เมื่อวันที่ 19 ต.ค.2564 ตำรวจกองกำกับการควบคุมธุรก

วันนี้ (3 ก.พ.2566) พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผู้บัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (รอง ผบช.สอท.) พร้อมด้วย กำลังตำรวจนำหมายค้นของศาลอาญา เข้าตรวจค้นที่บ้านหรูหลังหนึ่ง ถนนเลียบคลองประปา ต.บ้า
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. กล่าวถึงการสั่งนับคะแนนเลือกตั้งใหม่ 47 หน่วยเลือกตั้งว่า เป็นกรณีที่คะแนนนับไม่ตรงกัน ซึ่งมาจากการขีดขานนับคะแนนผิดพลาด แต่จำนวนบัตรและจำนวนคนมาใช้สิทธิตรงกัน คาดว่าน
การวางแผนการเงินก่อนเกษียณ เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญ ที่ข้าราชการต้องวางแผนก่อนการเกษียณเพื่อให้มั่นใจว่า จะมีทรัพยากรเพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตหลังเกษียณโดยไม่เป็นภาระให้กับคนรอบข้างและสังคม โดยเริ่มจากการตรวจสอบสิทธิประโยชน์ว่าเมื่อเกษียณอายุแล้ว จะได้รับสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง เช่น เงินบำนาญ, เงินสะสมจากกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.), สิทธิในการรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จากนั้นบริหารจัดการหนี้สิน หากเป็นไปได้ข้าราชการควรปลดหนี้สินให้เสร็จสิ้นก่อนเกษียณ เช่น หนี้บ้าน หนี้สินส่วนตัว และจัดทำแผนรายรับรายจ่าย เช่น ค่าครองชีพ, ค่ารักษาพยาบาล, และค่าใช้จ่ายประอื่น ๆ และประเมินรายได้ที่จะได้รับ เช่น เงินบำนาญ, เงินจากการลงทุน, หรือรายได้จากทรัพย์สินอื่น ๆ กบข. หรือ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (Government Pension Fund: GPF) เป็นกองทุนที่จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นแหล่งสะสมเงินเพื่อการเกษียณอายุสำหรับข้าราชการ โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการช่วยให้ข้าราชการมีเงินออมเพียงพอสำหรับการเกษียณอายุ นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างแรงจูงใจให้ข้าราชการมีการออมเพิ่มขึ้น และเป็นการจัดการเงินออมเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการลงทุนมากที่สุด ข้าราชการ 14 ประเภทที่สามารถเป็นสมาชิก กบข. ทั้งนี้ ข้าราชการที่รับราชการอยู่ก่อนวันที่ 27 มี.ค.2540 (พ.ร.บ.กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.2539 มีผลใช้บังคับ) จะเป็นสมาชิก กบข. หรือไม่ขึ้นอยู่กับความสมัครใจ แต่ข้าราชการที่เข้ารับราชการตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค.2540 ทุกคนต้องเป็นสมาชิก กบข. เมื่อข้าราชการเกษียณอายุราชการ ผลประโยชน์อันพึงได้แยกเป็น 2 ประเภท คือ โดยที่ทั้ง 2 ประเภท จะสามารถเลือกรับเงินเป็นบำเหน็จหรือเงินบำนาญได้นั้น ให้ดูจากอายุรับราชการและเหตุที่ออกจากราชการ เช่น กรณีลาออกจากราชการ : หากมีเวลาราชการตั้งแต่ 25 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปสามารถเลือกรับเงินบำเหน็จหรือเงินบำนาญก็ได้ แต่หากมีเวลาราชการ 10-25 ปี จะได้รับเงินบำเหน็จเท่านั้น และสำหรับผู้ที่รับราชการไม่ถึง 10 ปี จะไม่ได้รับเงินบำเหน็จหรือเงินบำนาญ แต่อาจได้เงินสะสม, เงินสมทบ และผลประโยชน์ หากเป็นสมาชิก กบข. กรณีออกจากราชการ ซึ่งได้แก่ ทุพพลภาพ, เกษียณอายุเมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์, สูงอายุ (50 ปี), ทดแทน (ยุบ ยกเลิกตำแหน่ง ให้ออกโดยไม่มีความผิด ออกนอกระบบเกษียณก่อนกำหนด) : จะสามารถเลือกรับเงินบำนาญ หรือเงินบำเหน็จ เมื่อมีอายุราชการ 10 ปีขึ้นไป สำหรับผู้ที่มีเวลาราชการ 1-10 ปีจะได้รับเงินบำเหน็จ และ ผู้ที่รับราชการไม่ถึง 1 ปี ไม่ได้รับเงินบำเหน็จหรือเงินบำนาญ แต่อาจได้เงินสะสม, เงินสมทบ และผลประโยชน์ หากเป็นสมาชิก กบข. ส่วนที่ 1 เงินบำเหน็จ หรือ บำนาญ (สิทธิในบำเหน็จหรือบำนาญเป็นเช่นเดิม คือขึ้นอยู่กับระยะเวลาการทำงาน) จากเงินงบประมาณ ซึ่งคำนวณจาก บำเหน็จ = เงินเดือนเดือนสุดท้าย x อายุราชการ (ปี) บำนาญ = (เงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย x อายุราชการ (ปี)) หารด้วย 50 ทั้งนี้ เงินจำนวนนี้ต้องไม่เกินร้อยละ 70 ของเงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย ส่วนที่ 2 สมาชิกจะได้รับเงินก้อนจากกองทุนภายในระยะเวลาไม่เกิน 1 เดือน นับแต่เกษียณอายุหรือลาออกจากราชการซึ่งเงินก้อนนี้จะประกอบ เงินบำนาญ นำเงินเดือน ๆ สุดท้าย คูณอายุราชการ หารด้วย 50 เงินบำเหน็จ ให้นำเงินเดือน ๆ สุดท้าย คูณด้วยอายุราชการ โดยคำนวณได้เท่าไรก็จะได้รับไปทั้งหมด สำหรับข้าราชการที่ออกจากราชการแล้วนั้น ไม่เฉพาะเงินบำเหน็จหรือเงินบำนาญเท่านั้นที่ได้รับหลังสิ้นสุดชีวิตราชการ แต่สวัสดิการ ความช่วยเหลือต่าง ๆ ที่รัฐยังสนับสนุนให้นั้น สำหรับผู้ที่เลือกรับ "เงินบำนาญ" จะได้สิทธิ์ดังต่อไปนี้อีกด้วย 1.สิทธิรักษาพยาบาล ผู้รับเงินบำนาญมีสิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาลของตนเองและบุคคลในครอบครัวที่ชอบด้วยกฎหมาย (บุตรไม่รวมบุตรบุญธรรม ได้สิทธิ 3 คน อายุไม่เกิน 20 ปีบริบูรณ์ เรียงตามลำดับการเกิดก่อนหลัง คู่สมรสตามกฎหมาย บิดาและมารดา) "ค่าตรวจสุขภาพประจำปี" เบิกได้เฉพาะผู้มีสิทธิ ไม่รวมบุคคลในครอบครัว ตามอัตราที่กระทรวงการคลังกำหนด และสิทธิรักษาพยาบาลจะสิ้นสุดลงเมื่อเจ้าของสิทธิ์เสียชีวิต 2.เงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาบุตร ผู้รับเงินบำนาญมีสิทธิ นำเงินบำรุงการศึกษาหรือเงินค่าเล่าเรียนของบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย มาเบิกกับทางราชการ บุตร หมายถึง บุตรชอบด้วยกฎหมายอายุ 3-25 ปี แต่ไม่รวมบุตรบุญ918kissmyslotsapp5.0apkdownloadforwindowsM98แทงบอลชุด.jokerธรรม และบุตรซึ่งบิดามารดายกให้เป็นบุตรบุญธรรมของคนอื่น และเป็นบุตรคนที่ 1-3 โดยนับเรียงลำดับการเกิดก่อนหลัง ไม่ว่าจะเป็นบุตรที่เกิดจากการสมรสครั้งใด และอยู่ในความปกครองของใคร 3.ยกเว้นเงินได้เสียภาษี 190,000 บาท ข้าราชการบำนาญที่มีอายุ 65 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ได้รับสิทธิยกเว้นเงินได้ ไม่ต้องนำไปรวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินได้พึงประเมินทุกประเภทที่ได้รับรวมกัน ไม่เกิน 190,000 บาท ในปีภาษี ตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ.2551 เป็นต้นไป ผู้รับเงินบำนาญจะเสียสิทธิ์รับเงินบำนาญหากกระทำ ดังนี้ สิทธิประโยชน์ที่ทายาทได้รับมี 5 ข้อ ดังนี้ การเลือกว่าจะรับ "เงินบำเหน็จ" หรือ "เงินบำนาญ" หลังเกษียณหรือลาออกจากราชการนั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเงินและความต้องการของแต่ละบุคคล เนื่องจากทั้ง 2 แบบมีข้อดีและข้อเสียที่ต่างกัน การพิจารณาว่าแบบใด "ดีกว่า" นั้น ควรพิจารณาตามเงื่อนไขชีวิตและแผนการใช้ชีวิตสิ้นสุดอาชีพข้าราชการ ข้อดี-ข้อเสียของเงินบำเหน็จ การได้รับเงินก้อนใหญ่ทันที ทำให้สามารถใช้เงินก้อนนั้นไปลงทุน, ปลดหนี้สิน, หรือวางแผนการใช้เงินในแบบที่ตนเองต้องการได้อย่างอิสระ แต่หากไม่มีการวางแผนการใช้เงินอย่างรอบคอบหรือการลงทุนที่ดี อาจทำให้เงินหมดเร็วและขาดรายได้ในระยะยาว หรือหากไม่มีรายได้อื่นมาเสริม เงินก้อนใหญ่ที่ได้อาจหมดไปในระยะเวลาสั้น และอาจทำให้ขาดเงินใช้จ่ายในอนาคต ข้อดี-ข้อเสียของเงินบำนาญเงินบำนาญให้ความมั่นคงทางการเงินหลังเกษียณ เนื่องจากจะมีรายได้เข้ามาทุกเดือนตลอดชีวิต ผู้รับไม่ต้องกังวลเรื่องการบริหารเงิน หากมีอายุยืนยาว การได้รับเงินบำนาญจะเป็นประโยชน์มาก เนื่องจากยังคงมีรายได้ทุกเดือนแม้ผ่านไปหลายปีหลังเกษียณ แต่สำหรับผู้ที่ต้องการเงินก้อนใหญ่สำหรับการลงทุนหรือจ่ายหนี้สิน การรับเงินบำนาญอาจไม่ตอบโจทย์ หรือหากเสียชีวิตเร็ว ไม่ว่าจะจากสุขภาพแย่ โรคภัยไข้เจ็บ หรือ อุบัติเหตุ เงินที่ได้อาจน้อยกว่าบำเหน็จ ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการตัดสินใจ อ่านข่าวอื่น : 164 ปางช้างตื่นตัวยื่นขอใบอนุญาตรับรองมาตรฐาน แนะ 120 วันศึกษากม."สมรสเท่าเทียม" ชี้ผูกพันอาญา-แพ่ง แห่กดเงินสด 10,000 บาท ต่อลมหายใจ ซ่อมบ้าน - จ่ายค่าเทอมลูก
จากกรณีวันนี้ เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.0 ที่ประเทศเมียนมา จนสามารถรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้ในพื้นที่ กรุงเ
การวางแผนการเงินก่อนเกษียณ เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญ ที่ข้าราชการต้องวางแผนก่อนการเกษียณเพื่อให้มั่
วันที่ (20 ก.ย.2566) นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะที่ปรึกษานายปดิพ
การวางแผนการเงินก่อนเกษียณ เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญ ที่ข้าราชการต้องวางแผนก่อนการเกษียณเพื่อให้มั่นใจว่า จะมีทรัพยากรเพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตหลังเกษียณโดยไม่เป็นภาระให้กับคนรอบข้างและสังคม โดยเริ่มจากการตรวจสอบสิทธิประโยชน์ว่าเมื่อเกษียณอายุแล้ว จะได้รับสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง เช่น เงินบำนาญ, เงินสะสมจากกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.), สิทธิในการรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จากนั้นบริหารจัดการหนี้สิน หากเป็นไปได้ข้าราชการควรปลดหนี้สินให้เสร็จสิ้นก่อนเกษียณ เช่น หนี้บ้าน หนี้สินส่วนตัว และจัดทำแผนรายรับรายจ่าย เช่น ค่าครองชีพ, ค่ารักษาพยาบาล, และค่าใช้จ่ายประอื่น ๆ และประเมินรายได้ที่จะได้รับ เช่น เงินบำนาญ, เงินจากการลงทุน, หรือรายได้จากทรัพย์สินอื่น ๆ กบข. หรือ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (Government Pension Fund: GPF) เป็นกองทุนที่จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นแหล่งสะสมเงินเพื่อการเกษียณอายุสำหรับข้าราชการ โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการช่วยให้ข้าราชการมีเงินออมเพียงพอสำหรับการเกษียณอายุ นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างแรงจูงใจให้ข้าราชการมีการออมเพิ่มขึ้น และเป็นการจัดการเงินออมเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการลงทุนมากที่สุด ข้าราชการ 14 ประเภทที่สามารถเป็นสมาชิก กบข. ทั้งนี้ ข้าราชการที่รับราชการอยู่ก่อนวันที่ 27 มี.ค.2540 (พ.ร.บ.กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.2539 มีผลใช้บังคับ) จะเป็นสมาชิก กบข. หรือไม่ขึ้นอยู่กับความสมัครใจ แต่ข้าราชการที่เข้ารับราชการตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค.2540 ทุกคนต้องเป็นสมาชิก กบข. เมื่อข้าราชการเกษียณอายุราชการ ผลประโยชน์อันพึงได้แยกเป็น 2 ประเภท คือ โดยที่ทั้ง 2 ประเภท จะสามารถเลือกรับเงินเป็นบำเหน็จหรือเงินบำนาญได้นั้น ให้ดูจากอายุรับราชการและเหตุที่ออกจากราชการ เช่น กรณีลาออกจากราชการ : หากมีเวลาราชการตั้งแต่ 25 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปสามารถเลือกรับเงินบำเหน็จหรือเงินบำนาญก็ได้ แต่หากมีเวลาราชการ 10-25 ปี จะได้รับเงินบำเหน็จเท่านั้น และสำหรับผู้ที่รับราชการไม่ถึง 10 ปี จะไม่ได้รับเงินบำเหน็จหรือเงินบำนาญ แต่อาจได้เงินสะสม, เงินสมทบ และผลประโยชน์ หากเป็นสมาชิก กบข. กรณีออกจากราชการ ซึ่งได้แก่ ทุพพลภาพ, เกษียณอายุเมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์, สูงอายุ (50 ปี), ทดแทน (ยุบ ยกเลิกตำแหน่ง ให้ออกโดยไม่มีความผิด ออกนอกระบบเกษียณก่อนกำหนด) : จะสามารถเลือกรับเงินบำนาญ หรือเงินบำเหน็จ เมื่อมีอายุราชการ 10 ปีขึ้นไป สำหรับผู้ที่มีเวลาราชการ 1-10 ปีจะได้รับเงินบำเหน็จ และ ผู้ที่รับราชการไม่ถึง 1 ปี ไม่ได้รับเงินบำเหน็จหรือเงินบำนาญ แต่อาจได้เงินสะสม, เงินสมทบ และผลประโยชน์ หากเป็นสมาชิก กบข. ส่วนที่ 1 เงินบำเหน็จ หรือ บำนาญ (สิทธิในบำเหน็จหรือบำนาญเป็นเช่นเดิม คือขึ้นอยู่กับระยะเวลาการทำงาน) จากเงินงบประมาณ ซึ่งคำนวณจาก บำเหน็จ = เงินเดือนเดือนสุดท้าย x อายุราชการ (ปี) บำนาญ = (เงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย x อายุราชการ (ปี)) หารด้วย 50 ทั้งนี้ เงินจำนวนนี้ต้องไม่เกินร้อยละ 70 ของเงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย ส่วนที่ 2 สมาชิกจะได้รับเงินก้อนจากกองทุนภายในระยะเวลาไม่เกิน 1 เดือน นับแต่เกษียณอายุหรือลาออกจากราชการซึ่งเงินก้อนนี้จะประกอบ เงินบำนาญ นำเงินเดือน ๆ สุดท้าย คูณอายุราชการ หารด้วย 50 เงินบำเหน็จ ให้นำเงินเดือน ๆ สุดท้าย คูณด้วยอายุราชการ โดยคำนวณได้เท่าไรก็จะได้รับไปทั้งหมด สำหรับข้าราชการที่ออกจากราชการแล้วนั้น ไม่เฉพาะเงินบำเหน็จหรือเงินบำนาญเท่านั้นที่ได้รับหลังสิ้นสุดชีวิตราชการ แต่สวัสดิการ ความช่วยเหลือต่าง ๆ ที่รัฐยังสนับสนุนให้นั้น สำหรับผู้ที่เลือกรับ "เงินบำนาญ" จะได้สิทธิ์ดังต่อไปนี้อีกด้วย 1.สิทธิรักษาพยาบาล ผู้รับเงินบำนาญมีสิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาลของตนเองและบุคคลในครอบครัวที่ชอบด้วยกฎหมาย (บุตรไม่รวมบุตรบุญธรรม ได้สิทธิ 3 คน อายุไม่เกิน 20 ปีบริบูรณ์ เรียงตามลำดับการเกิดก่อนหลัง คู่สมรสตามกฎหมาย บิดาและมารดา) "ค่าตรวจสุขภาพประจำปี" เบิกได้เฉพาะผู้มีสิทธิ ไม่รวมบุคคลในครอบครัว ตามอัตราที่กระทรวงการคลังกำหนด และสิทธิรักษาพยาบาลจะสิ้นสุดลงเมื่อเจ้าของสิทธิ์เสียชีวิต 2.เงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาบุตร ผู้รับเงินบำนาญมีสิทธิ นำเงินบำรุงการศึกษาหรือเงินค่าเล่าเรียนของบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย มาเบิกกับทางราชการ บุตร หมายถึง บุตรชอบด้วยกฎหมายอายุ 3-25 ปี แต่ไม่รวมบุตรบุญ918kissmyslotsapp5.0apkdownloadforwindowsM98แทงบอลชุด.jokerธรรม และบุตรซึ่งบิดามารดายกให้เป็นบุตรบุญธรรมของคนอื่น และเป็นบุตรคนที่ 1-3 โดยนับเรียงลำดับการเกิดก่อนหลัง ไม่ว่าจะเป็นบุตรที่เกิดจากการสมรสครั้งใด และอยู่ในความปกครองของใคร 3.ยกเว้นเงินได้เสียภาษี 190,000 บาท ข้าราชการบำนาญที่มีอายุ 65 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ได้รับสิทธิยกเว้นเงินได้ ไม่ต้องนำไปรวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินได้พึงประเมินทุกประเภทที่ได้รับรวมกัน ไม่เกิน 190,000 บาท ในปีภาษี ตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ.2551 เป็นต้นไป ผู้รับเงินบำนาญจะเสียสิทธิ์รับเงินบำนาญหากกระทำ ดังนี้ สิทธิประโยชน์ที่ทายาทได้รับมี 5 ข้อ ดังนี้ การเลือกว่าจะรับ "เงินบำเหน็จ" หรือ "เงินบำนาญ" หลังเกษียณหรือลาออกจากราชการนั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเงินและความต้องการของแต่ละบุคคล เนื่องจากทั้ง 2 แบบมีข้อดีและข้อเสียที่ต่างกัน การพิจารณาว่าแบบใด "ดีกว่า" นั้น ควรพิจารณาตามเงื่อนไขชีวิตและแผนการใช้ชีวิตสิ้นสุดอาชีพข้าราชการ ข้อดี-ข้อเสียของเงินบำเหน็จ การได้รับเงินก้อนใหญ่ทันที ทำให้สามารถใช้เงินก้อนนั้นไปลงทุน, ปลดหนี้สิน, หรือวางแผนการใช้เงินในแบบที่ตนเองต้องการได้อย่างอิสระ แต่หากไม่มีการวางแผนการใช้เงินอย่างรอบคอบหรือการลงทุนที่ดี อาจทำให้เงินหมดเร็วและขาดรายได้ในระยะยาว หรือหากไม่มีรายได้อื่นมาเสริม เงินก้อนใหญ่ที่ได้อาจหมดไปในระยะเวลาสั้น และอาจทำให้ขาดเงินใช้จ่ายในอนาคต ข้อดี-ข้อเสียของเงินบำนาญเงินบำนาญให้ความมั่นคงทางการเงินหลังเกษียณ เนื่องจากจะมีรายได้เข้ามาทุกเดือนตลอดชีวิต ผู้รับไม่ต้องกังวลเรื่องการบริหารเงิน หากมีอายุยืนยาว การได้รับเงินบำนาญจะเป็นประโยชน์มาก เนื่องจากยังคงมีรายได้ทุกเดือนแม้ผ่านไปหลายปีหลังเกษียณ แต่สำหรับผู้ที่ต้องการเงินก้อนใหญ่สำหรับการลงทุนหรือจ่ายหนี้สิน การรับเงินบำนาญอาจไม่ตอบโจทย์ หรือหากเสียชีวิตเร็ว ไม่ว่าจะจากสุขภาพแย่ โรคภัยไข้เจ็บ หรือ อุบัติเหตุ เงินที่ได้อาจน้อยกว่าบำเหน็จ ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการตัดสินใจ อ่านข่าวอื่น : 164 ปางช้างตื่นตัวยื่นขอใบอนุญาตรับรองมาตรฐาน แนะ 120 วันศึกษากม."สมรสเท่าเทียม" ชี้ผูกพันอาญา-แพ่ง แห่กดเงินสด 10,000 บาท ต่อลมหายใจ ซ่อมบ้าน - จ่ายค่าเทอมลูก
นักวิชาการชี้“รถไฟรางคู่”ธุรกิจลงทุนไทย-จีน ปมส่ง นักวิชาการชี้ปมไทยส่ง "อุยกูร์" กลับจีน เพราะต้องก