Partai Golongan Karya (Golkar) menyodorkan namaJus

วันนี้ (25 ต.ค.2564) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการกระแสข่าวที่พรรคพลังประชารัฐ ทำโพลสำรวจความนิยม ส.ส.ภายในพรรค โดยเฉพาะ ส.ส.ภาคใต้ ที่มีคนผ่านเกณฑ์เ
วันนี้ (4 ก.พ.2566) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ส่งทีมนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมชุด PCT5 ร่วมกับชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบนครบาล แกะรอยติดตามชายอ้างเป็น "หมอทอม" ในโลก
วันนี้ (918kiss the moon ติดต่อ15 รับ 100 ล่าสุด15 ส.ค.66) ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ลงพื้นที่ตรวจค้นร้านขายยาทั่วกรุงเทพฯ จำนวน 14 จุด ในช่วงระหว่างวันที่ 24 ก.ค. - 9 ส.ค.66 หลังได้ทราบถึงพฤติกรรมของร้านขายยาเหล่านี้ว่า ใช้พนักงานขายที่ไม่ใช่เภสัชกร ขายยาจำพวกยาแก้ไอ ยาแก้แพ้ ให้กลับกลุ่มวัยรุ่นเพื่อนำไปผสมเป็นยาเสพติดประเภทสี่คูณร้อย ตำรวจสามารถจับผู้กระทำความผิดที่เป็นพนักงานขายยาที่ไม่ใช่เภสัชกร จำนวน 13 คน พร้อมยึดของกลางเป็นยาปลอม 572 ชิ้น ยาไม่มีทะเบียน จำนวน 212 ชิ้น ยาแก้ไอชนิดน้ำเชื่อม 24,722 ขวด ยาเขียวเหลือง (ทรามาดอล) 4,150 แคปซูล และยาควบคุมพิเศษ จำนวน 21 กล่อง มูลค่ารวมกว่า 1,400,000 บาท พ.ต.อ.สุพจน์ พุ่มแหยม ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เผยว่าจากการเข้าตรวจค้น 14 ร้าน มี 1 ร้านที่มีเภสัชกรและเปิดขายอย่างถูกต้อง ซึ่งร้านที่พบการกระทำความผิดส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ย่านรามคำแหง หัวหมาก และลาดพร้าว จากการเฝ้าตรวจสอบพบว่า มีกลุ่มวัยรุ่นเข้าใช้บริการเป็นอย่างมาก และมีการขายยาแก้ไอ และยาอื่น ๆ ที่ผิดวัตถุประสงค์ เพื่อนำไปผสมเป็นยาเสพติด จึงวางแผนเข้าตรวจค้นจับกุมในครั้งนี้ นอกจากนี้ ยังพบว่าทั้ง 13 คน เป็นคนของเครือข่ายเดียวกัน มีนายจ้างเป็นผู้ลงทุนทำร้านยา เพื่อทำโควต้าในการรับซื้อยาแก้ไอได้มากขึ้น และมีเจตนาเปิดร้านขายยาแสวงหากำไรผิดวัตถุประสงค์ และจรรยาบรรณของอาชีพเภสัชกร โดยในจำนวน 13 คนนี้ เป็นผู้ที่จบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 3 คน , ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 2 คน และชั้นปริญญาตรี จำนวน 8 คน ทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า รับจ้างเป็นพนักงานของร้านขายยาโดยปฏิบัติหน้าที่ในร้านขายยาเป็นประจำทุกวันแต่จะมีเภสัชกรเข้ามาดูแลเพียงสัปดาห์ละหนึ่งครั้งโดย บุคคลเหล่านี้ ได้รับค่าจ้างเฉลี่ยเดือนละ 12,000 - 18,000 บ. ในส่วนของยาปลอมที่พบ เภสัชกรวีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการ กรรมการอาหารและยา เผยว่า ยาปลอมที่พบสวมเลขทะเบียนยาที่ยกเลิกไปแล้ว ทำให้ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคเป็นอย่างมากที่อาจจะต้องรับความเสี่ยงจากการทานยาที่ไม่ได้คุณภาพ หรือมีส่วนผสมที่ไม่ถูกต้องเตรียมประสานตำรวจ ขยายผลไปถึงสถานที่ผลิต และยานำเข้าไม่ลงทะเบียนด้วย ตลอดไปจนถึงร้ายขายยาที่รับยาปลอมจากโรงงานไปขาย เภสัชกร ปรีชา พันธุ์ติเวช อุปนายกสภาเภสัชกรรมคนที่ 2 เผยว่า สำหรับผู้กระทำความผิดจะถูกแจ้งความดำเนินคดีทั้งหมดส่วนเภสัชกร จะถูกดำเนินคดี พร้อมกับลงโทษทางวินัยสั่งพักใช้ใบอนุญาต 2 ปี นอกจากนี้ยังมีอีกหลายจังหวัด ที่ยังต้องตรวจสอบ หากพบการกระทำความผิดในลักษณะนี้ก็จะดำเนินคดีโดยไม่ละเว้น พร้อมประชาสัมพันธ์ถึงประชาชนว่า หากต้องการตรวจสอบว่า ร้านขายยาว่ามีเภสัชกรขายยาให้ถูกต้องหรือไม่ สามารถดาวน์โหลด แอปพลิเคชัน "ร้านยาของฉัน" ประชาชนสามารถดูได้ว่า ร้านยาใดบ้างที่อยู่ใกล้ และแสดงใบหน้าของเภสัชกร เพื่อให้ตรวจสอบได้ว่าไม่ใช่พนักงานมาขายแทน สำหรับข้อหาของผู้กระทำความผิด พนักงานขายจะถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.วิชาชีพเภสัชกรรม พ.ศ.2537 เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมทำการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมหรือแสดงด้วยวิธีใด ๆ ให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีสิทธิประกอบวิชาชีพดังกล่าวโดยมิได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 30,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 ฐานไม่จัดทำบัญชียาที่ซื้อและขายตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ระหว่างโทษปรับ 2,000 - 10,000 บ. , ขายยาอันตรายในระหว่างที่เภสัชกรไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ระหว่างโทษปรับ 1,000 - 5,000 บาท , ขายยาที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ , และขายยาปลอมระวังโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 20 ปีหรือปรับตั้งแต่ 2,000 - 10,000 บาท ส่วนเภสัชกรรมหรือเจ้าของร้านจะความผิดฐานไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเวลาทำการรวมถึงไม่ควบคุมการขายยาควบคุมการส่งมอบยาอันตรายและควบคุมการทำบัญชีซื้อและขายยาตามที่กำหนดในกฎกระทรวงระวางโทษปรับตั้งแต่ 1,000 - 5,000 บาท และจะถูกลงโทษพักใบอนุญาต 2 ปี ทั้งนี้ ยังต้องเรียกมาสอบปากคำเพิ่มเติม หากมีส่วนรู้เห็นในการรับยาปลอมมาจำหน่าย ก็จะถูกดำเนินคดีเพิ่มเติม
จากกรณีสื่อสังคมออนไลน์ เผยแพร่คลิปวิดีโอเยาวชนแสดงพฤติกรรมเสี่ยงอันตราย วิ่งเข้าหารถไฟขณะขบวนรถวิ่ง
วันนี้ (25 เม.ย.2565) นายชวน หลีกภัย แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงปัญหาภายในพรรคประชาธิปัตย์
วันนี้ (918kiss the moon ติดต่อ15 รับ 100 ล่าสุด15 ส.ค.66) ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มค
วันนี้ (918kiss the moon ติดต่อ15 รับ 100 ล่าสุด15 ส.ค.66) ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ลงพื้นที่ตรวจค้นร้านขายยาทั่วกรุงเทพฯ จำนวน 14 จุด ในช่วงระหว่างวันที่ 24 ก.ค. - 9 ส.ค.66 หลังได้ทราบถึงพฤติกรรมของร้านขายยาเหล่านี้ว่า ใช้พนักงานขายที่ไม่ใช่เภสัชกร ขายยาจำพวกยาแก้ไอ ยาแก้แพ้ ให้กลับกลุ่มวัยรุ่นเพื่อนำไปผสมเป็นยาเสพติดประเภทสี่คูณร้อย ตำรวจสามารถจับผู้กระทำความผิดที่เป็นพนักงานขายยาที่ไม่ใช่เภสัชกร จำนวน 13 คน พร้อมยึดของกลางเป็นยาปลอม 572 ชิ้น ยาไม่มีทะเบียน จำนวน 212 ชิ้น ยาแก้ไอชนิดน้ำเชื่อม 24,722 ขวด ยาเขียวเหลือง (ทรามาดอล) 4,150 แคปซูล และยาควบคุมพิเศษ จำนวน 21 กล่อง มูลค่ารวมกว่า 1,400,000 บาท พ.ต.อ.สุพจน์ พุ่มแหยม ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เผยว่าจากการเข้าตรวจค้น 14 ร้าน มี 1 ร้านที่มีเภสัชกรและเปิดขายอย่างถูกต้อง ซึ่งร้านที่พบการกระทำความผิดส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ย่านรามคำแหง หัวหมาก และลาดพร้าว จากการเฝ้าตรวจสอบพบว่า มีกลุ่มวัยรุ่นเข้าใช้บริการเป็นอย่างมาก และมีการขายยาแก้ไอ และยาอื่น ๆ ที่ผิดวัตถุประสงค์ เพื่อนำไปผสมเป็นยาเสพติด จึงวางแผนเข้าตรวจค้นจับกุมในครั้งนี้ นอกจากนี้ ยังพบว่าทั้ง 13 คน เป็นคนของเครือข่ายเดียวกัน มีนายจ้างเป็นผู้ลงทุนทำร้านยา เพื่อทำโควต้าในการรับซื้อยาแก้ไอได้มากขึ้น และมีเจตนาเปิดร้านขายยาแสวงหากำไรผิดวัตถุประสงค์ และจรรยาบรรณของอาชีพเภสัชกร โดยในจำนวน 13 คนนี้ เป็นผู้ที่จบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 3 คน , ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 2 คน และชั้นปริญญาตรี จำนวน 8 คน ทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า รับจ้างเป็นพนักงานของร้านขายยาโดยปฏิบัติหน้าที่ในร้านขายยาเป็นประจำทุกวันแต่จะมีเภสัชกรเข้ามาดูแลเพียงสัปดาห์ละหนึ่งครั้งโดย บุคคลเหล่านี้ ได้รับค่าจ้างเฉลี่ยเดือนละ 12,000 - 18,000 บ. ในส่วนของยาปลอมที่พบ เภสัชกรวีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการ กรรมการอาหารและยา เผยว่า ยาปลอมที่พบสวมเลขทะเบียนยาที่ยกเลิกไปแล้ว ทำให้ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคเป็นอย่างมากที่อาจจะต้องรับความเสี่ยงจากการทานยาที่ไม่ได้คุณภาพ หรือมีส่วนผสมที่ไม่ถูกต้องเตรียมประสานตำรวจ ขยายผลไปถึงสถานที่ผลิต และยานำเข้าไม่ลงทะเบียนด้วย ตลอดไปจนถึงร้ายขายยาที่รับยาปลอมจากโรงงานไปขาย เภสัชกร ปรีชา พันธุ์ติเวช อุปนายกสภาเภสัชกรรมคนที่ 2 เผยว่า สำหรับผู้กระทำความผิดจะถูกแจ้งความดำเนินคดีทั้งหมดส่วนเภสัชกร จะถูกดำเนินคดี พร้อมกับลงโทษทางวินัยสั่งพักใช้ใบอนุญาต 2 ปี นอกจากนี้ยังมีอีกหลายจังหวัด ที่ยังต้องตรวจสอบ หากพบการกระทำความผิดในลักษณะนี้ก็จะดำเนินคดีโดยไม่ละเว้น พร้อมประชาสัมพันธ์ถึงประชาชนว่า หากต้องการตรวจสอบว่า ร้านขายยาว่ามีเภสัชกรขายยาให้ถูกต้องหรือไม่ สามารถดาวน์โหลด แอปพลิเคชัน "ร้านยาของฉัน" ประชาชนสามารถดูได้ว่า ร้านยาใดบ้างที่อยู่ใกล้ และแสดงใบหน้าของเภสัชกร เพื่อให้ตรวจสอบได้ว่าไม่ใช่พนักงานมาขายแทน สำหรับข้อหาของผู้กระทำความผิด พนักงานขายจะถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.วิชาชีพเภสัชกรรม พ.ศ.2537 เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมทำการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมหรือแสดงด้วยวิธีใด ๆ ให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีสิทธิประกอบวิชาชีพดังกล่าวโดยมิได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 30,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 ฐานไม่จัดทำบัญชียาที่ซื้อและขายตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ระหว่างโทษปรับ 2,000 - 10,000 บ. , ขายยาอันตรายในระหว่างที่เภสัชกรไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ระหว่างโทษปรับ 1,000 - 5,000 บาท , ขายยาที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ , และขายยาปลอมระวังโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 20 ปีหรือปรับตั้งแต่ 2,000 - 10,000 บาท ส่วนเภสัชกรรมหรือเจ้าของร้านจะความผิดฐานไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเวลาทำการรวมถึงไม่ควบคุมการขายยาควบคุมการส่งมอบยาอันตรายและควบคุมการทำบัญชีซื้อและขายยาตามที่กำหนดในกฎกระทรวงระวางโทษปรับตั้งแต่ 1,000 - 5,000 บาท และจะถูกลงโทษพักใบอนุญาต 2 ปี ทั้งนี้ ยังต้องเรียกมาสอบปากคำเพิ่มเติม หากมีส่วนรู้เห็นในการรับยาปลอมมาจำหน่าย ก็จะถูกดำเนินคดีเพิ่มเติม
วันนี้ (6 ก.พ.2568) เวลา 09.30 น.ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตลิ่งชัน นัดฟังคำพิพากษา ในคดีร