Bekasi dan sekitarnya – Hari inicuacadi Bekasi cer

วันนี้ (22 ส.ค.2567) นายไพศาล หงษ์ทอง ผู้ช่วยผู้จัดการและโฆษกธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. ให้ความสำคัญในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ปัจจ
วันนี้ (23 พ.ค.2564) ความคืบหน้ากรณีพบเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์อินเดีย ในแคมป์คนงานเขตหลักสี่ โดยวันนี้ เป็นการเปิดจุดคัดกรองเป็นกรณีพิเศษ สำหรับตรวจคัดกรองรอบ 2 ให้กับแรงงานภายในแคมป์คนงานก่อสร้างที่ม
เมื่อวันที่ 2 มี.ค.2566 ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ สำนักข่าว BBC รายงานผลการพิจารณาคดีของ "อเล็กซ์ เมอร์ดอจ" วัย 54 ปี อดีตทนายความชื่อดัง ทายาทตระกูลเก่าแก่ เจ้าของรุ่นที่ 4 บริษัทว่าความใหญ่ในสหรัฐฯ เป็นผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมภรรยาและลูกชายคนเล็กของตัวเองที่บ้านพักส่วนตัวบริเวณโลว์คันทรีในรัฐเซาท์แคโรไลนา สหรัฐฯ ซึ่งทำให้ เมอร์ดอจผู้เป็นพ่อ ต้องโทษจำคุก 30 ปีไม่รอลงอาญา เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.2564 อเล็กซ์ เมอร์ดอจ แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เขาพบศพของ แม็กกี้ เมอร์ดอจ ภรรยาวัย 52 ปี และ พอล เมอร์ดอจ ลูกชายคนที่ 2 วัย 22 ปี เสียชีวิตใกล้กับคอกสุนัขในที่ดินของครอบครัวเขาเอง และเขายืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของทั้ง 2 คน แต่หลังจากผ่านไป 1 ปี อเล็กซ์ เมอร์ดอจ ถูกตั้งข้อหาเมื่อเดือนกรกฎาคม 2565 ในข้อหาฆาตกรรม 2 กระทง และอีก 2 กระทงในข้อหาครอบครองอาวุธขณะก่ออาชญากรรมรุนแรง ในวันที่ 2 มี.ค.2566 อัยการของรัฐระบุว่า อเล็กซ์ เมอร์ดอจ ยิงทั้งคู่ในระยะประชิดด้วยปืนไรเฟิลและปืนลูกซอง และคณะลูกขุนตัดสินว่าเขามีความผิดในทุกข้อกล่าวหา ทำให้เขาต้องโทษจำคุก 30 ปีโดยไม่รอลงอาญา และอัยการเลือกที่จะไม่ลงโทษประหารชีวิตแก่เขา มีการเรียกพยานมากกว่า 60 ปากเพื่อให้การกับเจ้าหน้าที่ ภายใต้คำปฏิเสธของ อเล็กซ์ เมอร์ดอจ ที่อ้างว่าในวันเกิดเหตุ เขาไม่ได้อยู่ในที่คอกสุนัข (พื้นที่เกิดเหตุ) และไม่ได้อยู่กับครอบครัวของเขาในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ เขากำลังนอนหลับอยู่คนเดียวอยู่ในบ้านพัก ภาพประกอบเหตุการณ์ ภาพประกอบเหตุการณ์ ส่วนทางเจ้าหน้าที่สืบสวนก็ไม่พบอาวุธก่อเหตุในที่ก่อเหตุ แต่ทางอัยการอาศัยหลักฐานแวดล้อม เช่น ข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือและกระสุนปืนที่ตกในที่เกิดเหตุ รวมถึงคลิปวิดีโอความยาว 5 นาที ที่ พอล เมอร์ดอจ ลูกชายคนที่ 2 ของผู้ก่อเหตุได้บันทึกไว้ ซึ่งอัยการได้ใช้คลิปนี้เป็นหลักฐาน ยืนยันเอาผิดกับ อเล็กซ์ เมอร์ดอจ และทำให้เขารับสารภาพว่าก่อเหตุสะเทือนขวัญจนกลายเป็นคดีดังข้ามปีของสหรัฐฯ นอกจากการจัดฉากฆาตกรรมครอบครัวตัวเองแล้ว อเล็กซ์ เมอร์ดอจ กำลังถูกสอบสวนเพิ่มว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์การเสียชีวิตในปี 2561 ของ "กลอเรีย แซตเตอร์ฟิลด์" แม่บ้านประจำครอบครัวหรือไม่ หลังจากที่ครอบครัวเมอร์ดอจ ให้การกับตำรวจว่า แม่บ้านของพวกเขาเสียชีวิตจากการเดินสะดุดสุนัขและตกบันไดจนเสียชีวิต จากนั้น อเล็กซ์ เมอร์ดอจ ยังสนับสนุนให้ลูกๆ ของเธอฟ้องบริษัทประกันของตระกูลเมอร์ดอจ ให้จ่ายเงิน 4.3 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 150 ล้านบาท) แต่ทางครอบครัวแซตเตาราง แข่งขัน ยู ฟ่า แช ม เปีย น ส์ ลีก 2020ตอร์ฟิลด์ ไม่เคยได้รับเงินค่าประกันแม้แต่น้อยเลย และสุดท้าย อเล็กซ์ เมอร์ดอจ ยอมรับว่าเขาเก็บไว้ทั้งหมดเอง ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรื้อคดีนี้อีกครั้ง นอกจากนั้น ยังพบว่า อเล็กซ์ เมอร์ดอจ ได้เคยว่าจ้าง "เอ็ดดี้ สมิธ" คนจัดสวนของครอบครัว ให้จัดหาซื้อยาเสพติดให้ตนเองเป็นประจำ โดยเขาอ้างต่อศาลว่า เขาจำเป็นต้องใช้มันเพื่อลดความเครียด และส่งผลให้เขามีอาการหวาดระแวงต่อสิ่งรอบข้าง แต่มากไปกว่านั้น ในเดือนกันยายน 2564 เมื่อ อเล็กซ์ เมอร์ดอจ วางแผนจัดฉากฆาตกรรมตัวเองโดยทำให้เป็นอุบัติเหตุเสมือนว่าตนเองถูกยิงโดย เอ็ดดี้ สมิธ ที่ยิงเขาที่ด้านหลังศีรษะ เพื่อให้เงินประกันทั้งหมดไปตกอยู่กับลูกชายคนแรก "บัสเตอร์ เมอร์ดอจ" วัย 26 ปี แต่สุดท้ายแผนการนี้ก็ไม่เกิดขึ้นจริงโดยไม่มีการระบุถึงสาเหตุของการจัดฉากฆาตกรรมที่ล้มเหลวครั้งนี้ มีการแสดงหลักฐานการยักยอกเงินของ อเล็กซ์ เมอร์ดอจ ต่อศาล พบว่าในปี 2562 เพียงปีเดียว อเล็กซ์ เมอร์ดอจ ยักยอกเงินจำนวนมากจากลูกค้าและเพื่อนร่วมงาน รวม 3.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 130 ล้านบาท) ซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพและอ้างว่าไม่เกี่ยวข้องกับข้อหาฆาตกรรม แต่ทางอัยการโต้แย้งว่าเป็นอาชญากรรมเหล่านี้คือสิ่งผลักดันให้ไปสู่การฆาตกรรม ประกอบกับเหตุการณ์ในอดีตทั้งคดีการเสียชีวิตของแม่บ้านและการไหว้วานคนจัดสวนให้ร่วมกันก่อเหตุ "บัสเตอร์ เมอร์ดอจ" ถูกวางตัวเป็นทายาทรุ่นที่ 5 ของการสืบทอดธุรกิจบริษัทว่าความของตระกูลเมอร์ดอจ ทุกครั้งที่ เมอร์ดอจผู้เป็นพ่อต้องเข้าฟังการพิจารณาคดี ตลอด 20 เดือนหลังการสูญเสียแม่และน้องชายคนเล็ก บัสเตอร์จะเดินทางไปพร้อมพ่อของเขาทุกครั้ง และเขายังเป็นพยานปากเอกยืนยันความบริสุทธิ์ของพ่ออีกด้วย แต่หลังจากการพิจารณาคดีสิ้นสุดลง BBC บรรยายว่า เขาเป็นเหมือนความรักที่ "ถูกทำลาย" จากการฆาตกรรมของแม็กกี้และพอลและตอนนี้ บัสเตอร์ ก็ไม่เหลือใครแล้ว หลังจากที่ อเล็กซ์ เมอร์ดอจ ต้องใช้ชีวิตที่เหลือภายในเรือนจำ ที่มา : BBC อ่านข่าวต่างประเทศเพิ่ม : "สหรัฐฯ" จับชาย 40 ปี ซุกระเบิดในกระเป๋าเตรียมโหลดขึ้นเครื่องบิน เรือท่องเที่ยวจากขยะพลาสติก ในยูกันดา
เมื่อวันที่ 2 มี.ค.2566 ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ สำนักข่าว BBC รายงานผลการพิจารณาคดีของ "อเล็กซ์ เมอร์ด
วันที่ 9 พ.ย.2565 ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บ
รมว.คลังเผยต้องแก้กฎหมายหากตั้ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเผยอาจต้องแก้ไขกฎหมายเพื่อนำเงินทุนสำรอง
เมื่อวันที่ 2 มี.ค.2566 ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ สำนักข่าว BBC รายงานผลการพิจารณาคดีของ "อเล็กซ์ เมอร์ดอจ" วัย 54 ปี อดีตทนายความชื่อดัง ทายาทตระกูลเก่าแก่ เจ้าของรุ่นที่ 4 บริษัทว่าความใหญ่ในสหรัฐฯ เป็นผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมภรรยาและลูกชายคนเล็กของตัวเองที่บ้านพักส่วนตัวบริเวณโลว์คันทรีในรัฐเซาท์แคโรไลนา สหรัฐฯ ซึ่งทำให้ เมอร์ดอจผู้เป็นพ่อ ต้องโทษจำคุก 30 ปีไม่รอลงอาญา เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.2564 อเล็กซ์ เมอร์ดอจ แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เขาพบศพของ แม็กกี้ เมอร์ดอจ ภรรยาวัย 52 ปี และ พอล เมอร์ดอจ ลูกชายคนที่ 2 วัย 22 ปี เสียชีวิตใกล้กับคอกสุนัขในที่ดินของครอบครัวเขาเอง และเขายืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของทั้ง 2 คน แต่หลังจากผ่านไป 1 ปี อเล็กซ์ เมอร์ดอจ ถูกตั้งข้อหาเมื่อเดือนกรกฎาคม 2565 ในข้อหาฆาตกรรม 2 กระทง และอีก 2 กระทงในข้อหาครอบครองอาวุธขณะก่ออาชญากรรมรุนแรง ในวันที่ 2 มี.ค.2566 อัยการของรัฐระบุว่า อเล็กซ์ เมอร์ดอจ ยิงทั้งคู่ในระยะประชิดด้วยปืนไรเฟิลและปืนลูกซอง และคณะลูกขุนตัดสินว่าเขามีความผิดในทุกข้อกล่าวหา ทำให้เขาต้องโทษจำคุก 30 ปีโดยไม่รอลงอาญา และอัยการเลือกที่จะไม่ลงโทษประหารชีวิตแก่เขา มีการเรียกพยานมากกว่า 60 ปากเพื่อให้การกับเจ้าหน้าที่ ภายใต้คำปฏิเสธของ อเล็กซ์ เมอร์ดอจ ที่อ้างว่าในวันเกิดเหตุ เขาไม่ได้อยู่ในที่คอกสุนัข (พื้นที่เกิดเหตุ) และไม่ได้อยู่กับครอบครัวของเขาในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ เขากำลังนอนหลับอยู่คนเดียวอยู่ในบ้านพัก ภาพประกอบเหตุการณ์ ภาพประกอบเหตุการณ์ ส่วนทางเจ้าหน้าที่สืบสวนก็ไม่พบอาวุธก่อเหตุในที่ก่อเหตุ แต่ทางอัยการอาศัยหลักฐานแวดล้อม เช่น ข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือและกระสุนปืนที่ตกในที่เกิดเหตุ รวมถึงคลิปวิดีโอความยาว 5 นาที ที่ พอล เมอร์ดอจ ลูกชายคนที่ 2 ของผู้ก่อเหตุได้บันทึกไว้ ซึ่งอัยการได้ใช้คลิปนี้เป็นหลักฐาน ยืนยันเอาผิดกับ อเล็กซ์ เมอร์ดอจ และทำให้เขารับสารภาพว่าก่อเหตุสะเทือนขวัญจนกลายเป็นคดีดังข้ามปีของสหรัฐฯ นอกจากการจัดฉากฆาตกรรมครอบครัวตัวเองแล้ว อเล็กซ์ เมอร์ดอจ กำลังถูกสอบสวนเพิ่มว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์การเสียชีวิตในปี 2561 ของ "กลอเรีย แซตเตอร์ฟิลด์" แม่บ้านประจำครอบครัวหรือไม่ หลังจากที่ครอบครัวเมอร์ดอจ ให้การกับตำรวจว่า แม่บ้านของพวกเขาเสียชีวิตจากการเดินสะดุดสุนัขและตกบันไดจนเสียชีวิต จากนั้น อเล็กซ์ เมอร์ดอจ ยังสนับสนุนให้ลูกๆ ของเธอฟ้องบริษัทประกันของตระกูลเมอร์ดอจ ให้จ่ายเงิน 4.3 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 150 ล้านบาท) แต่ทางครอบครัวแซตเตาราง แข่งขัน ยู ฟ่า แช ม เปีย น ส์ ลีก 2020ตอร์ฟิลด์ ไม่เคยได้รับเงินค่าประกันแม้แต่น้อยเลย และสุดท้าย อเล็กซ์ เมอร์ดอจ ยอมรับว่าเขาเก็บไว้ทั้งหมดเอง ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรื้อคดีนี้อีกครั้ง นอกจากนั้น ยังพบว่า อเล็กซ์ เมอร์ดอจ ได้เคยว่าจ้าง "เอ็ดดี้ สมิธ" คนจัดสวนของครอบครัว ให้จัดหาซื้อยาเสพติดให้ตนเองเป็นประจำ โดยเขาอ้างต่อศาลว่า เขาจำเป็นต้องใช้มันเพื่อลดความเครียด และส่งผลให้เขามีอาการหวาดระแวงต่อสิ่งรอบข้าง แต่มากไปกว่านั้น ในเดือนกันยายน 2564 เมื่อ อเล็กซ์ เมอร์ดอจ วางแผนจัดฉากฆาตกรรมตัวเองโดยทำให้เป็นอุบัติเหตุเสมือนว่าตนเองถูกยิงโดย เอ็ดดี้ สมิธ ที่ยิงเขาที่ด้านหลังศีรษะ เพื่อให้เงินประกันทั้งหมดไปตกอยู่กับลูกชายคนแรก "บัสเตอร์ เมอร์ดอจ" วัย 26 ปี แต่สุดท้ายแผนการนี้ก็ไม่เกิดขึ้นจริงโดยไม่มีการระบุถึงสาเหตุของการจัดฉากฆาตกรรมที่ล้มเหลวครั้งนี้ มีการแสดงหลักฐานการยักยอกเงินของ อเล็กซ์ เมอร์ดอจ ต่อศาล พบว่าในปี 2562 เพียงปีเดียว อเล็กซ์ เมอร์ดอจ ยักยอกเงินจำนวนมากจากลูกค้าและเพื่อนร่วมงาน รวม 3.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 130 ล้านบาท) ซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพและอ้างว่าไม่เกี่ยวข้องกับข้อหาฆาตกรรม แต่ทางอัยการโต้แย้งว่าเป็นอาชญากรรมเหล่านี้คือสิ่งผลักดันให้ไปสู่การฆาตกรรม ประกอบกับเหตุการณ์ในอดีตทั้งคดีการเสียชีวิตของแม่บ้านและการไหว้วานคนจัดสวนให้ร่วมกันก่อเหตุ "บัสเตอร์ เมอร์ดอจ" ถูกวางตัวเป็นทายาทรุ่นที่ 5 ของการสืบทอดธุรกิจบริษัทว่าความของตระกูลเมอร์ดอจ ทุกครั้งที่ เมอร์ดอจผู้เป็นพ่อต้องเข้าฟังการพิจารณาคดี ตลอด 20 เดือนหลังการสูญเสียแม่และน้องชายคนเล็ก บัสเตอร์จะเดินทางไปพร้อมพ่อของเขาทุกครั้ง และเขายังเป็นพยานปากเอกยืนยันความบริสุทธิ์ของพ่ออีกด้วย แต่หลังจากการพิจารณาคดีสิ้นสุดลง BBC บรรยายว่า เขาเป็นเหมือนความรักที่ "ถูกทำลาย" จากการฆาตกรรมของแม็กกี้และพอลและตอนนี้ บัสเตอร์ ก็ไม่เหลือใครแล้ว หลังจากที่ อเล็กซ์ เมอร์ดอจ ต้องใช้ชีวิตที่เหลือภายในเรือนจำ ที่มา : BBC อ่านข่าวต่างประเทศเพิ่ม : "สหรัฐฯ" จับชาย 40 ปี ซุกระเบิดในกระเป๋าเตรียมโหลดขึ้นเครื่องบิน เรือท่องเที่ยวจากขยะพลาสติก ในยูกันดา
จรวด Atlas V (five) พายาน "สตาร์ไลเนอร์" (Starliner) ของบริษัท Boeing ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า จากศูนย์อว