วันนี้ (26 ธ.ค.2565) พล.ต.ต.ประเสริฐ ศิริพรรณาภิรั

พระครูปลัดอานนท์ วิสุทโธ เจ้าอาวาสวัดล่ามช้าง บอกกับไทยพีบีเอสออนไลน์ ว่าการดึงชุมชนและวัดเข้ามาอยู่ด้วยกัน ใช้กลไกทางศาสนา ศิลปวัฒนธรรม และสิ่งที่สำคัญคือวิถีชีวิตที่อนุรักษ์ไว้ให้คงอยู่ ซึ่งวัดและชุ
วันนี้ (6 ส.ค.2567) ศาลอาญาถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษา ในคดีที่พนักงานอัยการยื่นฟ้อง นายจตุพร พรหมพันธุ์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง อดีตแกนนำ นปช. ในความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ โดยคำฟ้องระบุพฤติการณ
วันนี้ (3 มี.ค.2565) ศาลอาญา นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีทัวร์ศูนย์เหรียญ ในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสมเกียรติ คงเจริญ อายุ 63 ปี กรรมการผู้จัดการบริษัทซินหยวน ทราเวลจำกัด กับพวกรวม 13 คนเป็นจำเลยฐานร่วมกันเป็นอั้งยี่, ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและร่วมกันฟอกเงิน โดยนายสมเกียรติจำเลยที่ 1 ไม่มาศาล กรณีเมื่อระหว่างวันที่ 24 มี.ค.-31 ส.ค.2559 ต่อเนื่องกัน บริษัท ฝูอัน ทราเวล จำกัด นำนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาเที่ยวโดยไม่เสียค่าบริการ หรือที่เรียกว่า"ทัวร์ศูนย์เหรียญ" จากนั้นบริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด จำเลยให้ใช้รถบัสจำนวน 2,500 คัน รับนักท่องเทีmaxbet download่ยวฟรี โดยเป็นผู้กำหนดแผนการเดินทางให้มัคคุเทศก์ และผู้ขับขี่นำรถไปจอดให้นักท่องเที่ยวแวะซื้อสินค้าจากร้านในเครือเดียวกับบริษัท โอเอฯ ซึ่งสินค้ามีราคาแพงกว่าท้องตลาดหลายเท่า แสดงฉลากไม่ถูกต้อง เป็นการขูดรีดนักท่องเที่ยว ไม่เป็นการแข่งขันเสรีทางการค้า อำพรางแบ่งปันผลประโยชน์ โดยบริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด แบ่งปันผลประโยชน์ให้บริษัททัวร์ 30-40% ให้มัคคุเทศก์ 3-5 % มีพฤติกรรมลักษณะเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่กันทำ ปกปิดวิธีการอันมิชอบด้วยกฎหมายเพื่อให้ได้มาซึ่งเงินของนักท่องเที่ยวศูนย์เหรียญชาวจีน จนเกิดความ เสียหายมูลค่า 98 ล้านบาทเศษทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและภาพลักษณ์ของประเทศเสียหาย สำหรับคดีนี้ ศาลอาญาเลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา มาแล้ว 2 ครั้งเนื่องจากทนายความไม่สามารถติดต่อนายสมเกียรติ จำเลยที่ 1 รวมทั้งไม่สามารถส่งหมายนัดให้จำเลยที่ 1 ได้ โดยในวันนี้จำเลยเดินทางมาศาลยกเว้นจำเลยที่ 1 โดยศาลฎีกา ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือเเล้วเห็นว่าส่วนที่โจทก์ฎีกา กล่าวอ้างว่าจำเลยทั้ง 13 ร่วมกันกระทำความผิด ฐานร่วมกันเป็นอั้งยี่ ซึ่งอ้างว่าเป็นความผิดมูลฐานเอง และข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าจำเลยทั้ง 13 ร่วมกันกระทำความผิดฐานร่วมกันเป็นอั้งยี่ อ่านข่าวเพิ่ม ศาลสั่งปรับ 3 จำเลย "คดีทัวร์ศูนย์เหรียญ" คนละ 5 แสน กรณีนี้จึงไม่มีความผิดมูลฐานอันจะทำให้การกระทำของจำเลยที่ 1-12 กับพวก เป็นความผิดฐานร่วมกันฟอกเงินได้ โดยไม่จำต้องพิจารณาว่าจะมีจำเลยคนใดโอนเงินให้บุคคลใด หรือบุคคลใดโอนเงินให้จำเลยคนใด และจำนวนเท่าใดตาม ที่โจทก์บรรยายฟ้องหรือไม่ พยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบมาแตกต่างขัดแย้งกันในสาระสำคัญ จึงไม่มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ ไม่สามารถรับฟังได้ว่า จำเลยที่ 3-12 กับพวกกระทำความผิด ฐานร่วมกันประกอบธุรกิจนำเที่ยวกับการประกอบธุรกิจนำเที่ยวของจำเลยที่ 1,2,13 โดยไม่ได้รับอนุญาต จำเลยทั้ง 13 กับพวกร่วมกันกระทำความผิดฐานเป็นอั้งยี่ ฐานร่วมกันประกอบธุรกิจนำเที่ยวหาประโยชน์ที่ไม่เป็นธรรมจากนักท่องเที่ยว อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ข่าวเด่น 2559 : แก้ปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ ก้าวที่กล้าหรือความผิดพลาด “พัทยาเงียบ” เหตุปราบทัวร์ศูนย์เหรียญ นักท่องเที่ยวจีนยกเลิกจองตั๋วมาไทย
มองข้ามไม่ได้ว่าไม่เกี่ยวประเด็นการเมือง เมื่อรัฐบาลเพื่อไทย ภายใต้การนำของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐ
วันที่ 25 ม.ค.2564 ศูนย์ปฏิบัติการ COVID-19 จังหวัดนนทบุรี รายงานสถานการณ์ COVID-19 ระลอกใหม่ พบผู้ต
วันนี้ (3 มี.ค.2565) ศาลอาญา นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีทัวร์ศูนย์เหรียญ ในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจ
วันนี้ (3 มี.ค.2565) ศาลอาญา นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีทัวร์ศูนย์เหรียญ ในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสมเกียรติ คงเจริญ อายุ 63 ปี กรรมการผู้จัดการบริษัทซินหยวน ทราเวลจำกัด กับพวกรวม 13 คนเป็นจำเลยฐานร่วมกันเป็นอั้งยี่, ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและร่วมกันฟอกเงิน โดยนายสมเกียรติจำเลยที่ 1 ไม่มาศาล กรณีเมื่อระหว่างวันที่ 24 มี.ค.-31 ส.ค.2559 ต่อเนื่องกัน บริษัท ฝูอัน ทราเวล จำกัด นำนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาเที่ยวโดยไม่เสียค่าบริการ หรือที่เรียกว่า"ทัวร์ศูนย์เหรียญ" จากนั้นบริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด จำเลยให้ใช้รถบัสจำนวน 2,500 คัน รับนักท่องเทีmaxbet download่ยวฟรี โดยเป็นผู้กำหนดแผนการเดินทางให้มัคคุเทศก์ และผู้ขับขี่นำรถไปจอดให้นักท่องเที่ยวแวะซื้อสินค้าจากร้านในเครือเดียวกับบริษัท โอเอฯ ซึ่งสินค้ามีราคาแพงกว่าท้องตลาดหลายเท่า แสดงฉลากไม่ถูกต้อง เป็นการขูดรีดนักท่องเที่ยว ไม่เป็นการแข่งขันเสรีทางการค้า อำพรางแบ่งปันผลประโยชน์ โดยบริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด แบ่งปันผลประโยชน์ให้บริษัททัวร์ 30-40% ให้มัคคุเทศก์ 3-5 % มีพฤติกรรมลักษณะเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่กันทำ ปกปิดวิธีการอันมิชอบด้วยกฎหมายเพื่อให้ได้มาซึ่งเงินของนักท่องเที่ยวศูนย์เหรียญชาวจีน จนเกิดความ เสียหายมูลค่า 98 ล้านบาทเศษทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและภาพลักษณ์ของประเทศเสียหาย สำหรับคดีนี้ ศาลอาญาเลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา มาแล้ว 2 ครั้งเนื่องจากทนายความไม่สามารถติดต่อนายสมเกียรติ จำเลยที่ 1 รวมทั้งไม่สามารถส่งหมายนัดให้จำเลยที่ 1 ได้ โดยในวันนี้จำเลยเดินทางมาศาลยกเว้นจำเลยที่ 1 โดยศาลฎีกา ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือเเล้วเห็นว่าส่วนที่โจทก์ฎีกา กล่าวอ้างว่าจำเลยทั้ง 13 ร่วมกันกระทำความผิด ฐานร่วมกันเป็นอั้งยี่ ซึ่งอ้างว่าเป็นความผิดมูลฐานเอง และข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าจำเลยทั้ง 13 ร่วมกันกระทำความผิดฐานร่วมกันเป็นอั้งยี่ อ่านข่าวเพิ่ม ศาลสั่งปรับ 3 จำเลย "คดีทัวร์ศูนย์เหรียญ" คนละ 5 แสน กรณีนี้จึงไม่มีความผิดมูลฐานอันจะทำให้การกระทำของจำเลยที่ 1-12 กับพวก เป็นความผิดฐานร่วมกันฟอกเงินได้ โดยไม่จำต้องพิจารณาว่าจะมีจำเลยคนใดโอนเงินให้บุคคลใด หรือบุคคลใดโอนเงินให้จำเลยคนใด และจำนวนเท่าใดตาม ที่โจทก์บรรยายฟ้องหรือไม่ พยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบมาแตกต่างขัดแย้งกันในสาระสำคัญ จึงไม่มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ ไม่สามารถรับฟังได้ว่า จำเลยที่ 3-12 กับพวกกระทำความผิด ฐานร่วมกันประกอบธุรกิจนำเที่ยวกับการประกอบธุรกิจนำเที่ยวของจำเลยที่ 1,2,13 โดยไม่ได้รับอนุญาต จำเลยทั้ง 13 กับพวกร่วมกันกระทำความผิดฐานเป็นอั้งยี่ ฐานร่วมกันประกอบธุรกิจนำเที่ยวหาประโยชน์ที่ไม่เป็นธรรมจากนักท่องเที่ยว อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ข่าวเด่น 2559 : แก้ปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ ก้าวที่กล้าหรือความผิดพลาด “พัทยาเงียบ” เหตุปราบทัวร์ศูนย์เหรียญ นักท่องเที่ยวจีนยกเลิกจองตั๋วมาไทย
วันนี้ (11 ก.พ.2564) น.ส.กุลยา ตันติเตมิท โฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยยอดลงทะเบียนโครงการ "เราชนะ" ล่า