ลี่อินและตงหย่าง สองสามีภรรยาชาวจีน พำนักอยู่ในประเทศไทย อาชีพธุรกิจส่งออก เมื่อลี่อินตั้งครรภ์ลูกชา

ผู้สื่อข่าวรางานว่า เมื่อคืนนี้ (17 ส.ค.2567) เมื่อเวลา 21.00 น.เกิดเหตุเรือเจ็ทสกีพุ่งชนกับเรือหางยาวของชาวบ้านกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ขณะเข้ามาจอดที่ท่าน้ำวัดบางกระเจ้านอก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จุดท

ลี่อินและตงหย่าง สองสามีภรรยาชาวจีน พำนักอยู่ในประเทศไทย อาชีพธุรกิจส่งออก เมื่อลี่อินตั้งครรภ์ลูกชายคนแรกกับสามี ต้องการให้ลูกของตนเป็นคนไทย จึงไปจ้างสมพงษ์ คนงานไทย รับสมอ้างเป็นสามี และเป็นพ่อของเด็กในท้อง ทดลอง เล น maxbetสมพงษ์ยอมรับเงื่อนไขพร้อมรับเงินค่าจ้างจำนวนหนึ่ง สมพงษ์รู้ว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่คนไทย จึงมาขอเงินทุกเดือน ทำให้ลี่อินนายจ้าง ไม่พอใจ เธอต้องการส่งลูกไปอยู่กับญาติที่ต่างประเทศ แต่การทำหนังสือเดินทางไปต่างประเทศ ตามกฎหมาย ต้องให้สมพงษ์ ในฐานะพ่อเซ็นต์หนังสือรับรอง แต่สมพงษ์ไม่ยอมมา ลี่อินจึงไปขอคำปรึกษาทางกฎหมายจากทนายความ ได้รับคำแนะนำว่า เมื่อเธอไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับสมพงษ์ ดังนั้นสิทธิการปกครองบุตรจึงอยู่ที่แม่ ทนายให้ลี่อินไปยื่นฟ้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัว เพื่อขอให้ตนเองมีสิทธิปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียว ขณะที่สมพงษ์ พ่อนอมินีทราบว่า ตนจะมีความผิด เนื่องจากรับสมอ้างเป็นพ่อให้กับลูกคนต่างด้าว ได้เรียกรับเงินจากนายจ้างอีกครั้ง เพื่อไม่ต้องมาแสดงตนคัดค้านคำสั่งศาลอีกจำนวน 50,000 บาท ส่วนลี่อินก็สามารถทำหนังสือ เดินทางให้ลูกชายได้สำเร็จ ด้วยการนำคำสั่งของศาลเยาวชนและครอบครัวไปยื่นที่กรมการกงศุล พ.ต.ท ชาญชัย ลิขิตคันทะสร ผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า เหตุการณ์นี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ส่วนชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้องคือนามสมมุติทั้งหมด สำหรับการใช้ช่องว่างทางกฎหมาย เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มที่ใช้วิธีการอุ้มท้องซื้อพ่อไทยให้ลูกจีน ยังไม่มีตัวเลขชัดเจน เนื่องจากทำเป็นขบวนการ แต่จากการสืบสวนพบว่า จะมีการจ่ายเป็นงวดๆ ครั้งแรกเป็นจำนวนเงิน 10,000-20,000 บาท พ.ต.ท.ชาญชัย กล่าวว่า สำหรับคดีดังกล่าวบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมีความผิดตามประกฎหมายอาญา มาตรา 137 ในข้อหาแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงาน มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนและปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และตนในฐานะพนักงานสอบสวนทำได้ขณะนั้น คือส่งเรื่องให้กรมการปกครองตรวจสอบต่อ ซึ่งไม่ทราบว่ามีการดำเนินการอย่างไรหรือไม่ พ.ต.ท.ชาญชัย กล่าว ผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษ กล่าวว่า คดีนี้เป็นความผิดเฉพาะบุคคล พ่อแม่จีนต้อง การจ้างพ่อไทยเป็นนอมินี เพื่อต้องการให้ลูกได้สิทธิ์เป็นคนสัญชาติไทย เป็นหนึ่งในรูปแบบของขบวนการสวมตัวเป็นคนไทย เนื่องจากคนจีนเมื่อเข้ามาทำการค้ามีกำไร และมีทุนทรัพย์มากพอที่จะถือครองที่ดินและอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ หากลูกหลานได้สัญชาติไทย ก็จะเป็นประโยชน์ เพราะสามารถใช้ชื่อบุตร จดทะเบียนถือครองอสังหาริมทรัพย์ได้ พ.ต.ท.ชาญชัย ให้ข้อมูลว่า ที่ผ่านมาพบว่า คดีอุ้มท้องซื้อพ่อ จะเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ เช่น เขตเยาวราช เขตบางนา พระโขนง ฝั่งธนบุรี มีลักษณะกระจัดกระจาย ยกเว้นหากพบว่า มีการทำเป็นขบวนการและมีเป็นจำนวนมากในสำนักงานเขตหรือสำนักงานทะเบียน จึงจะรับเป็นคดีพิเศษ ไม่ต่างกับสิ่งที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ตอกย้ำว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นจริงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะขบวนการอุ้มท้องซื้อพ่อ ของสามีภรรยาเป็นชาวจีน ซึ่งใช้วิธีซื้อสัญชาติจากพ่อชาวไทยที่รับจ้างเป็นนอมินี เพื่อฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลเอกชนให้เด็กที่เกิดมาได้สัญชาติไทย และเมื่อเด็กอายุครบ 7 ปี ก็จะสามารถทำบัตรประชาชนได้ ขณะที่พ่อแม่จีนจะสามารถใช้ชื่อบุตรจดทะเบียนเพื่อซื้อทรัพย์สินได้ หากเด็กมีอายุครบ 13 ปี สามารถใช้ชื่อจัดตั้งบริษัทถือหุ้นบริษัทได้ 51 เปอร์เซ็นต์ ซื้อที่ดินและได้รับกรรมสิทธิ์อื่นๆที่บริษัทต่างชาติทำไม่ได้ พ.ต.ท.ชาญชัย กล่าวว่า สำหรับเส้นทางลัดของการได้สัญชาติไทยโดยมิชอบเพื่อต้องการให้บุตรเป็นคนไทยได้เร็วที่สุด มี 3 วิธี คือ 1.อุ้มท้องซื้อพ่อคนไทย ให้มาเป็นพ่อของเด็ก เพื่อให้ได้สัญชาติไทย วิธีที่ 2.การสวมตัวทำบัตรและ 3 คือ การเพิ่มชื่อโดยอ้างว่าตนเองเป็นคนสัญชาติไทย หรือมีพ่อแม่เป็นคนสัญชาติไทยมาก่อน แล้วปลอมผลตรวจดีเอ็นเอ เจ้าหน้าที่กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ให้ข้อมูลว่า การได้สัญชาติไทยตาม พ.ร.บ.การทะเบียนราษฎร โดยการเกิดจะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ หลักสายโลหิต จากบิดาหรือมารดาผู้ให้กำเนิดเป็นผู้มีสัญชาติไทยในขณะที่บุตรเกิดทั้งเกิดใน หรือนอกราชอาณาจักรไทย และหลักดินแดน โดยจะต้องเป็นผู้ที่เกิดในราชอาณาจักร โดยมีบิดามารดาเป็นคนต่างด้าว ในกรณีที่บิดามารดา มีใบสำคัญถิ่นที่อยู่ มีถิ่นพำนักถาวรอยู่ในประเทศไทย บุตรที่เกิดในไทยก็จะได้สัญชาติไทยตั้งแต่เกิด หรือกรณีที่บิดามารดา ไม่มีถิ่นพำนักในไทย แต่มีใบสำคัญถิ่นที่อยู่ บุตรที่เกิดในไทยจะได้สัญชาติไทยต่อเมื่อต้องยื่นขอสัญชาติไทย และได้รับอนุมัติจากผู้มีอำนาจตามกฎหมาย สำหรับกรณีของนาย ชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ "ตู้ห่าว" เป็นการได้สัญชาติไทย ตามขั้นตอนของกฎหมาย เนื่องจากเป็นคนต่างด้าวขอถือสัญชาติไทยตามภรรยา ซึ่งตามกฎหมายที่ผู้ขอสามารถยื่นเรื่องได้ 3 กรณีคือ ภรรยาคนต่างด้าวขอถือสัญชาติตามสามีไทย คนต่างด้าวขอแปลงสัญชาติไทย เช่น กรณีของนายชัชชัย ชเว หรือ โค้ชเช และคนต่างด้าวขอกลับคืนสัญชาติ (คนสัญชาติไทยสละสัญชาติเพื่อสมรสกับคนต่างด้าว หรือคนสัญชาติไทยเสียสัญชาติตามบิดามารดาก่อนบรรลุนิติภาวะ) แหล่งข่าวจากกรมการปกครอง ระบุว่า สำหรับขั้นตอนข้างต้นเป็นไปตามหลักกฎหมายปกติ และที่ผ่านมามีบุคคลที่ใช้วิธีการได้สัญชาติไทยโดยมิชอบหลายรูปแบบ เช่น การขอพิสูจน์สัญชาติ (ปลอมผลตรวจดีเอ็นเอ) การจดแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จ จ้างบิดา มารดา มายืนยันตัวบุคคลว่าเป็นบุตร การแก้ไขข้อมูลในระบบ ด้วยวิธีแจ้งเกิดแล้วมาแก้ไขข้อมูลวันเดือนปีเกิดในระบบให้ตรงกับคนต่างด้าว และการอุ้มท้องซื้อพ่อ การได้สัญชาติไทยโดยมิชอบ ด้วยวิธีการอุ้มท้องซื้อพ่อ สอดคล้องกับคดีที่ พ.ต.ท.ชาญชัย เคยทำก่อนหน้านี้ ที่ระบุว่า ตามหลักกฎหมายเด็กจะได้สัญชาติไทยตามหลักสายเลือดและหลักดินแดน แต่กรณีอุ้มท้องซื้อพ่อจะไม่เข้าข่ายหลักดินแดน แหล่งข่าวคนเดิมระบุว่า ตามหลักพระราชบัญญัติตรวจคนเข้าเมือง กฎหมายทะเบียนราษฎร และพระราชบัญญัติสัญชาติไทย เขาจะไม่ได้สัญชาติไทย และลูกจะได้สัญชาติไทยก็ต่อเมื่อพ่อแม่ ได้ใบสำคัญถิ่นที่อยู่ หรือใบต่างด้าว หรือขอมีถิ่นที่อยู่ถาวร ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในกรณีที่ตัวพ่อแม่จีน ยังไม่มีใบสำคัญคนต่างด้าว และพำนักในไทยตามลักษณะวีซ่าที่เข้ามาเป็น tour list หรือขออยู่ชั่วคราวเป็นรายปี แสดงว่าเขาไม่มีเจตนาจะอยู่ไทยอย่างถาวร บุตรออกมาจึงไม่มีสัญญาติไทย เพราะเขาไม่ได้แสดงเจตจำนงตั้งแต่ต้นว่าต้องการให้ลูกเป็นคนไทย อย่างไรก็ตาม หากพ่อแม่จีนไปยื่นเรื่องขอใบสำคัญถิ่นที่อยู่และยื่นขอใบต่างด้าว เพื่อขอถิ่นที่อยู่ถาวรแสดงว่า ต้องการลงหลักปักฐานอยู่เมืองไทย และหากได้ใบสำคัญคนต่างด้าวแล้ว ไม่จำเป็นต้องยื่นขอวีซ่า แต่ถ้าเป็นพวกที่ขออยู่ต่อเป็นรายปีจะต้องมายื่นขออยู่ต่อทีละปี อุ้มท้องซื้อพ่อ เป็นหนึ่งในความผิดของข้อหาแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงาน การได้สัญชาติไทยโดยผิดกฎหมายในยุคกลุ่มทุนข้ามชาติเคลื่อนที่ นอกจากวิธีการดังกล่าวแล้ว ยังมีกลวิธีสารพัดในการได้มาซึ่งสัญชาติไทย ข่าวที่เกี่ยวข้อง ผ่าขบวนการสวมตัวทำบัตรฟอกตัวเป็นไทย ส่อง GEN ใหม่เยาวราช จีนเก่าย้าย-ทุนจีนใหม่รุกคืบ

วันนี้ (16 ต.ค.2566) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึง กระแสสังคม ที่มีทั้งสนับสนุนและคัดค้านโครงการ Digital wallet ของรัฐบาล โดยมองเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีเ