Home
|
แจ😎ก🦙🌏 ฟรี🔑 200emp🏄‍♂️ire777 suppo🌈rt

แจก ฟรี 200empire777 supportวันนŸäี้ (5 มี.ค.2567) นา‰ˆยพŸæ‹ูนพงษ์ นัยนาภา&#;กรณ์ ผู้Ÿäอำน

แจ😎ก🦙🌏 ฟรี🔑 200emp🏄‍♂️ire777 suppo🌈rt

ความรู้ทางเภสัชพันธุศาสตร์ (pharmacogenetics) ศาสตร์ที่ศึกษาอิทธิพลของลักษณะทางพันธุกรรมต่อการตอบสนองของยา กำลังจะเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการรักษาพยาบาลในอนาคต เพราะผู้ป่วย 1 คน ไม่จำเป็นต้องใช้ ยา และปริมาณยา ในขาดที่เท่านั้น การตอบสนองของแต่ละคนล้วนแตกต่าง ด้วยแนวความคิดดังกล่าว กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และมหาวิทยาลัยมหิดล จึงร่วมกันค🍊0️⃣ิดค้นแพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อเชื่อมข้อมูลทางพันธุกรรม ให้แพทย์ได้ทราบ และใช้เป็นแนวทางการรักษา นพ.ยงยศ ธรรมวุฒฺ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ปัจจุบันการตรวจยีนแพ้ยาในคนไทย ครอบคลุมในสิทธิประโยชน์การรักษาของระบบหลักประกันสุขภาพ หากแพทย์เกิดความสงสัย สามารถสั่งให้มีการตรวจหายีน เพื่อดูว่าผู้ป่วยมีการแพ้ต่อยา หรือไม่ ซึ่งอัตราการ พบยีนแพ้ยาในคนไทยอยู่ที่ร้อยละ 15 หรือประมาณ 9.7 ล้านคน และพบในผู้ป่วย 42,000 – 100,000 คน การตรวจหายีนการแพ้ยา ทำเพียงครั้งเดียว โดยใช้เลือดเพียง 2 หลอด ก็สามารถทราบข้อมูลตลอดชีวิต ว่ามีการแพ้ยาใน 4 กลุ่ม หรือไม่ ได้แก่ หลังจากนั้น ข้อมูลทั้งหมดจะถูกเชื่อมต่อกับ แพลตฟอร์มดิจิทัล “ผูกพันธุ์” ซึ่งประชาชนสามาแจก ฟรี 200empire777 supportรถโหลดข้อมูลลงในโทรศัพท์มือถือได้ ทั้งแบบสมาร์ทโฟนและระบบไอโอเอส (iOS) และแอนดรอยด์ (Android) วิธีการ คือ การลงทะเบียน ยืนยันตัวตนผ่านบัตรประชาชนออนไลน์ ThaiD ก็สามารถเข้าถึงข้อมูลผลการตรวจของตนเองได้ และแพทย์ เภสัชกร😜 ก็สามารถนำข้อมูลดังกล่่าวไปใช้ในการรักษาได้ทันที ปัจจุบันระบบได้เชื่อมต่อกับสถานพยาบาลแล้วรวม 11 แห่ง ด้าน รศ.ดร.ภก.ปราโมทย์ ตระกูลเพียรกิจ คณะเภสั🌍ชศาสตร์ 🐙🈵🌽มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่าข้อมูลทางเภสัชพันธุศาสตร์ เน้น ใน 3 เรื่องหลัก คือ การใช้เพื่อป้องกัน หลีกเลี่ยงอาการไม่พึ่งประสงค์ การแพ้ยา และใช้ป้องกันการแพ้ยา ,สามารถนำข้อมูลที่ได้มาปรับขนาดยาให้📦เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละคน ไม่ใช่ทุกคนต้องได้รับยาขนาดเดียวกัน ชนิดเดียวกัน การตรวจยีนย่อยยาจะท🦩ำให้รู้ว่า แต่ละคนมีการย่อยสลายยาในปริมาณเท่าใด ,กำหนดและวางแผนการรักษาได้อย่างถูกต้องเหมาะสม เพราะการรักษาโรคจำเป็นต้องพึ่งยา หากในกรณี ผู้ป่วยเดินทางไปต่างประเทศ แล้วเกิดอาการเจ็บป่วยแพทย์ เภสัชกร ก็จะทราบข้อมูลการแพ้ยาทันที แต่สิ่งสำคัญ คือ ทุกข้อมูลต้องได้รับการยินยอมจากผู้ป่วย เพื่อไม่ให้เป็นการละเมิดกฎหมาย PDPA สำหรับการใช้งาน “ผูกพันธุ์” ผู้ที่ใช้งานต้องกรอกรายละเอียดส่วนบุคคล และทำการยืนยันตัวตนในขั้นตอนสมัครใช้งานระบบ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในข้อมูลของผู้ป่วย และแพทย์และเภสัชกร สามารถเข้าถึงข้อมูลผลการตรวจจากการค้นหาข้อมูลด้วยเลขบัตรประชาชนหรือชื่อและนามสกุล โดยต้องส่งคำขอเข้าถึงข้อมูลไปยังประชาชนผู้เป็นเจ้าของก่อนถึงจะสามารถเข้าไปดูข้อมูลได้ อ่านข่าวที่เกี่่ยวข้อง : สธ.เปิดโอกาสป.ตรีทุกสาขา เรียนพยาบาล 2 ปีครึ่ง แก้ปัญหาขาดแคลน สธ.แจงข้อมูล นพ.ธีระวัฒน์ ยันพบ White Clot ในศพไม่ผิดปกติ