วันนี้ (25 มี.ค.2568) เวลาประมาณ 21.30 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลุกชี้แจงเป็นครั้งที่ 2
วันนี้ (3 ก.พ.2565) พล.ร.ท.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงกรณีกำลังพลกองทัพเรือชั้นยศ นาวาตรี ตั้งกล้องแอบถ่ายในห้องน้ำหญิง ภายในสำนักงาน โดยผู้เสียหายประกอบด้วยข้าราชการพนักงานลูกจ้างและนักเร
วันนี้ (3 ก.พ.2565) พล.ร.ท.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงกรณีกำลังพลกองทัพเรือชั้นยศ นาวาตรี ตั้งกล้องแอบถ่ายในห้องน้ำหญิง ภายในสำนักงาน โดยผู้เสียหายประกอบด้วยข้าราชการพนักงานลูกจ้างและนักเรียนฝึกงาน โดยผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรพลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี แล้ว โฆษกกองทัพเรือ ระบุว่า มีผู้พบกล้อง 2 ตัวติดตั้งอยู่บนฝ้าเพดานห้องน้ำ ในสำนักงานของหน่วยงานราชการในสังกัดกองทัพเรือ ขณะทำการซ่อมแซมระบบสายไฟ ซึ่งเมื่อตรวจสอบจึงพบว่ามีการซ่อนกล้องต่อเข้ากับระบบคอมพิวเตอร์ของว่าที่ น.ต.เกียรติกร มั่งคั่ง สังกัดแผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ซึ่งการตรวจสอบข้อมูลภายในคอมพิวเตอร์พบหลักฐานคลิปวีดีโอของผู้เสียหายขณะทำภารกิจส่วนตัวซึ่งถูกบันทึกไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2558 ทั้งนี้ หน่วยงานต้นสังกัดของ ว่าที่ น.ต.เกียรติกร ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยได้ทำการกักควบคุมตัวไว้เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ไปข่มขู่ผู้เสียหายและมิให้ไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ระหว่างสอบสวน ซึ่งผลการสอบสสมัคร สวี ท โบ นั น ซ่าวนเบี้องต้นพบว่า ว่าที่ นาวาตรี เกียรติกร กระทำความผิดจริง คณะกรรมการฯ เห็นว่า การกระทำของว่าที่ น.ต.เกียรติกร เป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยวินัยทหาร พ.ศ. 2476 และเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้เสียหายจำนวนมากและสร้างความเสื่อมเสียต่อกองทัพเรือ กองทัพเรือ จึงได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดทางวินัยร้ายแรง เพื่อพิจารณาตามกฏหมายตลอดจนข้อบังคับและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยปัจจุบันอยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาโทษความผิดทางวินัยร้ายแรง ซึ่งคาดว่าจะทราบผลการสอบสวนของคณะกรรมการโดยเร็ว โฆษกกองทัพเรือ กล่าวต่อไปว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ ระบุว่า ผมขอประนามการประพฤติตัวดังกล่าว และจะดำเนินการลงโทษให้ถึงที่สุด เพื่อรักษาเกียรติของพวกเราทหารเรือให้คงอยู่และเป็นที่เชื่อมั่นของประชาชนต่อไป
จากเหตุการณ์ยิงภายในห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ด้วยฝีมือเยาวชน 14 ปี แม้เรื่องราวจะผ่านมาเกือบสัปดาห์ แต่ก็ยังคงเป็นที่ถกเถียง สังคมต่าง พลิกตะแคงทุกมุมของเรื่องนี้ว่า ไม่ว่าจะเป็น “ปืน”อาวุธก่อเหตุ หร
