UID: 59946

วันนี้ (20 ก.ย.2567) กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

วันนี้ (14 ต.ค.2564) เกิดเหตุดินทรายสไลด์ทับถมคนงานวางท่อประปา ที่หน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง บนถนนก

วันนี้ (14 ต.ค.2564) เกิดเหตุดินทรายสไลด์ทับถมคนงานวางท่อประปา ที่หน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง บนถนนกัลปพฤกษ์ บางขุนเทียน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. เมื่อคืนที่ผ่านมา ปฏิบัติการกู้ชีพคนงานทั้ง 2 คนเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากในช่วงเวลานั้นมีฝนตกลงมาด้วย กระทั่งช่วยคนงานคนแรกขึ้นมาได้ ทราบชื่อนายอัมรินทร์ เป็นชาวเมียนมา เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลบางประกอก 8 ในทันที เบื้องต้น อาการยังสาหัส ส่วนคนงานอีกคนทราบชื่อนายวัฒน์เป็นชาวเมียนมาเช่นกัน การช่วยเหลือยากลำบากมากกว่านายอัมรินทร์ เนื่องจากแขนขวาถูกแผ่นปูนขนาดใหญ่ทับไว้ใต้ทรายอีกชั้น และขาซ้ายถูกทรายดูดเข้าไปอยู่ใต้ท่อประปาพีวีซีขนาด 12 นิ้ว อีกทั้งอากาศในหลุมมีน้อยมาก โดยหลุมที่เกิดเหตุขนาดปากหลุมกว้าง 3 เมตร ลึก 1.30 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจในขณะทำการช่วยเหลือ และประสานขอสนับสนุนรถดูดทรายจาก กทม. เข้าสูบทรายออกจากบ่อ เนื่องจากเครื่องสูบน้ำไม่ได้ผล นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ใช้เลื่อยไฟฟ้าตัดท่อและใช้รถเครนยกแผ่นปูนขึ้น จนสามารถนำร่างของนายวัฒน์ขึ้นมาได้ในสภาพหมดสติ จากนั้นเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือด้วยการปั้มหัวใจ ก่อนจะส่งตัวไปโรงพยาบาslotjoker 123ลอย่างเร่งด่วน แต่ก็ไม่ทันการณ์ซึ่งเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบางปะกอก 8 แจ้งกับทีมงานก่อสร้าง ว่า นายวัฒน์ได้เสียชีวิตแล้ว ทีมงานวางท่อประปา คนหนึ่งเปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเบื้องต้น ว่า เริ่มงานตั้งแต่ช่วงเวลา 15.00 น. ขณะเกิดเหตุเป็นช่วงค่ำซึ่งตอนนั้นไม่มีฝน แต่คาดว่าสไลด์ลงหลุ่มเพราะทรายเหลว ตำรวจนครบาลบางขุนเทียน เข้าตรวจสอบเหตุการณ์พร้อมเปิดเผยการสอบสวนในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นว่าเป็นงานวางท่อประปาของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งซึ่งรับช่วงงานจากการประปานครหลวง โดยเป็นงานซ่อมท่อประปา ซึ่งคนงาน 2 คน ผู้ประสบเหตุลงไปในหลุม ขณะที่มีคนงานอีกคนขับรถแบ็คโฮขุดตักทรายอยู่ด้านบนก่อนจะเกิดเหตุทรายไหลสไลด์ลงทับคนงานทั้ง 2 แต่ยังไม่สามารถระบุรายละเอียดได้ และเตรียมชิญตัวผู้อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดเข้าให้ปากคำโดยละเอียดอีกครั้ง

วันนี้ (26 ธ.ค.2566) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. มีมติอนุมัต