สหประชาชาติ ห่วงเกิดการฆ่าล้างแค้นในลิเบีย ฝ่ายกบฏ

วันนี้ (24 เม.ย.2567) พญ.จุไร วงศ์สวัสดิ์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ ผู้ช่วยอธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมด้วย นพ.วีรวัฒน์ มโนสุทธิ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ โฆษกกรมควบคุมโรค ร่วมแถลงข่าว “เกาะติดสถานการณ์โรคและภัยสุขภาพท
วันนี้ (18 ต.ค.2565) ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) เปิดเผยกับไทยพีบีเอส ถ
นนี้ (1 เม.ย.2564) สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ระงับการส่งคนกลับประเทศเมียนมา ภายหลังเกิดสถานการณ์ความรุนแรง โดยสรุปสาระสำคัญดังนี้ สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรียกร้องให้รัฐภูมิภาคคุ้มครองผู้หนีความรุนแรงในเมียนมา และให้การรับรองว่าผู้ลี้ภัยและผู้โยกย้ายถิ่นฐานที่ไม่มีเอกสารรับรองสถานะ จะไม่ถูกบังคับส่งกลับ ขณะที่สถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศเมียนมากำลังถดถอยอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ทหารเมียนมาทำรัฐประหารยึดอำนาจ เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์ความรุนแรงในเมียนมาแล้วอย่างน้อย 510 คน และมีผู้ที่ถูกควบคุมตัวอีกกว่า 2,600 คน การสู้รบครั้งใหม่เกิดขึ้นระหว่างทหารและกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธ รวมถึงรัฐกะเหรี่ยง ซึ่งการโจมตีทางอากาศในพื้นที่ดังกล่าว ทำให้พลเรือนหลายพันคน ต้องหนีภัยออกจากเมียนมา ขณะที่สำนักงานเพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ได้รับรายงานว่า มีผู้แสวงหาความปลอดภัยบางคนถูกบังคับส่งกลับประเทศ ซินเทีย เวลิโก ผู้แทนประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำนักงานเพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ณ กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ไม่ควรมีผู้ใดต้องเสี่ยงถูกส่งกลับไปยังประเทศเมียนมา เมื่อชีวิต ความปลอดภัย และสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของพวกเขากำลังถูกคุกคาม และถึงเวลาที่จะยืนเคียงข้างประชาชนจากเมียนมา พร้อมขอให้ทุกประเทศรับรองว่า ผู้แสวงหาที่พักพิงทุกคนจะสามารถเข้าถึงการคุ้มครองที่พวกเขามีสิทธิจะได้รับตามกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งรัฐในภูมิภาคนี้ควรช่วยเหลือและหลีกเลี่ยงการขัดขวางหรือผลักดันผู้ที่มุ่งหาความปลอดภัย ทั้งเส้นทางบกหรือทางน้ำ ขณะที่สถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนประเทศเมียนมาทวีความรุนแรงอย่างมาก รัฐในภูมิภาคควรระงับการเนรเทศระหว่างที่วิกฤตในเมียนมายังคงดำเนินต่อไป และหาทางเลือกสำหรับกักกันผู้โยกย้ายถิ่นฐานที่ไม่มีเอกสารรับรองสถานะ โดยไม่มีการคุมขังและมีความปลอดภัย ข่าวที่เกี่ยวข้อง “เมียนมา” ข้ามสาละวินแล้วไปไหน? ท่าทีไทยต่เว็บ การ พนัน ออนไลน์อปัญหาผู้หนีภัยจากการสู้รบชายแดนตะวันตก เปิดใจ "หญิงกะเหรี่ยง 18 ปี" นาทีเครื่องบินกองทัพเมียนมาโจมตี
นับตั้งแต่นี้ต่อไป ยุโรปต้องรวมพลรวมพลังเพื่อรักษาเอกภาพแห่งดินแดนของยูเครน เพราะอนาคตของยูเครนมีผลโ
วันนี้ (14 ม.ค.2565) นายจีระพัฒน์ พันธุ์ทวี เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เปิดเผยว่า ศาลยุติธรรมมีแผน
วันนี้ (16 ส.ค.2565) กลุ่มชายใส่เสื้อที่มีข้อความว่า กรมการปกครอง และ อส.กาญจนบุรี เข้ารื้อถอนอาคารร
นนี้ (1 เม.ย.2564) สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ระงับการส่งคนกลับประเทศเมียนมา ภายหลังเกิดสถานการณ์ความรุนแรง โดยสรุปสาระสำคัญดังนี้ สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรียกร้องให้รัฐภูมิภาคคุ้มครองผู้หนีความรุนแรงในเมียนมา และให้การรับรองว่าผู้ลี้ภัยและผู้โยกย้ายถิ่นฐานที่ไม่มีเอกสารรับรองสถานะ จะไม่ถูกบังคับส่งกลับ ขณะที่สถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศเมียนมากำลังถดถอยอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ทหารเมียนมาทำรัฐประหารยึดอำนาจ เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์ความรุนแรงในเมียนมาแล้วอย่างน้อย 510 คน และมีผู้ที่ถูกควบคุมตัวอีกกว่า 2,600 คน การสู้รบครั้งใหม่เกิดขึ้นระหว่างทหารและกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธ รวมถึงรัฐกะเหรี่ยง ซึ่งการโจมตีทางอากาศในพื้นที่ดังกล่าว ทำให้พลเรือนหลายพันคน ต้องหนีภัยออกจากเมียนมา ขณะที่สำนักงานเพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ได้รับรายงานว่า มีผู้แสวงหาความปลอดภัยบางคนถูกบังคับส่งกลับประเทศ ซินเทีย เวลิโก ผู้แทนประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำนักงานเพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ณ กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ไม่ควรมีผู้ใดต้องเสี่ยงถูกส่งกลับไปยังประเทศเมียนมา เมื่อชีวิต ความปลอดภัย และสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของพวกเขากำลังถูกคุกคาม และถึงเวลาที่จะยืนเคียงข้างประชาชนจากเมียนมา พร้อมขอให้ทุกประเทศรับรองว่า ผู้แสวงหาที่พักพิงทุกคนจะสามารถเข้าถึงการคุ้มครองที่พวกเขามีสิทธิจะได้รับตามกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งรัฐในภูมิภาคนี้ควรช่วยเหลือและหลีกเลี่ยงการขัดขวางหรือผลักดันผู้ที่มุ่งหาความปลอดภัย ทั้งเส้นทางบกหรือทางน้ำ ขณะที่สถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนประเทศเมียนมาทวีความรุนแรงอย่างมาก รัฐในภูมิภาคควรระงับการเนรเทศระหว่างที่วิกฤตในเมียนมายังคงดำเนินต่อไป และหาทางเลือกสำหรับกักกันผู้โยกย้ายถิ่นฐานที่ไม่มีเอกสารรับรองสถานะ โดยไม่มีการคุมขังและมีความปลอดภัย ข่าวที่เกี่ยวข้อง “เมียนมา” ข้ามสาละวินแล้วไปไหน? ท่าทีไทยต่เว็บ การ พนัน ออนไลน์อปัญหาผู้หนีภัยจากการสู้รบชายแดนตะวันตก เปิดใจ "หญิงกะเหรี่ยง 18 ปี" นาทีเครื่องบินกองทัพเมียนมาโจมตี
นนี้ (1 เม.ย.2564) สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉี