วันนี้ (4 พ.ย.2564) สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคกล

นายกฯเตรียมเสนอ ครม.เพิ่มงบเยียวยาน้ำท่วม นายกรัฐมนตรีเรียกประชุมสรุปสถานการณ์และแผนการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ ( 4 ก.ย.) หลังประชุมบูรณาการแนวทางป้องกันและแก้ไขเมื่อช่วงเช้า พบอุ
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) เปิดเผยข้อมูลว่า นักวิจัยสังกัดภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นำโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธนวัฒน์ เชาวสกู และนักศึกษ
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) เปิดเผยข้อมูลว่า นักวิจัยสังกัดภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นำโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธนวัฒน์ เชาวสกู และนักศึกษาระดับปริญญาเอก ได้แก่ น.ส.ฉัตรธิดา วิยา (สาขาวิชาชีววิทยา) และ น.ส.อานิสรา ดำทองดี (สาขาวิชาความหลากหลายทางชีวภาพและชีววิทยาชาติพันธุ์) พร้อมทั้งนายกิติศักดิ์ อ๋องย่อง และนายอับดุลรอแม บากา นักวิจัยอิสระ โดยได้ร่วมกันศึกษาตัวอย่างพืชจาก อ.จะแนะ และ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส โดยบูรณาการข้อมูลสัณฐานวิทยาและวิวัฒนาการชาติพันธุ์เชิงโมเลกุลเข้าด้วยกัน พบว่าเป็นพืชชนิดใหม่ของโลกในวงศ์กระดังงา (Annonaceae) จำนวน 1 ชนิด คือ "เหลืองปิยะรัตน์" ภาพ : สกสว. ภาพ : สกสว. "เหลืองปิยะรัตน์" มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Phaeanthuspiyae Wiya, Aongyong & Chaowasku โดยตั้งชื่อเป็นเกียรติแก่ ดร.ปิยะ เฉลิมกลิ่น นักวิจัยอาวุโส ผู้ริเริ่มการศึกษาพืชวงศ์กระดังงาในประเทศไทย และได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติ Taiwania ปีที่ 66 ฉบับที่ 4 หน้าที่ 509-516 พ.ศ. 2564 ภาพ : สกสว. ภาพ : สกสว. สำหรับงานวิจัยนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิจัย อนุกรมวิธานและวิวัฒนาการชาติพันธุ์ของพรรณไม้วงศ์กระดังงาในประเทศไทยที่หายากและยังไม่เป็นที่รู้จัก เพื่อการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน ภายใต้การสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) กองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม "เหลืองปิยะรัตน์" มีลักษณะเด่น คือ เป็นไม้ต้นขนาดเล็ก สูงประมาณ 3 เมตร มีก้านดอกยาว กลีบดอกชั้นนอกมีขนาดเล็กคล้ายกลีบเลี้ยง กลีบดอกชั้นในเมื่อเจริญเต็มที่จะมีสีเหลืองเข้ม ที่โคนกลีบมีสีม่วงอมน้ำตาล ดอกมีกลิ่นหอม ผลเป็นผลกลุ่ม ผลย่อยมีเมล็ดเดียว เมื่อสุกสีแดงสด ภาพ : สกสว. ภาพ : สกสว. จากการสำรวจพบเหลืองปิยะรัตน์เพียงไม่กี่ต้นในหย่อมป่าดิบชื้นที่ถูกรบกวน ซึ่งรายล้อมไปด้วยสวนยางและสวนผลไม้ สุ่มเสี่ยงที่จะถูกแผ้วถางจนสูญพันธุ์ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องช่วยกันอนุรักษ์ไว้ ก่อนที่จะไม่เหลือให้ชนรุ่นหลังได้ชื่นชมและศึกษา นอกจากเหลืองปิยะรัตน์แล้ว ในประเทศไทยยังพบพืชสกุล Phaeanthus อีก 1 ชนิด คือ หัวลิง ซึ่งมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Phaeanthus lucidus Oliv. โดยพบที่ จ.นราธิวาส และยะลา ภาพ : สกสว. ภาพ : สกสว. ufac4"เหลืองปิยะรัตน์" มีศักยภาพในการพัฒนาเป็นไม้ดอกไม้ประดับได้ เนื่องจากมีดอกที่สวยงามและมีกลิ่นหอม นอกจากนี้พบว่าผู้คนในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ใช้พืชสกุล Phaeanthus ชนิดอื่น ๆ เป็นพืชสมุนไพรรักษาโรคตา ดังนั้นอาจพัฒนาเหลืองปิยะรัตน์เป็นพืชสมุนไพรได้เช่นเดียวกัน ซึ่งจะต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมทางด้านเภสัชเวทและเภสัชวิทยาต่อไป ข่าวที่เกี่ยวข้อง "นานแค่ไหน" ที่เราจะรู้ว่า "พืช" ที่ค้นพบ เป็นครั้งแรกของโลก
วันที่ 18 เม.ย.2564 นายบรรณรักษ์ เสริมทอง ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 (สบอ.4) เปิดเผย
รื้อระบบรัฐไทย ทบทวนกลไกดูแลผู้ลี้ภัยให้เป็นระบบ เสียงระเบิดและลูกกระสุนดังขึ้นในหมู่บ้านของซอว์ เนอ
เมื่อเช้าวันนี้ (1 เม.ย.2567) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กกต.เปิดศูนย์ปฏิบัติงานคณะกรร
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) เปิดเผยข้อมูลว่า นักวิจัยสังกัดภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นำโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธนวัฒน์ เชาวสกู และนักศึกษาระดับปริญญาเอก ได้แก่ น.ส.ฉัตรธิดา วิยา (สาขาวิชาชีววิทยา) และ น.ส.อานิสรา ดำทองดี (สาขาวิชาความหลากหลายทางชีวภาพและชีววิทยาชาติพันธุ์) พร้อมทั้งนายกิติศักดิ์ อ๋องย่อง และนายอับดุลรอแม บากา นักวิจัยอิสระ โดยได้ร่วมกันศึกษาตัวอย่างพืชจาก อ.จะแนะ และ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส โดยบูรณาการข้อมูลสัณฐานวิทยาและวิวัฒนาการชาติพันธุ์เชิงโมเลกุลเข้าด้วยกัน พบว่าเป็นพืชชนิดใหม่ของโลกในวงศ์กระดังงา (Annonaceae) จำนวน 1 ชนิด คือ "เหลืองปิยะรัตน์" ภาพ : สกสว. ภาพ : สกสว. "เหลืองปิยะรัตน์" มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Phaeanthuspiyae Wiya, Aongyong & Chaowasku โดยตั้งชื่อเป็นเกียรติแก่ ดร.ปิยะ เฉลิมกลิ่น นักวิจัยอาวุโส ผู้ริเริ่มการศึกษาพืชวงศ์กระดังงาในประเทศไทย และได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติ Taiwania ปีที่ 66 ฉบับที่ 4 หน้าที่ 509-516 พ.ศ. 2564 ภาพ : สกสว. ภาพ : สกสว. สำหรับงานวิจัยนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิจัย อนุกรมวิธานและวิวัฒนาการชาติพันธุ์ของพรรณไม้วงศ์กระดังงาในประเทศไทยที่หายากและยังไม่เป็นที่รู้จัก เพื่อการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน ภายใต้การสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) กองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม "เหลืองปิยะรัตน์" มีลักษณะเด่น คือ เป็นไม้ต้นขนาดเล็ก สูงประมาณ 3 เมตร มีก้านดอกยาว กลีบดอกชั้นนอกมีขนาดเล็กคล้ายกลีบเลี้ยง กลีบดอกชั้นในเมื่อเจริญเต็มที่จะมีสีเหลืองเข้ม ที่โคนกลีบมีสีม่วงอมน้ำตาล ดอกมีกลิ่นหอม ผลเป็นผลกลุ่ม ผลย่อยมีเมล็ดเดียว เมื่อสุกสีแดงสด ภาพ : สกสว. ภาพ : สกสว. จากการสำรวจพบเหลืองปิยะรัตน์เพียงไม่กี่ต้นในหย่อมป่าดิบชื้นที่ถูกรบกวน ซึ่งรายล้อมไปด้วยสวนยางและสวนผลไม้ สุ่มเสี่ยงที่จะถูกแผ้วถางจนสูญพันธุ์ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องช่วยกันอนุรักษ์ไว้ ก่อนที่จะไม่เหลือให้ชนรุ่นหลังได้ชื่นชมและศึกษา นอกจากเหลืองปิยะรัตน์แล้ว ในประเทศไทยยังพบพืชสกุล Phaeanthus อีก 1 ชนิด คือ หัวลิง ซึ่งมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Phaeanthus lucidus Oliv. โดยพบที่ จ.นราธิวาส และยะลา ภาพ : สกสว. ภาพ : สกสว. ufac4"เหลืองปิยะรัตน์" มีศักยภาพในการพัฒนาเป็นไม้ดอกไม้ประดับได้ เนื่องจากมีดอกที่สวยงามและมีกลิ่นหอม นอกจากนี้พบว่าผู้คนในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ใช้พืชสกุล Phaeanthus ชนิดอื่น ๆ เป็นพืชสมุนไพรรักษาโรคตา ดังนั้นอาจพัฒนาเหลืองปิยะรัตน์เป็นพืชสมุนไพรได้เช่นเดียวกัน ซึ่งจะต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมทางด้านเภสัชเวทและเภสัชวิทยาต่อไป ข่าวที่เกี่ยวข้อง "นานแค่ไหน" ที่เราจะรู้ว่า "พืช" ที่ค้นพบ เป็นครั้งแรกของโลก
การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนค่อนข้างมาก ตามที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทย วิเคราะห์สถา