หลังจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ร่วมกับ

วันนี้ (4 พ.ค.2565) มีรายงานข่าวแจ้งว่า ทางคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ได้มอบอำนาจให้ พ.ต.ท. พชต วงศ์ประณุฑ รองผกก.สอบสวนสภ.รัตนาธิเบศร์ มาดำเนินคดีต่อนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาช
วันนี้ (29 ต.ค.2564) นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยกับไทยพีบีเอส ว่า ได้ลงนามไล่ออกราชการ ครู ผู้อำนวยการโรงเรียน ผู้บริหารสถานศึกษา 65 คน ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. จากก
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)จัดการประชุมนำเสนอผลการศึกษา “ภาระโรคและภาระโรคจากปัจจัยเสี่ยงของประชาชนไทย : ชี้เป้าปัญหา จับตาแนวโน้ม ระบุมาตรการสำคัญลดคนไทยป่วย พิการ และเสียชีวิต” ร่วมกับ แผนงานพัฒนาดัชนีภาระโรค (Burden of Disease: BOD) สำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ (IHPP) กระทรวงสาธารณสุข นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวงสาธารณสุข และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การประชุมผลการศึกษาภาระโรคและภาระโรคจากปัจจัยเสี่ยงของประชาชนไทย พ.ศ. 2562 เป็นเวทีสื่อสารข้อมูล แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ระหว่างนักวิชาการ นักวิจัย ผู้กำหนดนโยบาย เครือข่ายนักวิชาการด้านการศึกษาภาระโรค เพื่อนำผลการศึกษาไปพัฒนานโยบายสุขภาพในระดับพื้นที่และระดับนโยบาย พัฒนารูปแบบองค์กรประเมินภาระทางสุขภาพที่มีความยั่งยืน นายณัฐพันธุ์ ศุภกา รักษาการผู้อำนวยการสำนักวิชาการและนวัตกรรม สำนักงานกองทุนสนับสนสล็อต 88888M98bet you2ุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สนับสนุนแผนงานพัฒนาดัชนีภาระโรค (Burden of Disease: BOD) มาตั้งแต่ พ.ศ. 2554 ข้อมูลภาระโรค ถูกนำไปชี้สถานการณ์ความสำคัญปัญหาสุขภาพ และควบคุมป้องกันปัญหาสุขภาพของประเทศได้อย่างถูกต้อง ตรงตามหลักวิชาการ อีกทั้งเป็นข้อมูลสำคัญในการใช้ประเมินเทคโนโลยี และผลกระทบจากนโยบาย และมาตรการทางสุขภาพต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบัน สสส. มุ่งเน้นการขับเคลื่อนการพัฒนาดัชนีภาระโรคและภาระโรคจากปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ เพื่อสนับสนุนงานสร้างเสริมสุขภาพ ตาม 3 ยุทธศาสตร์ 1. การพัฒนาองค์ความรู้และศักยภาพนักวิจัยด้านการศึกษาภาระทางสุขภาพ 2. การพัฒนาและเชื่อมโยงเครือข่าย และ 3. การสื่อสารเพื่อนำไปสู่การใช้ประโยชน์และขับเคลื่อนเชิงนโยบาย ศ.เกียรติคุณ นพ.สุวัฒน์ จริยาเลิศศักดิ์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และประธานกรรมการกำกับทิศแผนงานพัฒนาดัชนีภาระโรคแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ไทยเป็นประเทศเดียวในอาเซียน ที่มีผู้เชี่ยวชาญสนใจในการทำผลการศึกษาภาระโรคและภาระโรคจากปัจจัยเสี่ยงของประชากร การนำเครื่องมือวัดปีสุขภาวะที่สูญเสียไปจากการเจ็บป่วยและการบาดเจ็บของประชากร (Disability – adjusted Life Years : DALY) มาใช้ในการวัดสถานะสุขภาพของประชากรไทยแบบองค์รวม จะมีประโยชน์อย่างมากต่อการกำหนดทิศทางของนโยบายด้านสุขภาพของประเทศ เพราะมีความครอบคลุมถึงการมีชีวิตอยู่อย่างบกพร่องหรือพิการ และการสูญเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ทำให้สามารถเปรียบเทียบขนาดของปัญหาสุขภาพ ที่มีความสำคัญของประชากรได้ในหน่วยเดียวกัน และยังคาดประมาณมูลค่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจจากการตายและความพิการได้อีกด้วย ทพญ.กนิษฐา บุญธรรมเจริญ หัวหน้าคณะทำงานศึกษาภาระโรคจากปัจจัยเสี่ยงของประชากรไทย พ.ศ. 2562 กล่าวว่า 10 ปีที่ผ่านมา คนไทยมีแนวโน้มอายุเพิ่มขึ้น เพศชายจาก 70.5 ปี เป็น 71.7 ปี เพศหญิงจาก 77.3 เป็น 79.4 ปี ส่วน 3 อันดับแรกที่ทำให้คนไทยสูญเสียปีสุขภาวะ คือ อุบัติเหตุทางท้องถนน เบาหวาน โรคหลอดเลือดสมอง คิดเป็น 20% ของการสูญเสียทั้งหมด ปัจจุบันกลุ่มโรคที่เป็นสาเหตุหลักการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรและอยู่อย่างทุพพลภาพ มากกว่า 60% ยังคงเป็นกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ปัจจัยเสี่ยงคนไทยตายก่อนวัยอันควร อันดับ 1 บุหรี่ เกิดจากการสูบบุหรี่/ยาสูบ และการได้ควันบุหรี่มือสอง อันดับ 2 ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง อันดับ 3 ระดับความดันโลหิตสูง เกิดโรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวาน กลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) อันดับ 4 การดื่มแอลกอฮอล์ เชื่อมโยงกับอุบัติเหตุทางถนนจากการดื่มแอลกอฮอล์ ที่จัดเป็นการสูญเสียอันดับ 1 ในเพศชาย อันดับ 5 การบริโภคอาหารที่ไม่เพียงพอหรือไม่เหมาะสม หากสามารถลดปัจจัยเสี่ยงทั้ง 5 อันดับแรกลงได้ จะช่วยลดการสูญเสียจากการตายก่อนวัยอันควร และการอยู่อย่างทุพพลภาพที่เป็นภาระของคนไทยทั้งประเทศต้องแบกรับได้ถึง 8-18 % ของการสูญเสียทั้งหมด โดยภาครัฐ ภาคเอกชน ต้องร่วมกันวางแนวทางมาตรการต่าง ๆ เพื่อลดการสูญเสียปีสุขภาวะ คือ ปีที่มีสุขภาพดีของคนไทย
วันนี้ (11 พ.ค.2568) ในการเป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และ นายกเทศมนตรี ทั่วประเทศใน 76 จังหวัด จ
วันนี้ (3 พ.ค.2566) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมด้วยแกน
วันนี้ (3 พ.ค.2565) นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายนภ
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)จัดการประชุมนำเสนอผลการศึกษา “ภาระโรคและภาระโรคจากปัจจัยเสี่ยงของประชาชนไทย : ชี้เป้าปัญหา จับตาแนวโน้ม ระบุมาตรการสำคัญลดคนไทยป่วย พิการ และเสียชีวิต” ร่วมกับ แผนงานพัฒนาดัชนีภาระโรค (Burden of Disease: BOD) สำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ (IHPP) กระทรวงสาธารณสุข นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวงสาธารณสุข และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การประชุมผลการศึกษาภาระโรคและภาระโรคจากปัจจัยเสี่ยงของประชาชนไทย พ.ศ. 2562 เป็นเวทีสื่อสารข้อมูล แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ระหว่างนักวิชาการ นักวิจัย ผู้กำหนดนโยบาย เครือข่ายนักวิชาการด้านการศึกษาภาระโรค เพื่อนำผลการศึกษาไปพัฒนานโยบายสุขภาพในระดับพื้นที่และระดับนโยบาย พัฒนารูปแบบองค์กรประเมินภาระทางสุขภาพที่มีความยั่งยืน นายณัฐพันธุ์ ศุภกา รักษาการผู้อำนวยการสำนักวิชาการและนวัตกรรม สำนักงานกองทุนสนับสนสล็อต 88888M98bet you2ุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สนับสนุนแผนงานพัฒนาดัชนีภาระโรค (Burden of Disease: BOD) มาตั้งแต่ พ.ศ. 2554 ข้อมูลภาระโรค ถูกนำไปชี้สถานการณ์ความสำคัญปัญหาสุขภาพ และควบคุมป้องกันปัญหาสุขภาพของประเทศได้อย่างถูกต้อง ตรงตามหลักวิชาการ อีกทั้งเป็นข้อมูลสำคัญในการใช้ประเมินเทคโนโลยี และผลกระทบจากนโยบาย และมาตรการทางสุขภาพต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบัน สสส. มุ่งเน้นการขับเคลื่อนการพัฒนาดัชนีภาระโรคและภาระโรคจากปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ เพื่อสนับสนุนงานสร้างเสริมสุขภาพ ตาม 3 ยุทธศาสตร์ 1. การพัฒนาองค์ความรู้และศักยภาพนักวิจัยด้านการศึกษาภาระทางสุขภาพ 2. การพัฒนาและเชื่อมโยงเครือข่าย และ 3. การสื่อสารเพื่อนำไปสู่การใช้ประโยชน์และขับเคลื่อนเชิงนโยบาย ศ.เกียรติคุณ นพ.สุวัฒน์ จริยาเลิศศักดิ์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และประธานกรรมการกำกับทิศแผนงานพัฒนาดัชนีภาระโรคแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ไทยเป็นประเทศเดียวในอาเซียน ที่มีผู้เชี่ยวชาญสนใจในการทำผลการศึกษาภาระโรคและภาระโรคจากปัจจัยเสี่ยงของประชากร การนำเครื่องมือวัดปีสุขภาวะที่สูญเสียไปจากการเจ็บป่วยและการบาดเจ็บของประชากร (Disability – adjusted Life Years : DALY) มาใช้ในการวัดสถานะสุขภาพของประชากรไทยแบบองค์รวม จะมีประโยชน์อย่างมากต่อการกำหนดทิศทางของนโยบายด้านสุขภาพของประเทศ เพราะมีความครอบคลุมถึงการมีชีวิตอยู่อย่างบกพร่องหรือพิการ และการสูญเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ทำให้สามารถเปรียบเทียบขนาดของปัญหาสุขภาพ ที่มีความสำคัญของประชากรได้ในหน่วยเดียวกัน และยังคาดประมาณมูลค่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจจากการตายและความพิการได้อีกด้วย ทพญ.กนิษฐา บุญธรรมเจริญ หัวหน้าคณะทำงานศึกษาภาระโรคจากปัจจัยเสี่ยงของประชากรไทย พ.ศ. 2562 กล่าวว่า 10 ปีที่ผ่านมา คนไทยมีแนวโน้มอายุเพิ่มขึ้น เพศชายจาก 70.5 ปี เป็น 71.7 ปี เพศหญิงจาก 77.3 เป็น 79.4 ปี ส่วน 3 อันดับแรกที่ทำให้คนไทยสูญเสียปีสุขภาวะ คือ อุบัติเหตุทางท้องถนน เบาหวาน โรคหลอดเลือดสมอง คิดเป็น 20% ของการสูญเสียทั้งหมด ปัจจุบันกลุ่มโรคที่เป็นสาเหตุหลักการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรและอยู่อย่างทุพพลภาพ มากกว่า 60% ยังคงเป็นกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ปัจจัยเสี่ยงคนไทยตายก่อนวัยอันควร อันดับ 1 บุหรี่ เกิดจากการสูบบุหรี่/ยาสูบ และการได้ควันบุหรี่มือสอง อันดับ 2 ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง อันดับ 3 ระดับความดันโลหิตสูง เกิดโรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวาน กลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) อันดับ 4 การดื่มแอลกอฮอล์ เชื่อมโยงกับอุบัติเหตุทางถนนจากการดื่มแอลกอฮอล์ ที่จัดเป็นการสูญเสียอันดับ 1 ในเพศชาย อันดับ 5 การบริโภคอาหารที่ไม่เพียงพอหรือไม่เหมาะสม หากสามารถลดปัจจัยเสี่ยงทั้ง 5 อันดับแรกลงได้ จะช่วยลดการสูญเสียจากการตายก่อนวัยอันควร และการอยู่อย่างทุพพลภาพที่เป็นภาระของคนไทยทั้งประเทศต้องแบกรับได้ถึง 8-18 % ของการสูญเสียทั้งหมด โดยภาครัฐ ภาคเอกชน ต้องร่วมกันวางแนวทางมาตรการต่าง ๆ เพื่อลดการสูญเสียปีสุขภาวะ คือ ปีที่มีสุขภาพดีของคนไทย
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)จัดการประชุมนำเสนอผลการศึกษา “ภาระโรคและภาระโรคจากปั