The Ferry Gallery หอศิลป์เรือข้ามฟากพลังงานแสงอาทิตย์ อยากให้ศิลปะอยู่ในชีวิตคนทั่วไป ไม่ใช่ต้องเดิน
ปภ.ส่งข้อมูลประชาชนเข้าเกณฑ์รับเงินช่วยน้ำท่วมแล้ว อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยยืนยัน ถึงการส่งข้อมูลครัวเรือนที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย และเข้าข่ายตามหลักเกณฑ์ได้รับความช่วยเหลือจำนวน 131,7
The Ferry Gallery หอศิลป์เรือข้ามฟากพลังงานแสงอาทิตย์ อยากให้ศิลปะอยู่ในชีวิตคนทั่วไป ไม่ใช่ต้องเดินเข้าแกลเลอรี่เท่านั้น เป็นที่มาของการเปิดหอศิลป์บนเรือข้ามฟาก ให้ผู้คนที่สัญจรไปมาค่อยๆ ซึมซับ The Ferry Gallery หอศิลป์เรือข้ามฟากพลังงานแสงอาทิตย์ เมื่อความบังเอิญพาเข้าหอศิลป์ ทำให้นักท่องเที่ยวจากเดนมาร์กได้ชมวิดีโออาร์ต ของศิลปินอิหร่าน เพลินๆ ระหว่างข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา แค่ช่วงสั้นๆ ไม่ถึง 10 นาทีจากฝั่งท่าเตียนไปยังวัดอรุณฯ ก็พอให้หนุ่มสาวเข้าใจความหมายของเสียงประกอบ และภาพบนจอที่สื่อสารด้วยสัญลักษณ์รูปมือและผ้า แทนการถูกควบคุมโดยผู้มีอำนาจ 1 ปีแล้วที่หอศิลป์เรือข้ามฟาก The Ferry Gallery รับส่งผู้คนพร้อมเผยแพร่ศิลปะร่วมสมัย เป็นความตั้งใจให้ศิลปะอยู่ในที่สาธารณะ เพื่อการเข้าถึงผู้คนได้มากกว่า โดยไม่จำเป็นต้องไปเดินหาในหอศิลป์ อยากเปิดหอศิลป์ของตัวเองตั้งแต่เรียนจบ คือฝันเป็นจริงของ กวิตา วัฒนะชยังกูร ศิลปินและผู้ก่อตั้ง The Ferry Gallery ด้วยปมในใจที่พบว่าหอศิลป์ทั่วไป มักมีผู้ชมแน่นขนัดแค่วันเปิดนิทรรศการ เกิดคำถามว่าจะทำอย่างไรให้หอศิลป์มีผู้ชมตลอดเวลา ประจวบเหมาะกับธุรกิจเรือข้ามฟากของครอบครัว ทำให้ กวิตา ตัดสินใจดัดแปลงเรืออายุ 50 ปี เป็นหอศิลป์พลังงานแสงอาทิตย์ที่จ่ายไฟไปยังจอภาพ ฉายวิดีโออาร์ตศิลปะที่เธอถนัด และแสดงงานอยู่ไม่ขาดที่ออสเตรเลีย ไม่เพียงทำให้ผู้โดยสารนับพันคนต่อวันที่สัญจรขึ้นเรือ ได้ซึมซับศิลปะแบบไม่บังคับ ยังหวังให้ศาสตร์วิดีโออาร์ตเป็นที่รู้จักของคนไทยมากขึ้น ก่อนเปิดโอกาสให้ศิลปินแขนงอื่นๆ ส่งผลงานมาแสดงในปีหน้า ไม่แสวงผลกำไร เพราะไม่ได้เน้นการขายศิลปะ แค่เก็บคนละ 3 บาทจากท่าเป็นค่าบริการเรือข้ามฟากตามปกติ ยิ่งยามค่ำคืน The ferry Galley เป็นอีกสีสันบนแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อไลท์บ็อกซ์ข้างลำเรือ ฉายผลงานให้เรือลำอื่นได้เห็นด้วย ซึ่งที่ผ่านมาหอศิลป์เรือข้ามฟากยังหมั่นร่วมโครงการศิลปะ กับหอศิลป์ใกล้เคียง และกำลราคาบอลไหลขึ้น คือังจะมีโครงการใหญ่ พาล่องเรือเปิดโลกศิลปะในที่สาธารณะเร็วๆ นี้
วันนี้ (5 ต.ค.2565) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คันดินกั้นระหว่างแม่น้ำป่าสัก ในพื้นที่บ้านปากคลองแดง ต.บ้านไร่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ อยู่ในสภาพขาด กว้างประมาณ 10 เมตร ทำให้น้ำจากแม่น้ำป่าสักไหลทะลักเข้าท่วม
