วันนี้ (24 ก.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ตรวจการ

กรณีเพจชมรมแพทย์ชนบท อ้างว่าแฮกเกอร์ GOD user โพสต์ขายข้อมูลผู้ป่วยของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) 2.2ล้าน record หลุดจากไหนยังไม่รู้ วันนี้ (19 มี.ค.2567) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีเพจชม
แพทย์เตือนผู้ปกครองเลือกใช้ขวดนมที่ไร้สารตะกั่ว สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีระบุว่าอุปกรณ์สำหรับเด็กโดยเฉพาะพลาสติกจากขวดนมมีสารตะกั่วปนเปื้อนสูง ซึ่งมีผลทำให้ฮอร์โมนเพศ และการเจริญเติบโตบกพร่อง
ศาลฎีกาสั่งจำคุก 50 ปีแฮกเกอร์แก้ไขระบบเติมเงินทรูมูฟกว่า 105 ล้านบาท ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 3 แฮกเกอร์แก้ไขวงเงิน ระบบเติมเงินทรูมูฟ 105 ล้านบาท ศาลฎีกาสั่งจำคุก 50 ปีแฮกเกอร์แก้ไขระบบเติมเงินทรูมูฟกว่า 105 ล้านบาท วันนี้ (13 ก.ค.2558) บริษัท ทรู มูฟ จำกัด แจ้งว่า สืบเนื่องจากคดีหมายเลขแดงที่ อ.4948/2551 ศาลอาญา ระหว่าง พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 โจทก์ บริษัท ทรู มูฟ จำกัด โจทก์ร่วม นายทวีทรัพย์ ลลิตศศิวิมล จำเลยที่ 1 นายปรเมศ วิทยากร จำเลยที่ 2 และนายฉัตรชัย บูรณะดิษ จำเลยที่ 3 โจทก์ฟ้องจำเลยทั้ง 3 ฐานร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ร่วมกันปลอมบัตรอิเล็กทรอนิกส์ มีไว้เพื่อจำหน่ายบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม ร่วมกันฉ้อโกงโดยการโจรกรรมข้อมูลชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน เข้าระบบข้อมูลของ บริษัท ทรู มูฟ จำกัด เพื่อเข้าไปแก้ไขวงเงินการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบเติมเงินให้มีมูลค่าสูงขึ้น 105 ล้านบาทและได้นำออกไปจำหน่าย 12 ล้านบาทเศษ ทำให้บริษัท ทรู มูฟ จำกัด ได้รับความเสียหาย ขณะนี้ คดีถึงที่สุดแล้วโดยศาลอาญาได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2558 ให้ จำคุกจำเลยที่ 1 ฐานร่วมกันปลอมบัตรอิเล็กทรอนิกส์และกระทำความผิดฐานร่วมกันจำหน่ายหรือมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม รวม 48 กรรม จำคุกกระทงละ 2 ปี เป็นจำคุก 96 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 3 แล้วจำคุก 64 ปี แต่ให้ลงโทษจำคุก 50 ปี ตามที่กฎหมายกำหนด จำคุกจำเลยที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนความผิดฐานปลอมบัตรอิเล็กทรอนิกส์และกระทำความผิดฐานร่วมกันจำหน่ายหรือมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม รวม 16 กรรม จำคุกกระทงละ 2 ปี เป็นจำคุก 32 ปีลดโทษให้ 1 ใน 3 แล้วจำคุก 21 ปี 4 เดือน จำเลยที่ 3 กระทำความผิดฐานร่วมกันจำหน่ายหรือมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม รวม 4 กรรม จำคุกกระทงละ 2 ปี เป็นจำคุก 8 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 3 แล้วจำคุก 5 ปี 4 เดือน วันนี้ (13 ก.ค.2558) บริษัท ทรู มูฟ จำกัด แจ้งว่า สืบเนื่องจากคดีหมายเลขแดงที่ อ.4948/2551 ศาลอาญา ระหว่าง พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 โจทก์ บริษัท ทรู มูฟ จำกัด โจทก์ร่วม นายทวีทรัพย์ ลลิตศศิวิมล จำเลยที่ 1 นายปรเมศ วิทยากร จำเลยที่ 2 และนายฉัตรชัย บูรณะดิษ จำเลยที่ 3 โจทก์ฟ้องจำเลยทั้ง 3 ฐานร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ร่วมกันปลอมบัตรอิเล็กทรอนิกส์ มีไว้เพื่อจำหน่ายบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม ร่วมกันฉ้อโกงโดยการโจรกรรมข้อมูลชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน เข้าระบบข้อมูลของ บริษัท ทรู มูฟ จำกัด เพื่อเข้าไปแก้ไขวงเงินการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบเติมเงินให้มีมูลค่าสูงขึ้น 105 ล้านบาทและได้นำออกไปจำหน่าย 12 ล้านบาทเศษ ทำให้บริษัท ทรู มูฟ จำกัด ได้รับควา2pigs slotsuperslot แจก ฟรีมเสียหาย ขณะนี้ คดีถึงที่สุดแล้วโดยศาลอาญาได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2558 ให้ จำคุกจำเลยที่ 1 ฐานร่วมกันปลอมบัตรอิเล็กทรอนิกส์และกระทำความผิดฐานร่วมกันจำหน่ายหรือมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม รวม 48 กรรม จำคุกกระทงละ 2 ปี เป็นจำคุก 96 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 3 แล้วจำคุก 64 ปี แต่ให้ลงโทษจำคุก 50 ปี ตามที่กฎหมายกำหนด จำคุกจำเลยที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนความผิดฐานปลอมบัตรอิเล็กทรอนิกส์และกระทำความผิดฐานร่วมกันจำหน่ายหรือมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม รวม 16 กรรม จำคุกกระทงละ 2 ปี เป็นจำคุก 32 ปีลดโทษให้ 1 ใน 3 แล้วจำคุก 21 ปี 4 เดือน จำเลยที่ 3 กระทำความผิดฐานร่วมกันจำหน่ายหรือมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม รวม 4 กรรม จำคุกกระทงละ 2 ปี เป็นจำคุก 8 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 3 แล้วจำคุก 5 ปี 4 เดือน
ศาลฎีกาสั่งจำคุก 50 ปีแฮกเกอร์แก้ไขระบบเติมเงินทรูมูฟกว่า 105 ล้านบาท ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 3 แฮกเกอร์
วันนี้ (26 ม.ค.2567) นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิด
หลังจากที่ผลการคะแนนการเลือกตั้ง 2566 อย่างไม่เป็นทางการ พรรคก้าวหน้าเป็นพรรคคะแนนอันดับ 1 ซึ่ง ส.ส.
ศาลฎีกาสั่งจำคุก 50 ปีแฮกเกอร์แก้ไขระบบเติมเงินทรูมูฟกว่า 105 ล้านบาท ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 3 แฮกเกอร์แก้ไขวงเงิน ระบบเติมเงินทรูมูฟ 105 ล้านบาท ศาลฎีกาสั่งจำคุก 50 ปีแฮกเกอร์แก้ไขระบบเติมเงินทรูมูฟกว่า 105 ล้านบาท วันนี้ (13 ก.ค.2558) บริษัท ทรู มูฟ จำกัด แจ้งว่า สืบเนื่องจากคดีหมายเลขแดงที่ อ.4948/2551 ศาลอาญา ระหว่าง พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 โจทก์ บริษัท ทรู มูฟ จำกัด โจทก์ร่วม นายทวีทรัพย์ ลลิตศศิวิมล จำเลยที่ 1 นายปรเมศ วิทยากร จำเลยที่ 2 และนายฉัตรชัย บูรณะดิษ จำเลยที่ 3 โจทก์ฟ้องจำเลยทั้ง 3 ฐานร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ร่วมกันปลอมบัตรอิเล็กทรอนิกส์ มีไว้เพื่อจำหน่ายบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม ร่วมกันฉ้อโกงโดยการโจรกรรมข้อมูลชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน เข้าระบบข้อมูลของ บริษัท ทรู มูฟ จำกัด เพื่อเข้าไปแก้ไขวงเงินการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบเติมเงินให้มีมูลค่าสูงขึ้น 105 ล้านบาทและได้นำออกไปจำหน่าย 12 ล้านบาทเศษ ทำให้บริษัท ทรู มูฟ จำกัด ได้รับความเสียหาย ขณะนี้ คดีถึงที่สุดแล้วโดยศาลอาญาได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2558 ให้ จำคุกจำเลยที่ 1 ฐานร่วมกันปลอมบัตรอิเล็กทรอนิกส์และกระทำความผิดฐานร่วมกันจำหน่ายหรือมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม รวม 48 กรรม จำคุกกระทงละ 2 ปี เป็นจำคุก 96 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 3 แล้วจำคุก 64 ปี แต่ให้ลงโทษจำคุก 50 ปี ตามที่กฎหมายกำหนด จำคุกจำเลยที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนความผิดฐานปลอมบัตรอิเล็กทรอนิกส์และกระทำความผิดฐานร่วมกันจำหน่ายหรือมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม รวม 16 กรรม จำคุกกระทงละ 2 ปี เป็นจำคุก 32 ปีลดโทษให้ 1 ใน 3 แล้วจำคุก 21 ปี 4 เดือน จำเลยที่ 3 กระทำความผิดฐานร่วมกันจำหน่ายหรือมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม รวม 4 กรรม จำคุกกระทงละ 2 ปี เป็นจำคุก 8 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 3 แล้วจำคุก 5 ปี 4 เดือน วันนี้ (13 ก.ค.2558) บริษัท ทรู มูฟ จำกัด แจ้งว่า สืบเนื่องจากคดีหมายเลขแดงที่ อ.4948/2551 ศาลอาญา ระหว่าง พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 โจทก์ บริษัท ทรู มูฟ จำกัด โจทก์ร่วม นายทวีทรัพย์ ลลิตศศิวิมล จำเลยที่ 1 นายปรเมศ วิทยากร จำเลยที่ 2 และนายฉัตรชัย บูรณะดิษ จำเลยที่ 3 โจทก์ฟ้องจำเลยทั้ง 3 ฐานร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ร่วมกันปลอมบัตรอิเล็กทรอนิกส์ มีไว้เพื่อจำหน่ายบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม ร่วมกันฉ้อโกงโดยการโจรกรรมข้อมูลชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน เข้าระบบข้อมูลของ บริษัท ทรู มูฟ จำกัด เพื่อเข้าไปแก้ไขวงเงินการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบเติมเงินให้มีมูลค่าสูงขึ้น 105 ล้านบาทและได้นำออกไปจำหน่าย 12 ล้านบาทเศษ ทำให้บริษัท ทรู มูฟ จำกัด ได้รับควา2pigs slotsuperslot แจก ฟรีมเสียหาย ขณะนี้ คดีถึงที่สุดแล้วโดยศาลอาญาได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2558 ให้ จำคุกจำเลยที่ 1 ฐานร่วมกันปลอมบัตรอิเล็กทรอนิกส์และกระทำความผิดฐานร่วมกันจำหน่ายหรือมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม รวม 48 กรรม จำคุกกระทงละ 2 ปี เป็นจำคุก 96 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 3 แล้วจำคุก 64 ปี แต่ให้ลงโทษจำคุก 50 ปี ตามที่กฎหมายกำหนด จำคุกจำเลยที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนความผิดฐานปลอมบัตรอิเล็กทรอนิกส์และกระทำความผิดฐานร่วมกันจำหน่ายหรือมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม รวม 16 กรรม จำคุกกระทงละ 2 ปี เป็นจำคุก 32 ปีลดโทษให้ 1 ใน 3 แล้วจำคุก 21 ปี 4 เดือน จำเลยที่ 3 กระทำความผิดฐานร่วมกันจำหน่ายหรือมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม รวม 4 กรรม จำคุกกระทงละ 2 ปี เป็นจำคุก 8 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 3 แล้วจำคุก 5 ปี 4 เดือน
วันนี้ (15 ก.พ.2566) การประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณาญัตติอภิปรายทั่วไป มีรายงานว่าฝ่ายค้านเตรียมข้อมูลมาโ