแบบ ขณะที่ พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการ กสทช. ระบุว่า ภาพรวมการนำเสนอฉากข่มขืนในละครเริ่มลดน้อยลงจากเดิมมากและจากการตรวจสอบละครเรื่องเมียจำเป็น พบว่ามีภาพและเนื้อหาไม่เหมาะสม จึงลงโทษโดยการให้ทางผู้จัดละครเรื่องเมียจำเป็น ปรับระดับความเหมาะสมจากระดับทั่วไปเป็นระดับ น.13 คือ รายการที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำแก่ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 13 ปี โดยทางทีมผู้จัดละครได้มีการปรับระดับความเหมาะสมไปแล้ว ในตอนที่ออกอากาศวันที่ 19-20-21 ก.พ.ที่ผ่านมา
วันนี้ (22 ส.ค.2567) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 1 คน คือ นายเศรษฐา ทวีสิน ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พ้นจา