เตือนภาคใต้เตรียมรับมือ นักวิชาการศึกษาด้านภัยพิบัติ และ ข้อเสนอเชิงพื้นที่ เตือนให้ประชาชนในพื้นที่

วันนี้ (25 ส.ค.2565) นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เปิดเผยว่า จากการที่กองทุนได้เปิดระบบการกู้ยืมในปีการศึกษา 2565 กองทุนได้เตรียมเงินงบประมาณให้กู้ยืมจำนวน 38,000

วันนี้ (18 ก.ค.25640) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 28) โดยมีรายละเอียดสำคัญดังนี้ ตˆามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.2563 และต่อมาได้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปอย่างต่อเนื่อง เป็นระยะนั้น โดยที่สถานการณ์ระบาดของโรคติด COVID-19 ที่มีการกลายพันธุ์เป็นหลายสายพันธุ์ ยังคงทวีความรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนเสี่ยงที่จะเกิดภาวะวิกฤติด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ กทม.-ปริมณฑล รัฐบาลโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ฝ่ายต่างๆ ได้ดำเนินการอย่างเข้มแข็งและจริงจัง ในการเพิ่มศักยภาพการตรวจคัดกรอง การรักษาพยาบาล และเร่งรัดการจัดฉีดวัคซีนให้กับประชาชน แต่เมื่อได้มีการประเมินสถานการณ์ ภายหลังมีผลใช้บังคับของข้อกำหนด (ฉบับที่ 27) ลงวันที่ 10 ก.ค.2564 ปรากฏว่า ยังไม่อาจชะลออัตราการเพิ่มจำนวนผู้ติดเชื้อ และจำนวนผู้ป่วยที่ต้องเฝ้าระวังอาการ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงที่เป็นผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และกลุ่มผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจในกทม.-ปริมณฑล และภูมิภาคหลายจังหวัดที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีแนวโน้มต่อเนื่อง ซึ่งมักเป็นการติดเชื้อจากการระบาดเป็นกลุ่มก้อนในครอบครัวและชุมชน ดังนั้น จึงจำเป็นต้องยกระดับความเข้มข้นของมาตรก,าร และการบังคับใช้อย่างจริงจังเพิ่มเติมขึ้น จากข้อกำหนดที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้า เพื่อเร่งแก้ไขและบรรเทาสถานการณ์ฉุกเฉิน ให้คลี่คลายลงโดยเร็วที่สุด อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 9 แห่งพ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ. 2548 และมาตรา 11 แห่งพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 นายกรัฐมนตรี จึงออกข้อกำหนดและข้อปฏิบัติแก่ส่วนราชการดังต่อไปนี้ ในข้อกําหนดฉบับนี้มุ่งหมาย เพื่อกําหนดมาตรการที่จําเป็นและต้องเร่งดําเนินการโดยด่วน เพื่อลดการออกนอกเคหสถานของประชาชน อันเป็นเหตุให้เกิดความเสี่ยงต่อการแพร่ของโรคติดเชื้อ COVID-19 โดยเฉพาะในพื้นที่ กทม.-ปริมณฑล และจังหวัดที่ได้กําหนดเป็นเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เนื่องจากมีจํานวน ผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น และโดยส่วนใหญ่เป็นการติดเชื้อโรคกลายพันธุ์สายพันธุ์เดลต้าที่แพร่ระบาด ได้อย่างรวดเร็วและส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชีวิตและสุขภาพ โดยเฉพาะบุคคลกลุ่มเสียงทั้งผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่แม้บุคคลเหล่านี้ส่วนใหญ่แล้วมักจะอยู่ประจําในที่พํานัก แต่ประวัติการสัมผัสเชื้อ มักเกิดขึ้นในครอบครัว โดยการติดต่อสัมผัสกับบุคคลที่ได้มีการเดินทาง ซึ่งจากข้อมูลพบว่า การติดเชื้อและแพร่ระบาดในครอบครัว และเขตชุมชนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีอัตราเพิ่มจํานวนขึ้นสูงมาก แม้จะได้มีการเร่งฉีดวัคซีน เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่แล้วก็ตาม แต่ย่อมต้องอาศัยระยะเวลาเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ที่ไม่อาจเกิดขึ้นโดยเร็ว สิ่งที่ต้องร่วมมือกันในเวลานี้ คือ ชะลออัตราการระบาดที่รุนแรงของโรค โดยต้องหยุดยั้งการกระทําใดๆ ก็ตาม ที่เป็นความเสี่ยงหรือเป็นเหตุให้เชื้อโรคแพร่ระบาดออกไป กำหนดปรับปรุงเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวดขึ้นใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ได้แก่ กทม.นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา ชลบุรี พระนครศรีอยุธยา และจังหวัดชายแดนใต้ ได้แก่ นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา โดยให้ ศบค.มีคำสั่งปรับปรุงเขตพื้นที่จังหวัดจำแนก ตามเขตพื้นที่สถานการณ์เสียใหม่ และให้นำมาตรการควบคุมแบบบูรณาก&#x;ารที่กำหนดไว้ สำหรับพื้นที่ สถานการณ์ระดับต่างๆ ข้อห้าม และข้อปฏิบัติตามข้อกำหนด (ฉบับที่ 24) ลงวันที่ 19 มิ.ย.2564 ข้อกำหนด (ฉบับที่ 25) ลงวันที่ 26 มิ.ย.2564 และข้อกำหนด (ฉบับที่ 27)ลงวันที่ 10 ก.ค.2564 มาใช้บังคับเท่าที่ที่ไม่ขัดหรือแย้งกับข้อกำหนดนี้ ให้ประชาชนในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวดที่ได้มีคําสั่งตามข้อ 2 เลี่ยง จํากัด หรืองดเว้นภารกิจที่ต้องเดินทางออกนอกเคหสถาน หรือที่พํานักโดยไม่จําเป็น สําหรับการเดินทางในบางกรณีที่จําเป็น เช่น การเดินทางเพื่อจัดหาเครื่องอุปโภคบริโภคที่จําเป็น ต่อการดํารงชีวิต อาหาร ยาหรือเวชภัณฑ์ การเดินทางเพื่อพบแพทย์ เพื่อเข้ารับบริการทางการแพทย์ และสาธารณสุข การรักษาพยาบาล การรับวัคซีนป้องกันโรค หรือมีความจําเป็นเพื่อปฏิบัติงาน หรือการประกอบอาชีพที่ไม่สามารถปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งได้ สามารถกระทําได้ แต่ต้องพึ่งใช้คå­¦åวามระมัดระวัง ในการป้องกันตนเองตามคําแนะนําของพนักงานเจ้าหน้าที่ และปฏิบัติตามมาตรการ ป้องกันโรคที่ทางราชการกําหนดอย่างเคร่งครัด ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ โดยการสนับสนุนของกทม. กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ดําเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนอาสาสมัครและจิตอาสา ในการให้ความช่วยเหลือและกระจายสิ่งอุปโภคบริโภคที่จําเป็นแก่ประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน กําหนดพื้นที่ห้ามออกนอกเคหสถานเพิ่มเติม เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ห้ามบุคคลใดในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ออกนอกเคหสถานในระหว่างเวลา 21.00-04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ต่อเนื่องเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน นับแต่วันที่ข้อกําหนดฉบับนี้ใช้บังคับ โดยให้เป็นไปตามเงื่อนไขการปฏิบัติของพนักงานเจ้าหน้าที่ และการกําหนดบุคคลที่ได้รับยกเว้น การห้ามออกนอกเคหสถานตามข้อกําหนด (ฉบับที่ 27) ลงวันที่ 10 ก.ค.2564 การกําหนดเงื่อนไขการใช้เส้นทางคมนาคม และการตรวจคัดกรองการเดินทาง เฉพาะเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เพื่อประโยชน์ในการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ให้พนักงานเจ้าหน้าที่โดยการสนับสนุนจากศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง กระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งจุดตรวจ ด่านตรวจ หรือจุดสกัด ในเส้นทางคมนาคมเข้าออกเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดตามข้อกําหนดนี้ โดยเน้นการปฏิบัติ เพื่อการคัดกรอง ชะลอหรือสกัดกั้นการเดินทางออกนอกเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดเพื่อเดินทางไปยังพื้นที่อื่น โดยให้เป็นไปตามแนวทางที่ศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) กําหนด เป็นระยะเวลาต่อเนื่องอย่างน้อย 14 วัน และให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติ ตามมาตรการ ข้อห้าม ข้อยกเว้น หรือแนวทางที่กําหนดไว้ในข้อกําหนด (ฉบับที่ 27) ลงวันที่ 10 ก.ค.2564 ข้อกําหนด (ฉบับที่ 25) ลงวันที่ 26 มิ.ย.2564 ทั้งนี้ ให้นํากรณีหรือบุคคลที่ได้รับยกเว้นตามข้อ 4 และข้อ 5 ของข้อกําหนด (ฉบับที่ 27) ลงวันที่ 10 ก.ค.2564 มาใช้โดยอนุโลม ให้กระทรวงคมนาคม กรุงเทพมหานคร จังหวัด หรือหน่วยงาน ที่รับผิดชอบกํากับดูแลการให้บริการขนส่งผู้โดยสารสาธารณะทุกประเภทในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และการขนส่งสาธารณะทุกประเภทระหว่างจังหวัดทั่วราชอาณาจักร ให้เป็นไปตามแนวทาง ที่ ศปก.ศบค. กําหนด โดยจํากัดจํานวนผู้โดยสารที่ใช้บริการไม่เกินร้อยละห้าสิบ ของความจุผู้โดยสาร สําหรับยานพาหนะแต่ละประเภท รวมทั้งจัดให้มีการเว้นระยะห่างและการปฏิบัติตามมาตรการ ด้านสาธารณสุขที่ทางราชการกําหนดอย่างเคร่งครัด โดยพิจารณาจัดการให้บริการขนส่งสาธารณะ ให้เพียงพอต่อความจําเป็นและตามเวลาที่เหมาะสมในการเดินทางของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การอํานวยความสะดวกการขนส่งประชาชนเพื่อรับบริการฉีดวัคซีนและบริการทางการแพทย์ ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหรือผู้ว่าราชการจังหวัด โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อ กรุงเทพมหานครหรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด แล้วแต่กรณี พิจารณาดําเนินการตามกฎหมาย ว่าด้วยโรคติดต่อ เพื่อมีคําสั่งปิดสถานที่หรือกิจการที่มีความเสี่ยง เพื่อประโยชน์ในการควบคุมและป้องกัน การแพร่ของโรคติดเชื้อโควิด-19 โดยให้ดําเนินการต่อเนื่องอย่างน้อยเป็นระยะเวลาสิบสี่วัน โดยสําหรับการให้บริการดังต่อไปนี้ ให้เปิดดําเนินการได้เฉพาะภายใต้เงื่อนไข เงื่อนเวลา การจัดระบบ ระเบียบ และมาตรการป้องกันโรคที่กําหนดที่เข้มงวดยิ่งขึ้นจากที่ได้เคยกําหนดไว้slotxo game 88สมัคร macau888แล้ว ร้านสะดวกซื้อ และตลาดสด ให้เปิดดําเนินการได้จนถึงเวลา 20.00 น. โดยจํากัดเวลา สําหรับร้านสะดวกซื้อ ซึ่งตามปกติเปิดให้บริการในช่วงเวลากลางคืน ให้ปิดให้บริการในระหว่างเวลา 20.00-04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น โรงเรียน สถาบันการศึกษาหรือฝึกอบรม และสถานศึกษาต่าง ๆ ให้ปฏิบัติตามมาตรการ ที่ได้ประกาศไว้แล้วก่อนหน้า การบังคับใช้มาตรการตามข้อกําหนด ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบและกํากับ การปฏิบัติตามมาตรการ ข้อห้าม และข้อปฏิบัติตามข้อกําหนดนี้เป็นระยะเวลาต่อเนื่องอย่างน้อย 14 วัน (เริ่มตั้งแต่ 20 ก.ค.-2 ส.ค.2564) โดยให้ประเมินสถานการณ์และความเหมาะสมของมาตรการ ตามข้อกําหนดนี้ทุกห้วงระยะเวลา 7 วัน แต่การเตรียมการด้านบุคลากร สถานที่ และการประชาสัมพันธ์ เพื่อแจ้งเตือนให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมเป็นการล่วงหน้าให้ทําได้ตลอดเวลา อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ราชกิจจาฯ ออกประกาศเพิ่ม "ชลบุรี-ฉะเชิงเทรา-อยุธยา" พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด น่าห่วง! ยอดติดโควิดรายวัน 11,079 คนเสียชีวิตเพิ่ม 101 คน

วันนี้ (18 ก.ค.25640) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 28) โดยมีรายละเอียดสำคัญดังนี้ ตามที่ได้มีประกาศสถา