วันนี้ (15 เม.ย.2568) บรรยากาศสงกรานต์ยังคึกคัก หลายพื้นที่เล่นน้ำชุ่มฉ่ำ ขณะเดียวกันประชาชนบางส่วนท
วันนี้ (3 ก.ย.2564) นางพนิดา ทองสุข รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร รักษาการแทน ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ตามที่ ศบค.มีมติผ่อนคลายกิจการกิจกรรมบางส่วน ให้สามารถดำเนินการได้ เช่น
เมื่อวันที่ 5 เม.ย.2565 ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย, สมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย, สมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย, สมาคมเวชบำบัดวิกฤตแห่งประเทศไทย และสมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ออกหนังสือแถลงการณ์ร่วม หลังมีข้อความเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ว่า วัคซีนโควิด-19 ที่ฉีดเข็ม 3 หรือ 4 ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ ขณะที่การป้องกันอาการรุนแรงหรือเสียชีวิตก็เริ่มเป็นที่สงสัย เนื่องจากการฉีดวัคซีนมากเกินจนอาจกลายเป็นภูมิคุ้มกันที่เข้าข้างกับไวรัสหรือไม่ ท่าทีของทั้ง 5 องค์กร มีความห่วงใยในความเห็นดังกล่าว ที่อาจสร้างความเข้าใจผิดเรื่องวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชน โดยระบุว่า ประสิทธิผลของวัคซีนโควิด-19 ลดลงอย่างมากในผู้ที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มเกินกว่า 3 เดือน จึงควรได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน แม้จะไม่สามารถป้องกันโอมิครอนได้ 100% แต่สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้เพิ่มขึ้น ที่สำคัญสามารถลดการนอนโรงพยาบาล การเกิดปอดอักเสบ และการเสียชีวิต ได้ดีกว่าฉีด 2 เข็มมาก ส่วนการได้รับวัคซีนที่มากเกินไปจะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันที่ไม่ดีต่อร่างกายและกลายเป็นภูมิคุ้มกันที่เข้าข้างกับไวรัส 5 องค์กรวิชาชีพ ยืนยัน ยังไม่มีข้อมูลงานวิจัยขนาดใหญ่และการศึกษาในโลกแห่งความจริงที่แสดงหลักฐานชัดเจน ถึงแม้ในปัจจุบันจะมีความพยายามผลิตวัคซีนโควิด-19 รุ่นใหม่ ที่มีประสิทธิภาพดีต่อเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน แต่ยังคงอยู่ในระหว่างการศึกษาจึงยังคงมีความจำเป็นที่ต้องกระตุ้นด้วยวัคซีน ที่ผลิตสำหรับสายพันธุ์ดั้งเดิมไปก่อน องค์กรวิชาชีพทั้ง 5 องค์กร จึงขอสนับสนุนให้ประชาชนรับวัคซีนเข็มกระตุ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน เพื่อเตรียมพร้อมก่อนเทศกาลสงกรานต์ สำหรับ 5 องค์กรที่ได้ออกแถลงการณ์ร่วม เป็นองค์กรวิชาชีพทางการแพทย์ ที่มีสมาชิกเป็นแพทย์ผู้ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 เป็นหลัก ในช่วงที่มีเครดิต ฟรี 20 บาท ไม่ ต้อง แชร์2pjokerการะบาดตลอด 2 ปีที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 5 เม.ย.2565 ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย, สมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย, สมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย, สมาคมเวชบำบัดวิกฤตแห่งประเทศไทย และสมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชู