เพื่อไทยเล็งนัด 8 พรรคถกต้น ส.ค. รับ สส.-สว.ไม่เอาก้าวไกล

ท่ามกลางบรรยากาศการหาเสียงของพรรคการเมืองต่าง ๆ สำหรับวาระการเลือกตั้ง 2566 ที่มีมาต่อเนื่องและคึกคักเป็นพิเศษในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพราะแต่ละพรรคเน้นลงพื้นที่กันอย่างเข้มข้นก่อนถึงวันเลือกตั้ง 14 พ.ค.

วันนี้ (15 มี.ค.2566) เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) สนธิ

วันนี้ (3 ธ.ค.2564) นายซูการ์โน มะทา ประธานคณะกรรมาธิการการกระจายอำนาจ การปกครองส่วนท้องถิ่น และการบริหารราชการรูปแบบพิเศษ และนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล เลขานุการคณะ กมธ.การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน

ท่ามกลางบรรยากาศการหาเสียงของพรรคการเมืองต่าง ๆ สำหรับวาระการเลือกตั้ง 2566 ที่มีมาต่อเนื่องและคึกคักเป็นพิเศษในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพราะแต่ละพรรคเน้นลงพื้นที่กันอย่างเข้มข้นก่อนถึงวันเลือกตั้ง 14 พ.ค.นั้น นายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ในขณะที่ประชาชนกำลังขุ่นเคืองกับวิกฤตคอร์รัปชัน แต่พรรคการเมืองกลับนิ่งเฉยหรือแสร้งไม่รู้ร้อนที่จะพูดถึงนโยบายปราบคอร์รัปชันเพื่อเรียกคะแนนเสียง ทั้งที่นักการเมืองคือยอดพิระมิดของการฉ้อราษฎร์บังหลวง เพราะมีทั้งอำนาจและอิทธิพลที่จะปราบคนโกงให้อยู่หมัดหรือจะทำชั่วปล้นชาติเสียเองก็ได้ ดังนั้นองค์กรฯ และภาคีเครือข่าย จึงร่วมกันรณรงค์ขยายผลเสียงสะท้อนความต้องการของประชาชนจากผลโพล โดยร้อยละ 95 บอกว่า นโยบายต่อต้านคอร์รัปชันของพรรคและนักการเมือง มีผลต่อการตัดสินใจลงคะแนนเลือกตั้งมากที่สุด ทั้งนี้ ผลโพลดังกล่าว หรือ “ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อนโยบายต่อต้านคอร์รัปชันของพรรคการเมืองและนักการเมืองในการเลือกตั้ง 2566” นั้น มาจากความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) และมูลนิธิเพื่อ“คนไทย” โดยได้จัดทำและเผยแพร่ผลแล้วเมื่อต้นเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งผลสำรวจครั้งนี้แตกต่างจากผลสำรวจครั้งก่อนหน้านี้ตรงที่ประชาชนบอกว่า ปัญหาสำคัญของประเทศต้องแก้ไขมากสุด คือ คอร์รัปชัน ส่วนอันดับ 2 การศึกษา อันดับ 3 ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ นอกจากนั้น ยังมีเสียงสะท้อนมากถึงร้อยละ 91 ระบุว่า ภาคการเมืองจะต้องมีบทบาทต้านโกงชัดเจน และร้อยละ 86.2 ระบุว่า หากพรรคไม่มีนโยบายต้านโกงจะไม่เลือกพรรคนั้นเพราะไม่โปร่งใสตั้งแต่แรก เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ กล่าวอีกว่า จนถึงขณะนี้ การที่พรรคการเมืองส่วนใหญ่ยังไม่มีการประกาศนโยบายการต่อต้านคอร์รัปชันชัดเจน สาเหตุน่าจะมาจากคอร์รัปชันจึงเป็นเรื่องที่สังคมจับจ้อง จะพูดทีเล่นทีจริงไม่ได้ และหมดยุคแล้วกับคำพูดหวานหูแต่เลื่อนลอย เช่น จป๊อก เด้ง ออนไลน์ ขั้น ต่ํา 10 บาทะบริหารบ้านเมืองอย่างโปร่งใส ยึดหลักธรรมาภิบาล มีอุดมการณ์ จะรักษาความซื่อสัตย์ สำหรับพรรคที่ได้คะแนนเสียงจากประชาชนเพราะเชื่อมั่นในนโนบายต่อต้านคอร์รัปชัน สุดท้ายไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้านจะถูกประชาชนติดตามทวงถามว่าเรื่องนั้น ๆ ลงมือทำจริงหรือไม่ เกิดเป็นผลงานแล้วหรือยัง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า หากทำแล้วแต่ติดขัดประชาชนย่อมให้การสนับสนุน ทางกลับกัน หากคนในพรรคไปคดโกงปล้นชาติเสียเอง ประชาชนจะยิ่งก่นด่าประนามเป็นทวีคูณ และจะสูญเสียความเชื่อมั่นศรัทธาที่ประชาชนมีต่อพรรคและนักการเมืองลงอย่างชัดเจน ดังตัวอย่างที่มีให้เห็นมากมาย สามารถศึกษาผลโพล “ความเห็นประชาชนต่อนโยบายต่อต้านคอร์รัปชันของพรรคการเมืองและนักการเมืองในการเลือกตั้ง 2566” [กดลิงค์เพื่ออ่านข้อมูล: http://bit.ly/3mym1Km.]

วันนี้ (13 ก.พ. 2567)นพ.โอกาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลัง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หารือร่วมกับ นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสปสช. และ 5 เครือแพทย์ ทั้ง เค