สธ.เตรียมเพิ่มมาตรการช่วยเหลือ จนท.เจ็บป่วย-บาดเจ็

วันนี้ (10 ต.ค.2565) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ช่วงเวลานี้หลายพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม บางแห่งมีน้ำท่วมขังยาวนานนับเดือน ประชาชนไม่ต้องการทิ้งบ้านไว้แม้น้ำจะท่วมสูง จึงยังค
วันนี้ (18 ส.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 วาระ ที่ 2 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.พรรคก้าวไกล อภิปรายขอสงวนความเห็น มาตรา 8 งบกระทรวงกลาโหม ปรับลดงบประ
วันนี้ (24 ส.ค.66) ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) ควบคุมตัวนายศุภากรณ์ หรือ ปลื้ม อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาในความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หลังสืบสวนพบว่าเป็นผู้ที่ขายข้อมูลส่วนบุคคลให้ผู้อื่น พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวได้ขยายผลมาจากการจับกุมนายผดุงเกียรติ หรือ เบนซ์ ที่จับได้ก่อนหน้านี้ ซึ่งก่อเหตุขายข้อมูลส่วนบุคคลกว่า 2 ล้านรายชื่อ ทั้งข้อมูลรายชื่อ เบอร์โทรศัพท์ และอีเมล์ ให้กับกลุ่มธุรกิจผิดกฎหมาย เว็บพนันออนไลน์ แก๊งคอลเซนเตอร์ เพื่อที่จะนำไปใช้ติดต่อหลอกลวงประชาชน ตำรวจได้ขยายผลจนทราบว่า ผู้ต้องหาเป็นกลุ่มเดียวกับกลุ่มของนายปลื้ม เจ้าของเฟซบุ๊กชื่อ "งานการไม่ทำ รำอย่างเดียว" และพบหลักฐานการตกลงซื้อขายข้อมูลกว่า 2 ล้านรายชื่อ เพื่อขายให้กับผู้ต้องหาที่เคยถูกจับก่อนหน้านี้ในราคา 7,000 บาท จากการสอบปากคำเบื้องต้น พบว่า นายปลื้ม เป็นคนกลางที่รับซื้อข้อมูลมาจากกลุ่มลูกค้าที่เคยซื้ออาหารเสริมยี่ห้อดังแบรนด์หนึ่ง และรับซื้อมาจากกลุ่มธุรกิจสีเทา ซึ่งตามคำกล่าวอ้างบอalpha88 affiliateกว่าซื้อมา 15 ล้านรายชื่อ ก่อนนำมาแบ่งขายเป็นแพ็กเกจให้กับกลุ่มที่สนใจในเว็บไซต์ใต้ดิน และเคยขายได้เดือนละ 4 แสนบาท บางส่วนเป็นข้อมูลปลอมที่ปะปนไปในข้อมูลที่ขายด้วย ผู้ต้องหายังอ้างว่า สามารถขายเครื่องส่งสัญญาณข้อความผ่าน SMS รวมถึงจะมีการขายแอปพลิเคชันที่สามารถบันทึกใบหน้าผู้เข้าใช้เพื่อนำไปสแกนกดเงินบัญชีธนาคาร ตำรวจจะนำไปขยายผลว่ามีการทำได้หรือไม่ แต่เบื้องต้นจากหลักฐานที่ตรวจสอบผ่านคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ ยังไม่พบว่าไม่สามารถทำได้จริง รวมถึงจากการตรวจสอบต้นตอการซื้อขายรายชื่อ ที่ผู้ต้องหาซื้อมาและกลุ่มที่ซื้อจากผู้ต้องหาไป เบื้องต้นยังไม่พบว่าเกี่ยวข้องกับ จ.ส.ท.เขมรัตน์ บุญช่วย หรือ 9เนียร์ ที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ เรื่องการขายข้อมูลส่วนบุคคล 55 ล้านรายชื่อ อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง จับอดีตรปภ.อ้างเป็นผกก.เชียงราย ลวงเงินหมอเกษียณ 101 ล้าน ล้วงข้อมูล! มิจฉาชีพสวมรอย สปสช. แจ้งสิทธิ "ตรวจมะเร็งปากมดลูก" ทลาย "เสาเถื่อน" ลอบปล่อยสัญญาณให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชายแดน เบอร์แปลกอย่ารับ! เตือนภัยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข่มขู่ นศ.เรียกค่าไถ่ 6 เรื่องต้องรู้ ไม่ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ หลอกติดตั้งแอปฯ ดูดเงิน ผู้ประกาศข่าวถูกหลอกติดตั้งแอปฯ ดูดเงินสูญกว่า 1 ล้านบาท ค้น 7 จุด ทลายเครือข่ายฟอกเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อายัดทรัพย์ 90 ล้าน
วันนี้ (9 ม.ค.67) นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ในฐานะ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการ ลาออกจา
วันนี้ (5 ธ.ค.2566) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรบริเวณท้องสนามหลวง
วันนี้ (24 ส.ค.66) ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) ควบคุมตัวนายศุภากรณ์ หรือ ปลื้ม อาย
วันนี้ (24 ส.ค.66) ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) ควบคุมตัวนายศุภากรณ์ หรือ ปลื้ม อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาในความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หลังสืบสวนพบว่าเป็นผู้ที่ขายข้อมูลส่วนบุคคลให้ผู้อื่น พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวได้ขยายผลมาจากการจับกุมนายผดุงเกียรติ หรือ เบนซ์ ที่จับได้ก่อนหน้านี้ ซึ่งก่อเหตุขายข้อมูลส่วนบุคคลกว่า 2 ล้านรายชื่อ ทั้งข้อมูลรายชื่อ เบอร์โทรศัพท์ และอีเมล์ ให้กับกลุ่มธุรกิจผิดกฎหมาย เว็บพนันออนไลน์ แก๊งคอลเซนเตอร์ เพื่อที่จะนำไปใช้ติดต่อหลอกลวงประชาชน ตำรวจได้ขยายผลจนทราบว่า ผู้ต้องหาเป็นกลุ่มเดียวกับกลุ่มของนายปลื้ม เจ้าของเฟซบุ๊กชื่อ "งานการไม่ทำ รำอย่างเดียว" และพบหลักฐานการตกลงซื้อขายข้อมูลกว่า 2 ล้านรายชื่อ เพื่อขายให้กับผู้ต้องหาที่เคยถูกจับก่อนหน้านี้ในราคา 7,000 บาท จากการสอบปากคำเบื้องต้น พบว่า นายปลื้ม เป็นคนกลางที่รับซื้อข้อมูลมาจากกลุ่มลูกค้าที่เคยซื้ออาหารเสริมยี่ห้อดังแบรนด์หนึ่ง และรับซื้อมาจากกลุ่มธุรกิจสีเทา ซึ่งตามคำกล่าวอ้างบอalpha88 affiliateกว่าซื้อมา 15 ล้านรายชื่อ ก่อนนำมาแบ่งขายเป็นแพ็กเกจให้กับกลุ่มที่สนใจในเว็บไซต์ใต้ดิน และเคยขายได้เดือนละ 4 แสนบาท บางส่วนเป็นข้อมูลปลอมที่ปะปนไปในข้อมูลที่ขายด้วย ผู้ต้องหายังอ้างว่า สามารถขายเครื่องส่งสัญญาณข้อความผ่าน SMS รวมถึงจะมีการขายแอปพลิเคชันที่สามารถบันทึกใบหน้าผู้เข้าใช้เพื่อนำไปสแกนกดเงินบัญชีธนาคาร ตำรวจจะนำไปขยายผลว่ามีการทำได้หรือไม่ แต่เบื้องต้นจากหลักฐานที่ตรวจสอบผ่านคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ ยังไม่พบว่าไม่สามารถทำได้จริง รวมถึงจากการตรวจสอบต้นตอการซื้อขายรายชื่อ ที่ผู้ต้องหาซื้อมาและกลุ่มที่ซื้อจากผู้ต้องหาไป เบื้องต้นยังไม่พบว่าเกี่ยวข้องกับ จ.ส.ท.เขมรัตน์ บุญช่วย หรือ 9เนียร์ ที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ เรื่องการขายข้อมูลส่วนบุคคล 55 ล้านรายชื่อ อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง จับอดีตรปภ.อ้างเป็นผกก.เชียงราย ลวงเงินหมอเกษียณ 101 ล้าน ล้วงข้อมูล! มิจฉาชีพสวมรอย สปสช. แจ้งสิทธิ "ตรวจมะเร็งปากมดลูก" ทลาย "เสาเถื่อน" ลอบปล่อยสัญญาณให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชายแดน เบอร์แปลกอย่ารับ! เตือนภัยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข่มขู่ นศ.เรียกค่าไถ่ 6 เรื่องต้องรู้ ไม่ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ หลอกติดตั้งแอปฯ ดูดเงิน ผู้ประกาศข่าวถูกหลอกติดตั้งแอปฯ ดูดเงินสูญกว่า 1 ล้านบาท ค้น 7 จุด ทลายเครือข่ายฟอกเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อายัดทรัพย์ 90 ล้าน
“ชาเบิกเนตร” เมนูใหม่ แห่งร้านกาแฟประจำพรรคก้าวไกล เป็นชาสำหรับคนตื่นรู้ ที่ได้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัต