Home
|
เว็บ ใหม่ แจก เครดิต ฟรี 2020 เว็บ ใหม่ แจก เครดิต ฟรี 2020

วันนี้ (22 มี.ค.2568) ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือกโซ

เว็บ ใหม่ แจก เครดิต ฟรี 2020 เว็บ ใหม่ แจก เครดิต ฟรี 2020

วันนี้ (12 ต.ค.66) เวลา 10.00 น. นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ กองบัญชาการกองทัพไทย และสายการบินเพื่อสรุปแผนอพยพคนไทยกว่า 5,000 ค

วันนี้ (22 พ.ค.2567) สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระคติธรรมเนื่องในวันวิสาขบูชา วันพุธที่ 22 พ.ค.2567 ความว่า เนื่องในดิถีวิสาขบูชา วันพุธ ที่ 22 พ.ค.2567 เจ้าพระคุ

เมื่อวันที่ 24 พ.ย.2564 มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และวันเดอร์แมน ธอมสัน ประเทศไทย จัดกิจกรรมรณรงค์เนื่องในวันยุติความรุนแรงต่อสตรีสากล ซึ่งตรงกับวันที่ 25 พ.ย.ของทุกปี ภายใต้แนวคิด “ความรุนแรงในบ้าน ให้มันจบที่ครั้งแรก” พร้อมจัดแสดงพิพิธภัณฑ์เสมือนจริง “Museum of First Time” รูปแบบออนไลน์ สะท้อนความรุนแรงจากการทำร้ายร่างกายที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง ทำให้สังคมตระหนักถึงปัญหาที่ส่งผลกระทบด้านลบในชีวิต และหันมาเปลี่ยนค่านิยมไร้ความรุนแรงสู่การมีสุขภาวะที่ดีน.ส.รุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ รักษาการผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สสส. กล่าวว่า ข้อมูลจากมูลนิธิหญิงชายก้าวไกลในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2563 พบว่า ช่วง COVID-19 เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นปัจจัยร่วมที่ทำให้ผู้หญิงถูกกระทำความรุนแรง และเกือบ 100% ถูกทำร้ายร่างกายซ้ำและทวีความรุนแรงขึ้น โดยความรุนแรงในครอบครัวที่มีต่อเด็กและผู้หญิง 80% เกิดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะมีฤทธิ์ทำให้ผู้ดื่มขาดสติจนอาจเป็นเหตุทำให้เกิดการกระทบกระทั่งในครอบครัว โดยปัญหาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มี 4 มิติ ได้แก่ 1.ทำลายสุขภาพ 2.เสี่ยงทำให้เกิดอุบัติเหตุ 3.เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ และ 4.ความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งส่งผลกระทบต่อการขัดขวางการมีสุขภาวะดีในชีวิต ทั้งนี้ สสส.และภาคีเครือข่ายขอเชิญชวนทุกท่านเข้าไปร่วมชมนิทรรศการ เรื่องราวของผู้หญิงที่ถูกกระทำความรุนแรงซ้ำๆ และชี้ให้เห็นความสำคัญ ของปัญหาความรุนแรงในครอบครัว ที่ต้องให้มันจบในครั้งแรก ตลอดจนการเข้าไปแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและให้กำลังใจกันและกันได้ทาง www.museumof1sttime.com น.ส.จรีย์ ศรีสวัสดิ์ หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมภาคีเครือข่าย มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่า จากการสำรวจความรุนแรงในครอบครัวช่วง COVID-19 ในช่วงวันที่ 17 – 23 ต.ค.2564 ที่ผ่านมา ในกลุ่มตัวอย่างอายุ 20 ปีขึ้นไป จำนวน 1,692 คน ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล พบครอบครัวที่มีความรุนแรงมากกว่า 1 ครั้ง สูงถึง 75% โดยผู้ได้รับความรุนแรนส่วนใหญ่ตอบโต้ด้วยความรุนแรงกลับไป 52.2% และยังพบผู้กระทำขณะเมาเหล้า 31.4% อย่างไรก็ตาม ที่น่าเป็นห่วงคือ ผู้ได้รับความรุนแรง 87.4% ไม่เคยขอความช่วยเหลือหรือปรึกษาจากหน่วยงานใด เพราะต้องการเก็บเป็นความลับ ไม่รู้วิธีขอความช่วยเหลือ และคิดว่าติดต่อไปก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ รวมถึงการใช้อำนาจลดปัจจัยจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยการบังคับใช้กฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 รวมถึง รณรงค์ให้ผู้หญิงได้เข้าถึงสิทธิ มีทางออก มีพื้นที่ มีหน่วยงานที่คอยให้ความช่วยเหลือ ทั้งนี้ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกลพร้อมช่วยเหลือทั้งทางกฎหมายและการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ซึ่งติดต่อได้ทาง 02-513-2889 หรือ Facebook “มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล” หรือโทร.สายด่วน 1300 จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทางมูลนิธิฯ มีข้อเสนอให้กระบวนการยุติธรรมต้องมีกลไกทำให้ความรุนแรงไม่ถูกมองว่าเป็นเรื่องปกติ และทำให้สังคมมองปัญหาความรุนแรงให้ชัดเจนเข้าใจ ไม่ใช่แค่เรื่องไกล่เกลี่ย รวมถึงกเว็บ ใหม่ แจก เครดิต ฟรี 2020 เว็บ ใหม่ แจก เครดิต ฟรี 2020ารปรับวิธีคิดชายเป็นใหญ่ การใช้อำนาจ ลดปัจจัยจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และรณรงค์ให้ผู้หญิงได้เข้าถึงสิทธิ มีทางออก มีพื้นที่ มีหน่วยงานที่คอยให้ความช่วยเหลือ น.ส.ชนิกานต์ สิทธิอารีย์ ผู้ร่วมก่อตั้งวันเดอร์แมน ธอมสัน ประเทศไทย กล่าวว่า หากมีความรุนแรงเกิดขึ้นในบ้านครั้งแรกแล้วฝ่ายชายจะขอโทษและให้คำสัญญาส่วนใหญ่ผู้หญิงจะยอมให้อภัย เพราะคิดว่าจะไม่มีอีก แต่ความจริงพบว่าเมื่อมีความรุนแรงเกิดขึ้นครั้งแรกแล้ว มักจะมีครั้งต่อไปเสมอ และเพิ่มระดับความรุนแรงมากขึ้น หลายรายถึงขั้นเสียชีวิต จึงนำเรื่องราว “ครั้งแรกของผู้หญิง” หรือ “Museum of First Time” มาถ่ายทอดในพิพิธภัณฑ์เสมือนจริง โดยผู้สนใจสามารถเข้าชมผลงานได้ที่ www.museumof1sttime.com และหวังให้ผู้หญิงที่ถูกทำร้ายกล้าลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อสิทธิของตัวเอง เพื่อให้เกิดเป็นสังคมที่มีความเท่าเทียมทางเพศ ด้าน น.ส.ตวิษา ปานแม้น อายุ 32 ปี ผู้ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงในครอบครัว กล่าวว่า ช่วงอายุ 17 ปี คบกับแฟนที่อายุห่างกันมากกว่า 10 ปี ดื่มแอลกอฮอล์กันทั้งคู่ทำให้เกิดการทะเลาะกันบ่อยและถี่ขึ้น แต่เพราะความรักจึงตกลงแต่งงาน หลังจากนั้นสามีดื่มเหล้าหนักและนานทำให้การใช้ความรุนแรงมีมากจนในที่สุดทนไม่ไหวต้องขอเลิก แต่ตรวจพบว่าตั้งครรภ์ก่อนเลยตัดสินใจอยู่ด้วยกันต่อ และคิดว่าลูกจะเปลี่ยนพฤติกรรมสามีได้แต่สุดท้ายก็เป็นแบบเดิม จึงตัดสินใจออกจากเส้นทางความรุนแรงในครอบครัว หลังจากเลิกกัน เรามีแฟนใหม่ คนนี้ก็กินเหล้าทะเลาะกันแบบเดิมจนเลิกกันไป จึงตัดสินใจเลิกเหล้าเด็ดขาด ปัจจุบันมีครอบครัวอีกครั้งสามีไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ เลยคิดว่าปัญหาส่วนหนึ่งมาจากเราที่พาตัวเองไปอยู่ในวงจรแบบนั้น จึงขอฝากถึงผู้หญิงให้รักตัวเอง ถ้าถูกทำร้ายอย่าทน อย่าคิดว่าความรักจะเปลี่ยนใครได้

บรรยากาศภายในสถานีรถไฟแกรนด์ เซ็นทรัล ในนิวยอร์ก สหรัฐฯ แน่นขนัดไปด้วยกลุ่มผู้ประท้วงหลายพันคน หลังจ

เมื่อวันที่ 24 พ.ย.2564 มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.

ภาพจากคลิปวิดีโอถูกเผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ เป็นภาพจากงานปาร์ตี้ในธีม "เกือบเปลือย" ที่จัดขึ้นในไนท

เมื่อวันที่ 24 พ.ย.2564 มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และวันเดอร์แมน ธอมสัน ประเทศไทย จัดกิจกรรมรณรงค์เนื่องในวันยุติความรุนแรงต่อสตรีสากล ซึ่งตรงกับวันที่ 25 พ.ย.ของทุกปี ภายใต้แนวคิด “ความรุนแรงในบ้าน ให้มันจบที่ครั้งแรก” พร้อมจัดแสดงพิพิธภัณฑ์เสมือนจริง “Museum of First Time” รูปแบบออนไลน์ สะท้อนความรุนแรงจากการทำร้ายร่างกายที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง ทำให้สังคมตระหนักถึงปัญหาที่ส่งผลกระทบด้านลบในชีวิต และหันมาเปลี่ยนค่านิยมไร้ความรุนแรงสู่การมีสุขภาวะที่ดีน.ส.รุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ รักษาการผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สสส. กล่าวว่า ข้อมูลจากมูลนิธิหญิงชายก้าวไกลในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2563 พบว่า ช่วง COVID-19 เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นปัจจัยร่วมที่ทำให้ผู้หญิงถูกกระทำความรุนแรง และเกือบ 100% ถูกทำร้ายร่างกายซ้ำและทวีความรุนแรงขึ้น โดยความรุนแรงในครอบครัวที่มีต่อเด็กและผู้หญิง 80% เกิดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะมีฤทธิ์ทำให้ผู้ดื่มขาดสติจนอาจเป็นเหตุทำให้เกิดการกระทบกระทั่งในครอบครัว โดยปัญหาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มี 4 มิติ ได้แก่ 1.ทำลายสุขภาพ 2.เสี่ยงทำให้เกิดอุบัติเหตุ 3.เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ และ 4.ความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งส่งผลกระทบต่อการขัดขวางการมีสุขภาวะดีในชีวิต ทั้งนี้ สสส.และภาคีเครือข่ายขอเชิญชวนทุกท่านเข้าไปร่วมชมนิทรรศการ เรื่องราวของผู้หญิงที่ถูกกระทำความรุนแรงซ้ำๆ และชี้ให้เห็นความสำคัญ ของปัญหาความรุนแรงในครอบครัว ที่ต้องให้มันจบในครั้งแรก ตลอดจนการเข้าไปแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและให้กำลังใจกันและกันได้ทาง www.museumof1sttime.com น.ส.จรีย์ ศรีสวัสดิ์ หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมภาคีเครือข่าย มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่า จากการสำรวจความรุนแรงในครอบครัวช่วง COVID-19 ในช่วงวันที่ 17 – 23 ต.ค.2564 ที่ผ่านมา ในกลุ่มตัวอย่างอายุ 20 ปีขึ้นไป จำนวน 1,692 คน ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล พบครอบครัวที่มีความรุนแรงมากกว่า 1 ครั้ง สูงถึง 75% โดยผู้ได้รับความรุนแรนส่วนใหญ่ตอบโต้ด้วยความรุนแรงกลับไป 52.2% และยังพบผู้กระทำขณะเมาเหล้า 31.4% อย่างไรก็ตาม ที่น่าเป็นห่วงคือ ผู้ได้รับความรุนแรง 87.4% ไม่เคยขอความช่วยเหลือหรือปรึกษาจากหน่วยงานใด เพราะต้องการเก็บเป็นความลับ ไม่รู้วิธีขอความช่วยเหลือ และคิดว่าติดต่อไปก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ รวมถึงการใช้อำนาจลดปัจจัยจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยการบังคับใช้กฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 รวมถึง รณรงค์ให้ผู้หญิงได้เข้าถึงสิทธิ มีทางออก มีพื้นที่ มีหน่วยงานที่คอยให้ความช่วยเหลือ ทั้งนี้ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกลพร้อมช่วยเหลือทั้งทางกฎหมายและการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ซึ่งติดต่อได้ทาง 02-513-2889 หรือ Facebook “มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล” หรือโทร.สายด่วน 1300 จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทางมูลนิธิฯ มีข้อเสนอให้กระบวนการยุติธรรมต้องมีกลไกทำให้ความรุนแรงไม่ถูกมองว่าเป็นเรื่องปกติ และทำให้สังคมมองปัญหาความรุนแรงให้ชัดเจนเข้าใจ ไม่ใช่แค่เรื่องไกล่เกลี่ย รวมถึงกเว็บ ใหม่ แจก เครดิต ฟรี 2020 เว็บ ใหม่ แจก เครดิต ฟรี 2020ารปรับวิธีคิดชายเป็นใหญ่ การใช้อำนาจ ลดปัจจัยจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และรณรงค์ให้ผู้หญิงได้เข้าถึงสิทธิ มีทางออก มีพื้นที่ มีหน่วยงานที่คอยให้ความช่วยเหลือ น.ส.ชนิกานต์ สิทธิอารีย์ ผู้ร่วมก่อตั้งวันเดอร์แมน ธอมสัน ประเทศไทย กล่าวว่า หากมีความรุนแรงเกิดขึ้นในบ้านครั้งแรกแล้วฝ่ายชายจะขอโทษและให้คำสัญญาส่วนใหญ่ผู้หญิงจะยอมให้อภัย เพราะคิดว่าจะไม่มีอีก แต่ความจริงพบว่าเมื่อมีความรุนแรงเกิดขึ้นครั้งแรกแล้ว มักจะมีครั้งต่อไปเสมอ และเพิ่มระดับความรุนแรงมากขึ้น หลายรายถึงขั้นเสียชีวิต จึงนำเรื่องราว “ครั้งแรกของผู้หญิง” หรือ “Museum of First Time” มาถ่ายทอดในพิพิธภัณฑ์เสมือนจริง โดยผู้สนใจสามารถเข้าชมผลงานได้ที่ www.museumof1sttime.com และหวังให้ผู้หญิงที่ถูกทำร้ายกล้าลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อสิทธิของตัวเอง เพื่อให้เกิดเป็นสังคมที่มีความเท่าเทียมทางเพศ ด้าน น.ส.ตวิษา ปานแม้น อายุ 32 ปี ผู้ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงในครอบครัว กล่าวว่า ช่วงอายุ 17 ปี คบกับแฟนที่อายุห่างกันมากกว่า 10 ปี ดื่มแอลกอฮอล์กันทั้งคู่ทำให้เกิดการทะเลาะกันบ่อยและถี่ขึ้น แต่เพราะความรักจึงตกลงแต่งงาน หลังจากนั้นสามีดื่มเหล้าหนักและนานทำให้การใช้ความรุนแรงมีมากจนในที่สุดทนไม่ไหวต้องขอเลิก แต่ตรวจพบว่าตั้งครรภ์ก่อนเลยตัดสินใจอยู่ด้วยกันต่อ และคิดว่าลูกจะเปลี่ยนพฤติกรรมสามีได้แต่สุดท้ายก็เป็นแบบเดิม จึงตัดสินใจออกจากเส้นทางความรุนแรงในครอบครัว หลังจากเลิกกัน เรามีแฟนใหม่ คนนี้ก็กินเหล้าทะเลาะกันแบบเดิมจนเลิกกันไป จึงตัดสินใจเลิกเหล้าเด็ดขาด ปัจจุบันมีครอบครัวอีกครั้งสามีไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ เลยคิดว่าปัญหาส่วนหนึ่งมาจากเราที่พาตัวเองไปอยู่ในวงจรแบบนั้น จึงขอฝากถึงผู้หญิงให้รักตัวเอง ถ้าถูกทำร้ายอย่าทน อย่าคิดว่าความรักจะเปลี่ยนใครได้

วันนี้ (26 พ.ค.2565) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โซเชียลพากันแชร์โพสต์เซอร์ไพรส์นโยบายหาเสียงของพรรคพลังประ