UID: 87887

นิทรรศการหน้ากากเอเชีย ในเอเชียนั้น หน้ากากไม่เพียงถูกใช้ในพิธีกรรม และป็นอุปกรณ์ประกอบการแสดง แต่เร

ทั่วโลกผวาชิ้นส่วนดาวเทียมตกสู่โลก นาซ่าจับตาชิ้นส่วนดาวเทียมวิจัยอายุ 20 ปีที่จะตกสู่โลกในวันนี้ หล

ทั่วโลกผวาชิ้นส่วนดาวเทียมตกสู่โลก นาซ่าจับตาชิ้นส่วนดาวเทียมวิจัยอายุ 20 ปีที่จะตกสู่โลกในวันนี้ หลังถูกปลดประจำการมานานแล้ว ซึ่งคาดว่าชิ้นใหญ่ที่สุดน่าจะมีน้ำหนักประมาณ 140 กิโลกรัม และจะมีชิ้นส่วนขนาดใหญ่เพียง26 ชิ้นที่จะตกลงถึงพื้นโลก ขณะที่ข่าวนี้ทำให้ประชาชนทั่วโลกบางคนรู้สึกกังวลเกรงว่าชิ้นส่วนดาวเทียมจะตกใส่ ทั่วโลกผวาชิ้นส่วนดาวเทียมตกสู่โลก องค์การบริหารการบินและอวกาศสหรัฐ หรือนาซ่า คาดการณ์ว่า ชิ้นส่วนดาวเทียมสำรวจบรรยากาศชั้นสูง  หรือ ยูเออาร์เอส ซึ่งมีน้ำหนัก 6 ตัน น่าจะตกลงในพื้นที่แถบมหาสมุทรแปซิฟิกในช่วงบ่ายวันนี้โดยคาดว่าระหว่างที่ผ่านชั้นบรรยากาศของโลกดาวเทียมจะเผาไหม้ และแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยกว่า 100 ชิ้น สำหรับชิ้นส่วนที่ใหญ่ที่สุดน่าจะมีน้ำหนักประมาณ 140 กิโลกรัม และจะมีชิ้นส่วนขนาดใหญ่เพียง 26 ชิ้นที่จะตกลงถึงพื้นโลกระหว่างละติจูดที่ 57 องศาเหนือ และ ละติจูดที่ 57 องศาใต้ บริเวณที่มีประชากรอาศัยอยู่มากที่สุดในโลก โดยจะรู้แน่ชัดว่าจะตกลงในพื้นที่ใดในช่วงประมาณ 25 นาทีก่อนที่จะตกถึงพื้น หรือเมื่ออยู่ห่างจากพื้นโลกประมาณ 12,000 กิโลเมตร นาซ่าเชื่อว่ามีความเป็นไปได้มากที่สุดที่ชิ้นส่วนดาวเทียมจะตกในทะเล เพราะพื้นผิวโลกเกือบ 70% เป็นน้ำ และแม้จะตกบนพื้นดิน ก็มีโอกาสน้อยมากที่จะตกใส่คน แต่หากตกใส่คนจริงก็จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 50 ปีของยุคอวกาศ ขณะที่เว็บไซต์ฟอกซ์นิวส์ ได้เสนอช่องทางให้ผู้อ่าเกม เล่น ได้ เงิน จริง 1️แทง บอล ฟรี 300นได้ติดตามดาวเทียมดวงนี้ได้แบบเรียลไทม์ ส่วนสถานีโทรทัศน์เอบีซีได้จัดทำผลสำรวจพบว่า คนส่วนใหญ่เชื่อว่าชิ้นส่วนดาวเทียมจะตกในมหาสมุทรโดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ ดาวเทียมยูเออาร์เอสถูกปล่อยสู่อวกาศในปี 2534 เพื่อตรวจวัดชั้นโอโซน ลม และอุณหภูมิ และถูกปลดประจำการอย่างเป็นทางการในปี 2548 ถือเป็นยานอวกาศขนาดใหญ่สุดของนาซ่า ที่จะตกสู่โลกในรอบ 30 ปีหลังจากชิ้นส่วนของสถานีอวกาศสกายแล็บเคยตกลงในมหาสมุทรอินเดียเมื่อปี 2522 องค์การบริหารการบินและอวกาศสหรัฐ หรือนาซ่า คาดการณ์ว่า ชิ้นส่วนดาวเทียมสำรวจบรรยากาศชั้นสูง  หรือ ยูเออาร์เอส ซึ่งมีน้ำหนัก 6 ตัน น่าจะตกลงในพื้นที่แถบมหาสมุทรแปซิฟิกในช่วงบ่ายวันนี้โดยคาดว่าระหว่างที่ผ่านชั้นบรรยากาศของโลกดาวเทียมจะเผาไหม้ และแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยกว่า 100 ชิ้น สำหรับชิ้นส่วนที่ใหญ่ที่สุดน่าจะมีน้ำหนักประมาณ 140 กิโลกรัม และจะมีชิ้นส่วนขนาดใหญ่เพียง 26 ชิ้นที่จะตกลงถึงพื้นโลกระหว่างละติจูดที่ 57 องศาเหนือ และ ละติจูดที่ 57 องศาใต้ บริเวณที่มีประชากรอาศัยอยู่มากที่สุดในโลก โดยจะรู้แน่ชัดว่าจะตกลงในพื้นที่ใดในช่วงประมาณ 25 นาทีก่อนที่จะตกถึงพื้น หรือเมื่ออยู่ห่างจากพื้นโลกประมาณ 12,000 กิโลเมตร นาซ่าเชื่อว่ามีความเป็นไปได้มากที่สุดที่ชิ้นส่วนดาวเทียมจะตกในทะเล เพราะพื้นผิวโลกเกือบ 70% เป็นน้ำ และแม้จะตกบนพื้นดิน ก็มีโอกาสน้อยมากที่จะตกใส่คน แต่หากตกใส่คนจริงก็จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 50 ปีของยุคอวกาศ ขณะที่เว็บไซต์ฟอกซ์นิวส์ ได้เสนอช่องทางให้ผู้อ่านได้ติดตามดาวเทียมดวงนี้ได้แบบเรียลไทม์ ส่วนสถานีโทรทัศน์เอบีซีได้จัดทำผลสำรวจพบว่า คนส่วนใหญ่เชื่อว่าชิ้นส่วนดาวเทียมจะตกในมหาสมุทรโดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ ดาวเทียมยูเออาร์เอสถูกปล่อยสู่อวกาศในปี 2534 เพื่อตรวจวัดชั้นโอโซน ลม และอุณหภูมิ และถูกปลดประจำการอย่างเป็นทางการในปี 2548 ถือเป็นยานอวกาศขนาดใหญ่สุดของนาซ่า ที่จะตกสู่โลกในรอบ 30 ปีหลังจากชิ้นส่วนของสถานีอวกาศสกายแล็บเคยตกลงในมหาสมุทรอินเดียเมื่อปี 2522

วันนี้ (21 มิ.ย. 67) พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ ชี้แจงการอภิปรายงบประมาณเกี่ยวกับการศึกษา