ซิฟิลิส (Syphilis) เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า ทรีโพนีมา พาลลิดัม (Treponema pallidum) เชื้อนี้สามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านทางรอยขีดข่วนเล็ก ๆ หรือเยื่อบุอ่อน ๆ ท

ซิฟิลิส (Syphilis) เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า ทรีโพนีมา พาลลิดัม (Treponema pallidum) เชื้อนี้สามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านทางรอยขีดข่วนเล็ก ๆ หรือเยื่อบุอ่อน ๆ ที่สัมผัสโดยตรงกับแผล สารคัดหลั่ง หรือเยื่อเมือกของผู้ติดเชื้อ ช่องทางการติดต่อหลักคือการมีเพศสัมพันธ์ ทั้งทางช่องคลอด ทางปาก (ออรัลเซ็กส์) หรือทางทวารหนัก นอกจากนี้ยังสามารถติดต่อผ่านการจูบที่สัมผัสกับน้ำลายหรือแผลในปาก การสัมผัสโดยตรงกับบาดแผลของผู้ป่วย การรับเลือดจากผู้ติดเชื้อ การใช้เข็มฉีดยาร่วมกันในผู้ติดสารเสพติด และที่สำคัญคือการติดต่อจากแม่ที่ติดเชื้อสู่ทารกในครรภ์หรือระหว่างการคลอดบุตร ซึ่งเรียกว่า ซิฟิลิสแต่กำเนิด อย่างไรก็ตาม ซิฟิลิสไม่ได้ติดต่อผ่านทางการใช้เสื้อผ้าร่วมกัน ห้องน้ำร่วมกัน ภาชนะใส่อาหาร ลูกบิดประตู สระว่ายน้ำ หรืออ่างอาบน้ำ ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว อาการของโรคซิฟิลิสจะแตกต่างกันไปตามระยะของการดำเนินโรค ซึ่งโดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 4 ระยะ อย่างไรก็ตาม การดำเนินโรคอาจไม่จำเป็นต้องเรียงตามลำดับเสมอไป บางระยะอาจคาบเกี่ยวกัน หรือบางรายอาจติดเชื้อโดยไม่มีอาการแสดงเลยเป็นเวลานาน ระยะที่ 1 "ระยะแผลริมแข็ง" มักแสดงอาการภายใน 3 สัปดาห์หลังจากได้รับเชื้อ ลักษณะเด่นคือการเกิดแผลเล็ก ๆ สีแดง ขอบนูนแข็งที่เรียกว่า "แผลริมแข็ง (Chancre)" แผลนี้มักกดแล้วไม่เจ็บ ทำให้ผู้ป่วยบางรายไม่รู้ตัวว่ามีแผลเกิดขึ้น โดยเฉพาะหากแผลเกิดในบริเวณที่มองไม่เห็น เช่น ในช่องคลอดหรือทวารหนัก แผลริมแข็งมักเกิดขึ้นเพียงตำแหน่งเดียว แต่ก็อาจมีหลายแผลได้ ตำแหน่งที่พบบ่อยคือ บริเวณอวัยวะเพศ เช่น ส่วนหัวหรือลำองคชาติ ใต้หนังหุ้มปลายองคชาติ รอบถุงอัณฑะในเพศชาย หรือบริเวณปากมดลูก ผนังช่องคลอดในเพศหญิง ปาก ทวารหนัก ท่อปัสสาวะ หรือเยื่อบุตา แม้ว่าแผลริมแข็งจะสามารถหายไปได้เองภายใน 3-8 สัปดาห์ โดยไม่ได้ทำการรักษาใด ๆ แต่เชื้อซิฟิลิสจะยังคงอยู่ในร่างกายและสามารถพัฒนาไปสู่ระยะต่อไปได้ ระยะที่ 2 "ระยะออกดอก" มักปรากฏอาการ 3-12 สัปดาห์หลังติดเชื้อ เป็นระยะที่เชื้อซิฟิลิสแพร่กระจายเข้าสู่ระบบน้ำเหลืองและกระแสเลือดไปยังอวัยวะต่าง ๆ ทั่วร่างกาย รอยโรคที่พบบ่อยคือ ผื่น ซึ่งอาจเป็นผื่นราบ ผื่นนูนแข็งมีสะเก็ด หรือแผลหลุมที่ไม่เจ็บ ไม่คัน กระจายไปทั่วร่างกาย อวัยวะเพศ รวมถึงบริเวณฝ่ามือและฝ่าเท้า ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า "ระยะออกดอก" นอกจากผื่นแล้ว อาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ต่อมน้ำเหลืองโต มีไข้ เจ็บคอ เหนื่อยล้า น้ำหนักลด ปวดข้อ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อาจมีเชื้อราในปาก หรือมีผมร่วงทั่วศีรษะหรือเป็นหย่อม ๆ ในระยะนี้ ผลเลือดมักเป็นบวก อาการต่าง ๆ ในระยะนี้สามารถหายไปเองได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ หรืออาจเป็น ๆ หาย ๆ ก่อนที่เชื้อจะแฝงเร้นเข้าสู่ระยะแฝง ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว ระยะที่ 3 "ระยะแฝง" เป็นระยะที่ผู้ติดเชื้อไม่ได้รับการรักษาใน 2 ระยะแรกเข้าสู่ "ระยะสงบทางคลินิก" ในระยะนี้ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะไม่มีอาการแสดงใด ๆ ที่บ่งบอกถึงการติดเชื้อ แต่เชื้อจะยังคงแฝงอยู่ในร่างกายและสามารถดำเนินโรคต่อไปได้เป็นเวลานาน โดยอาจนานกว่า 20 ปี ผู้ที่อยู่ในระยะแฝงบางรายอาจมีผื่นหรือแผลออกดอกทั่วร่างกายแบบเป็น ๆ หาย ๆ ได้ แม้ไม่มีอาการ ผู้ติดเชื้อในระยะแฝงช่วงแรกก็ยังสามารถแพร่กระจายเชื้อไปสู่ผู้อื่นได้ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ การสัมผัสกับสารคัดหลั่งหรือเยื่อเมือก หรือจากแม่สู่ลูก การทราบว่าติดเชื้อในระยะนี้มักทำได้จากการตรวจเลือดเท่านั้น ระยะที่ 4 "ระยะสุดท้าย" เป็นระยะที่อันตรายและก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เกิดขึ้นในผู้ติดเชื้อราวร้อยละ 15-30 ที่ไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม และมักเกิดขึ้นหลายปีหลังจากติดเชื้อ ในระยะนี้ เชื้อซิฟิลิสในต่อมน้ำเหลืองและกระแสเลือดได้ทำลายอวัยวะภายในให้เสียหายอย่างถาวร ส่งผลกระทบต่อระบบต่าง ๆ ในร่างกายอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะระบบประสาทและสมอง ระบบหัวใจและหลอดเลือด ตับ ดวงตา กระดูกและข้อต่อ ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ โรคทางระบบประสาทและสมอง เช่น โรคหลอดเลือดสมอง เยื่อหุ้มสมองอักเสบ การสูญเสียการได้ยิน ปัญหาทางสายตาถึงขั้นตาบอด ภาวะสมองเสื่อม การสูญเส เต็ ป 3 4 เซียนสียการรับความรู้สึก ความผิดปกติในการเคลื่อนไหว อัมพาต หรืออาการชัก โรคในระบบหัวใจและหลอดเลือด เช่น โรคเส้นเลือดแดงโป่งพอง โดยเฉพาะเส้นเลือดแดงใหญ่เอออร์ตา ลิ้นหัวใจรั่ว หรือหลอดเลือดแดงใหญ่อักเสบ อาจเกิดตุ่มหรือเนื้องอกขนาดใหญ่ที่เรียกว่า กัมมา (Gummas) บนผิวหนัง กระดูก หรืออวัยวะภายใน ซึ่งมักเกิดในระยะหลังของการติดเชื้อ นอกจากนี้ ซิฟิลิสยังเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อเอชไอวี (HIV) ได้ถึง 2-5 เท่า เนื่องจากแผลริมแข็งอาจมีเลือดออกและเป็นช่องทางให้เชื้อเอชไอวีเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น ภาวะแทรกซ้อนในระยะสุดท้ายเหล่านี้อาจนำไปสู่ความพิการถาวรและเสียชีวิตได้ ความเสียหายที่เกิดขึ้นในระยะสุดท้ายมักไม่สามารถย้อนกลับได้ แม้จะได้รับการรักษาแล้วก็ตาม ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว เกิดจากการที่แม่ที่ติดเชื้อซิฟิลิสแพร่เชื้อสู่ลูกในครรภ์ผ่านทางรกหรือระหว่างการคลอด การติดเชื้อนี้มีความรุนแรงมากและอาจส่งผลร้ายแรงถึงแก่ชีวิตได้ ซิฟิลิสแต่กำเนิดเป็นสาเหตุของการคลอดก่อนกำหนด การเสียชีวิตของทารกในครรภ์หรือเสียชีวิตหลังคลอด และทารกแรกเกิดมีน้ำหนักน้อย ทารกที่ติดเชื้ออาจไม่แสดงอาการในตอนแรก แต่เมื่อโตขึ้นอาจมีอาการ เช่น ผื่นแดงที่ฝ่ามือฝ่าเท้า หูหนวก โครงสร้างฟันผิดปกติ หรือมีลักษณะจมูกผิดปกติที่เรียกว่า จมูกซิฟิลิส (Syphilitic nose) หรือจมูกอานม้า ซึ่งดั้งจมูกจะแฟบบุ๋มลงไป รวมถึงปัญหาสุขภาพรุนแรงอื่น ๆ การตรวจพบและรักษาซิฟิลิสในแม่ตั้งครรภ์ตั้งแต่เนิ่น ๆ ด้วยยาปฏิชีวนะเพนิซิลลิน สามารถลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการเหล่านี้ในทารกได้ ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว แพทย์จะทำการซักประวัติความเสี่ยง ตรวจร่างกาย และทำการตรวจทางห้องปฏิบัติการ วิธีหลักคือการตรวจเลือดเพื่อหาแอนติบอดี้ (Antibody) หรือภูมิคุ้มกันที่ร่างกายสร้างขึ้นเพื่อต่อสู้กับเชื้อ ซึ่งมีความแม่นยำและสามารถบ่งบอกถึงการติดเชื้อในอดีตได้ การตรวจเลือดมีหลายวิธี ทั้งแบบที่ไม่เฉพาะเจาะจงต่อเชื้อซิฟิลิส เช่น VDRL หรือ RPR และแบบที่เฉพาะเจาะจง เช่น FTA-ABS, TPHA, TP-PA หรือ ICT ผลการตรวจเลือดส่วนใหญ่ทราบภายใน 1-3 วัน ในซิฟิลิสระยะแรกและระยะที่ 2  แพทย์อาจเก็บตัวอย่างจากแผลหรือผื่นไปตรวจหาเชื้อโดยตรงด้วยการส่องกล้องจุลทรรศน์ชนิดพิเศษ (Dark-field microscopy) หากสงสัยว่าซิฟิลิสลุกลามเข้าสู่ระบบประสาทในระยะสุดท้าย แพทย์อาจพิจารณาเจาะน้ำไขสันหลัง (Lumbar puncture) เพื่อนำไปตรวจ ซิฟิลิสเป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยาปฏิชีวนะ ยาหลักที่ใช้คือ "ยาเพนิซิลลิน (Penicillin)" ซึ่งแพทย์จะให้โดยการฉีด หากตรวจพบการติดเชื้อในระยะเวลาไม่ถึง 1 ปี หรืออยู่ในระยะแรก แพทย์มักฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อเพียงครั้งเดียว แต่ถ้ามีการติดเชื้อนานกว่า 1 ปี หรือเข้าสู่ระยะที่ 2 หรือระยะแฝง อาจต้องฉีดยาทุกสัปดาห์รวม 3 เข็ม ในกรณีที่มีการติดเชื้อในระบบต่าง ๆ ของร่างกาย หรือมีอาการรุนแรง อาจต้องให้ยาทางหลอดเลือดดำ หากผู้ป่วยแพ้ยาเพนิซิลลิน แพทย์จะพิจารณายาปฏิชีวนะชนิดอื่น อย่างไรก็ตาม ยาเพนิซิลลินเป็นยาชนิดเดียวที่มีข้อมูลว่าสามารถป้องกันซิฟิลิสแต่กำเนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลังได้รับยาปฏิชีวนะในวันแรก ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการที่เรียกว่า ปฏิกิริยาจาริช-เฮิร์กไซเมอร์ (Jarisch-Herxheimer Reaction) ซึ่งมีอาการคล้ายไข้หวัด เช่น มีไข้ หนาวสั่น คลื่นไส้ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและข้อ ปวดศีรษะ อาการเหล่านี้มักหายไปเองภายใน 1-2 วัน ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว ในช่วงการรักษา แพทย์จะแนะนำให้งดการมีเพศสัมพันธ์จนกว่าจะได้รับการรักษาจนหายขาด และผลการตรวจเลือดเป็นลบ หากจำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์ ควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง ที่สำคัญคือ ควรแจ้งให้คู่เพศสัมพันธ์ในช่วงที่ผ่านมาเข้ารับการตรวจหาเชื้อซิฟิลิสด้วย เพื่อให้ได้รับการตรวจและรักษาเช่นกัน แพทย์มักนัดตรวจเลือดติดตามอาการหลังจากรักษา 3 เดือน และ 6 เดือน และตรวจซ้ำเป็นประจำทุกปี เพื่อป้องกันการพัฒนาไปสู่ระยะสุดท้าย เนื่องจากผู้ป่วยซิฟิลิสมีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อเอชไอวี แพทย์อาจแนะนำให้ตรวจหาเชื้อเอชไอวีร่วมด้วย นอกจากซิฟิลิส ยังมีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ ที่พบบ่อยและเป็นอันตรายหากไม่ป้องกันหรือรักษา ซึ่งเกิดได้จากหลากหลายเชื้อ ทั้งแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา และปรสิต เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Neisseria gonorrhoeae ในเพศชายมักมีอาการปัสสาวะแสบขัดและมีหนองข้นไหลออกจากปลายท่อปัสสาวะ แต่ในเพศหญิงส่วนใหญ่มักไม่มีอาการ หรือมีเพียงตกขาวผิดปกติเล็กน้อย หากไม่รักษาอาจลุกลามเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น อุ้งเชิงกรานอักเสบในหญิง หรือต่อมลูกหมากอักเสบและเป็นหมันในชาย รวมถึงปวดข้อหรือมีผื่นขึ้นตามตัวได้ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Chlamydia trachomatis มักมีอาการปัสสาวะแสบขัดและมีหนองใสไหลออกจากท่อปัสสาวะในเพศชาย และหลายรายอาจไม่มีอาการเลย ภาวะแทรกซ้อนหากไม่รักษาก็คล้ายกับหนองในแท้ เช่น อุ้งเชิงกรานอักเสบและภาวะมีบุตรยาก ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex virus มักแสดงอาการเป็นตุ่มน้ำใสขึ้นเป็นกลุ่ม ๆ ร่วมกับอาการปวด แสบ คัน บริเวณอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือริมฝีปาก เชื้อเริมจะซ่อนอยู่ในร่างกายและสามารถกำเริบซ้ำได้เมื่อร่างกายอ่อนแอ ยาต้านไวรัสสามารถช่วยควบคุมอาการได้ แต่ไม่สามารถกำจัดเชื้อออกจากร่างกายได้ทั้งหมด ผู้ป่วยยังสามารถแพร่เชื้อได้แม้ไม่มีอาการ เกิดจากเชื้อไวรัส Human papilloma virus (HPV) ส่วนใหญ่มักไม่มีอาการหลังติดเชื้อ แต่บางรายอาจมีติ่งเนื้อหรือก้อนคล้ายดอกกะหล่ำขึ้นบริเวณอวัยวะเพศและทวารหนัก ซึ่งอาจมีอาการคัน เจ็บ หรือมีเลือดออก หูดหงอนไก่อาจกลับมาเป็นซ้ำได้บ่อย เชื้อ HPV บางสายพันธุ์ยังสามารถทำให้เกิดโรคมะเร็งบริเวณอวัยวะเพศได้ เช่น มะเร็งปากมดลูก มะเร็งทวารหนัก หากร่างกายไม่สามารถกำจัดเชื้อได้เอง มีวัคซีนป้องกันเชื้อ HPV ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการติดเชื้อ โดยเฉพาะหากฉีดก่อนมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส HIV ซึ่งเข้าทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ติดเชื้อโรคอื่น ๆ ได้ง่ายและนำไปสู่ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง (เอดส์) และเสียชีวิตในที่สุด เอชไอวีติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ การรับเลือด การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน และจากแม่สู่ลูก การรักษาด้วยยาต้านไวรัสสามารถช่วยลดจำนวนเชื้อไวรัสในร่างกายและทำให้ผู้ติดเชื้อมีสุขภาพแข็งแรงใกล้เคียงคนปกติได้ ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว แม้ว่าสำหรับซิฟิลิสจะยังไม่มีวัคซีนป้องกัน วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย การงดเว้นการมีเพศสัมพันธ์ หรือมีเพศสัมพันธ์เฉพาะกับคู่รักเพียงคนเดียวที่ไม่มีการติดเชื้อ จะช่วยลดความเสี่ยงลงได้อย่างมาก การใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธีและทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ก็เป็นวิธีป้องกันที่มีประสิทธิภาพ แต่ควรมั่นใจว่าถุงยางอนามัยครอบคลุมบริเวณที่เป็นแผลด้วยหากมี ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การเปลี่ยนคู่นอนบ่อย การทำออรัลเซ็กส์กับคู่ที่ไม่รู้จัก หลีกเลี่ยงการใช้สารเสพติดหรือดื่มเครื่องดื่มมึนเมาที่อาจทำให้ขาดสติและนำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ป้องกัน ไม่ใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น และไม่สัมผัสบาดแผลของผู้อื่น ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว สิ่งสำคัญอีกประการคือ การเข้ารับการตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หากไม่สามารถทราบได้แน่ชัดว่า ตนเองหรือคู่นอนมีการติดเชื้อหรือไม่ เพราะภายนอกดูแข็งแรงดี มีผู้ติดเชื้อหลายรายอาจไม่มีอาการแสดง "การตรวจ" เป็นวิธีเดียวที่จะยืนยันได้ หากมีอาการผิดปกติที่สงสัยว่าเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือเพิ่งมีความเสี่ยงในการติดโรค เช่น มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน หรือทราบว่าคู่นอนติดเชื้อ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจทันที โดยทั่วไป ผู้ที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ควรได้รับการตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างน้อยปีละครั้ง โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง เช่น มีคู่นอนหลายคน หรือกลุ่มชายรักชาย สำหรับหญิงตั้งครรภ์ การตรวจหาเชื้อซิฟิลิสและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ เป็นส่วนหนึ่งของการดูแลครรภ์ที่จำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อความปลอดภัยของทารกในครรภ์ นอกจากนี้ การตรวจสุขภาพก่อนแต่งงานก็เป็นโอกาสที่ดีในการตรวจคัดกรองโรคเหล่านี้ ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว การเข้ารับการตรวจอาจดูน่ากลัวหรือน่าอายสำหรับบางคน แต่ควรทำใจให้สบาย เพราะการตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพที่รับผิดชอบ หากตรวจพบเชื้อตั้งแต่เนิ่น ๆ โรคซิฟิลิสและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากแบคทีเรียส่วนใหญ่สามารถรักษาให้หายขาดได้ง่ายด้วยยาปฏิชีวนะ ซึ่งจะช่วยหยุดการดำเนินโรคและป้องกันภาวะแทรกซ้อนรุนแรงในระยะยาวได้ การรู้ผลเร็วและได้รับการรักษาทันที จะช่วยให้คุณกลับมามีสุขภาพที่ดีและป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่าปล่อยให้อาการเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือความกลัวและความอาย กลายเป็นปัญหาใหญ่ที่แก้ไขได้ยากในอนาคต แหล่งข้อมูล : สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย, รพ.จุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต, รพ.นครธน, MedPark Hospital, รพ.ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์, รพ.ศิครินทร์ อ่านข่าวอื่น : 3 มิ.ย.ชี้ชะตา! "เกาหลีใต้" หาผู้นำใหม่ท่ามกลางวิกฤตการเมือง แจ้งเตือน 11 จว. ระดับน้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น เหตุน้ำเหนือยังมาก

โค้งสุดท้ายของการหาเสียงนางอัจฉรา ทวีเกื้อกูลกิจ ผู้สมัครนายก อบจ.จังหวัดตาก หมายเลข 1 ลงพื้นที่ตลาดวังหิน ที่ อ.เมืองตาก จ.ตาก เพื่อขอคะแนนเสียงจากพ่อค้าแม่ค้า โดยชูโยบายพัฒนาท้องถิ่นให้มีมาตรฐาน ยกร

เมื่อคืนที่ผ่านมา ทีมข่าวไทยพีบีเอส ลงพื้นที่สำรวจหลายพื้นที่ริมตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยา ในเขตกรุงเทพฯ พ

นิยายชีวิต โดย : Anton Suhartono
เรื่องและภาพโดย : Anton Suhartono
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” ได้ที่นี่..