กรณีตำรวจจับขบวนการคอลเซนเตอร์ชาวจีนที่ย่านห้วยขวาง พร้อมยึดของกลางซิมการ์ดเกือบ 300,000 ชิ้นและเครื่องซิมบ็อกซ์เกือบ 300 เครื่อง กสทช.ตรวจสอบเบื้องต้นพบทั้งหมดเป็นซิมของผู้ให้บริการเครือข่ายเพียงรายเ
ในยุคที่โซเชียลมีเดียเชื่อมโยงผู้คนเข้าหากันผ่านหน้าจอ ความเหงากลับกลายเป็นโรคระบาดเงียบที่กัดกินจิตใจมนุษย์โดยไม่รู้ตัว นักวิจัยเปรียบเทียบว่าความเหงาส่งผลเสียต่อสุขภาพพอ ๆ กับการสูบบุหรี่วันละ 15 มวน หรือดื่มแอลกอฮอล์วันละ 6 แก้ว สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เตือนว่า ผู้คนใช้เวลากับโลกออนไลน์มากขึ้น แต่สื่อสารกับครอบครัวและคนรอบข้างน้อยลง จนนำไปสู่ปัญหาทางใจที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ วันนี้ (31 ม.ค.2568) ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ บางกอก คอนเวนชัน เซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ สสส. ร่วมกับศูนย์ความรู้และประสานงานสุขภาวะทางปัญญา มหาวิทยาลัยมหิดล และองค์กรพันธมิตร 7 แห่ง ได้จัดประชุม "Complete Well-being in the Age of AI" ในการประชุมวิชาการนานาชาติรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล (PMAC 2025) โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อหารือถึงผลกระทบของความเหงาและการขาดปฏิสัมพันธ์ทางสังคม รวมถึงบทบาทของ AI ในการช่วยบรรเทาปัญหานี้ นพ.พงศ์เทพ วงศ์ดู ที่ เด็ด บอลวัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุน สสส. ระบุว่า การใช้เวลากับโซเชียลมีเดียอย่างหนัก ทำให้ความสัมพันธ์ที่แท้จริงในครอบครัวและชุมชนลดลง งานวิจัยของ J. Holt-Lunstad และคณะ ที่เผยแพร่ในวารสาร PLOS Medicine พบว่า การขาดปฏิสัมพันธ์ทางสังคมมีผลกระทบต่อสุขภาพไม่ต่างจากการสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ยิ่งไปกว่านั้น ภาวะขาดการเชื่อมโยง (Lack of Social Connection) ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า ความวิตกกังวล และภาวะสมองเสื่อมได้อีกด้วย แม้ AI จะถูกพัฒนาให้ช่วยตรวจจับอารมณ์ ให้คำปรึกษาเบื้องต้น และพัฒนาแพลตฟอร์มดูแลสุขภาพจิต แต่เทคโนโลยีไม่อาจทดแทนความสัมพันธ์ที่แท้จริงได้ การพูดคุยกับเพื่อนแท้ การสัมผัสความอบอุ่นจากคนรอบข้าง และการสร้างความผูกพันในชีวิตจริง เป็นสิ่งที่ไม่มีอัลกอริธึมไหนจำลองขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์ ดร.เฟรดริก ลินเดนโครนา จากสวีเดน ย้ำว่า การพัฒนาสุขภาวะทางปัญญาต้องมุ่งเน้นไปที่การสร้างความสัมพันธ์ที่มีคุณค่ามากกว่าการพึ่งพาเทคโนโลยี ดร.กาบอร์ การ์ไซ แห่ง Mind and Life Europe ชี้ว่า ปัจจุบันโลกกำลังเผชิญ "Polycrisis" หรือวิกฤตที่เกิดจากหลายปัจจัยผสมกัน ทั้งการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ความไม่มั่นคงทางจิตใจ และภาวะโลกร้อน หากปราศจากสุขภาวะทางปัญญาที่ดี มนุษย์อาจไม่สามารถรับมือกับความซับซ้อนเหล่านี้ได้ ความเชื่อมโยงทางดิจิทัลที่ไร้หัวใจ อาจทำให้มนุษย์รู้สึกโดดเดี่ยวยิ่งกว่าที่เคย น.ส. อวยพร เขื่อนแก้ว ผู้ก่อตั้งศูนย์ผู้หญิงเพื่อสันติภาพและความเป็นธรรม กล่าวว่า สุขภาวะทางปัญญาเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความสมดุลทางใจ ในโลกที่ผู้คนหันไปพึ่งพาเทคโนโลยีเพื่อเติมเต็มช่องว่างของความสัมพันธ์ การกลับมาให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ในชีวิตจริง การสนทนากับครอบครัว และการสร้างเครือข่ายทางสังคมที่มีคุณค่า เป็นวิธีเดียวที่จะช่วยให้มนุษย์หลุดพ้นจากวงจรความเหงาได้อย่างแท้จริง ท้ายที่สุดแล้ว โซเชียลอาจไม่ได้ทำให้เราหายเหงา แต่เป็นตัวกระตุ้นให้เรารู้สึกเหงามากกว่าเดิมหรือไม่ ? คำตอบขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกใช้มันอย่างไร อ่านข่าวอื่น : สธ.แจงความปลอดภัยวัคซีน HPV ยังไม่มีรายงานเรียกคืน ผลวิจัยชี้ "ฝุ่นจิ๋ว" เพิ่มอัตราเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง 8%
ซูเปอร์ไต้ฝุ่น "ยางิ" ซึ่งถือเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดของเอเชียในปี 2024 พัดขึ้นฝั่งทางตอนเหนือของประเทศ เมื่อวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยมีความเร็วลมสูงถึง 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่งผลให้มีฝนตกหนัก ลมกระ
ในยุคที่โซเชียลมีเดียเชื่อมโยงผู้คนเข้าหากันผ่านหน้าจอ ความเหงากลับกลายเป็นโรคระบาดเงียบที่กัดกินจิต
- ดู ที่ เด็ด บอล
- omg slotแจก เครดิต ฟรี pussy888
- w88slot ฟรี50 otp
- เกมสสล็อตกว่า100เกมส์
- slot jokergaming
- ใช้ iPad หาเงิน
นิยายชีวิต โดย : Abdul Haris
เรื่องและภาพโดย : Abdul Haris
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” ได้ที่นี่..