Home
|
เอเชี›ç”ˆยนค&#;ัพŒ2019รอบสุดท้าย

เอเชียนคัพ2019รอบสุดท้ายวั🌊นที่ 🌵25 ก.ค😇.2565 นายวิศักดิ🌏์ วัฒ🦸‍♀️นศัพท์ ผอ.สำนักง🎢

เอเชี›ç”ˆยนค&#;ัพŒ2019รอบสุดท้าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมา กรุงเทพมหานคร นำเทคโนโลยีระบบ AI มาใช้ติดตั้งบนทางเท้า เพื่อจับรถจักรยานยนต์ ที่ขับขี่บนทางเท้า ระหว่างวันที่ 12- 20 มิ.ย.2566 โดยติดตั้งไว้จำนวน 5 จุดนำร่อง ได้แก่ จุดที่ 1 ปากซอยรัชดาภิเษก 36 (ซอยเสือใหญ่อุทิศ) จุด 2 โรงเรียนนิเวศน์วารินทร์ จุด 3 ปากซอยเพชรเกษม 28 จุด 4 ปั๊มน้ำมัน ปตท. เทพารักษ์ และ จุด 5 ปากซอยเพชรบุรี 9 ซึ่งวันนี้ (21 มิ.ย.2566) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชŒการกรุงเทพมหานคร พร้อมผู้บริหาร กทม. เปิดเผยภาพรวม พบจำนวนรถจักรยานยนต์ที่ทำผิดมีกว่า 4,000 คัน ในจำนวนนี้ เป็นรถของประชาชนทั่วไปมากที่สุดŒ 1,884 คัน ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยจุดที่พบการทำผิดมากที่สุด ทางผู้บริหาร กทม. ระบุว่า อยู่ที่ ทางเท้าปากซอยรัชดาภิเษก 36 หรือ ซอยเสือใหญ่อุทิศจำนวน 2,921 คัน จากจำนวน 5 จุดที่ กทม. นำกล้อง AI ไปติดตั้ง นอกจากนี้ ยังพบ กลุ่มวินมอเตอร์ไซค์ ทำผิด 592 คัน กลุ่ม ไรเดอร์ 309 คัน และกลุ่มอื่นๆ ซึ่ง กทม. จะขยายเพิ่มอีก 100 จุด ในการติดตั้ง AI ให้ครอบคลุมภายใน 1-2 เดือนนี้ ทั่วกรุงเทพ เทคโนโลยีระบบ AI มาใช้ติดตั้งบนทางเท้า เทคโนโลยีระบบ AI มาใช้ติดตั้งบนทางเท้า สำหรับจ่ายค่าปรับ การขับขี่จากการตรวจจับของกล้อง AI หลังจากเทศกิจรวบรวมข้อมูลแล้ว จะทำหนังสือส่งไปให้กับเจ้าของรถตามทะเบียนบ้าน ที่เชื่อมข้อมูลไว้กับกรมขนส่งทางบกเพื่อแจ้งให้จ่ายค่าปรับ ภายใน 15 วัน ในอัตรา 2,000 บาท ถ้ายังไม่มา ก็จะส่งหนังสือแจ้งเตือน ครั้งที่ 2 ส่วนเงินที่ได้จากการตรวจจับกล้อง AI นำรายได้เข้า กทม. ผู้ว่าฯ กทม. ย้ำไม่อยากให้ทำผิดกฎ แต่จะดูสภาพโครงสร้างถนนด้วยว่า มาจากความผิดพลาดการออกแบบ หรือ อุปสรรคใด ที่ทำให้คนขับบนทางเท้า แต่อุปสรรคกีดขวางของถนน ไม่ใช่ข้ออ้าง ที่จะมาทำผิดกฎหมาย หรือ ขี่บนทางเท้า "เรื่องนี้เป็นปัญหาที่ประชาชนร้องเรียนมาเยอะ และเป็นปัญหาที่ต่อเนื่องมานานคือเรื่องจักรยานยนต์ขับบนทางเท้า ที่ผ่าŽŸนมาเราใช้วิธีนำเจ้าหน้าที่เทศกิจไปยืนจับ ซึ่งถือว่าเปลืองกำลังคน และมีอีกหลายภารกิจอยู่แล้ว รวมถึงการใช้เจ้าหน้าที่ทำให้เกิดความกระทบขัดแย้งกับผู้ที่โดนจับและอาจมีปัญหาเรื่องความโปร่งใสในบางครั้ง ทาง กทม. จึงใช้เทคโนโลยีที่เป็นกล้อง AI มาจับทะเบียนรถ ติดตั้งบนทางเท้าและตีเส้นกรอบในจุดที่เรากำหนดไว้เมื่อมีรถ&#x;ผ่านมาบนทางเท้าก็จะจับภาพที่ป้ายเอเชียนคัพ2019รอบสุดท้ายทะเบียนรถบันทึกไว้และสามารถนำข้อมูลนี้มาดำเนินการปรับผู้ที่ทำผิดซึ่งเราเชื่อมโยงข้อมูลกับกรมการขนส่งทางบกจึงจะรู้ว่ารถมอเตอร์ไซค์คันนี้เป็นของใครอยู่ที่ไหนซึ่งอัตราปรับ 2,000 บาทต่อรายซึ่งสูงกว่า พ.ร.บ.จราจร" ผู้ว่าฯ กทม. กล่าว