วันนี้ (1 มิ.ย.2565) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประ

วันนี้ (2 มิ.ย.2564) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ตั้งคำถามว่าการตั้งงบ 3.1 แสนล้านบาท จะนำพาประชาชนพ้นออกจากวิกฤตได้หรือไม่ และสามารถพูดกับประชาชนได้ปีนี้จะดีว่าว่าจะพ้นจากสถานการณ์ COV
เมื่อวันที่ 18 ก.พ.2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาในการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ ม. 152 ประเด็นการพิจารณาขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ว่า ขอบคุณในข้อห่วงใ
วันนี้ (2 มิ.ย.2564) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ตั้งคำถามว่าการตั้งงบ 3.1 แสนล้านบาท จะนำพาประชาชนพ้นออกจากวิกฤตได้หรือไม่ และสามารถพูดกับประชาชนได้ปีนี้จะดีว่าว่าจะพ้นจากสถานการณ์ COVID-19 ปัญหาเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ปัญหาคนตกงาน กำลังจะดีขึ้นจริงหรือไม่ เพราะมีงบที่เพียงพอที่พร้อมต่อกรกับทุกสภาพที่เกิดขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หัวหน้าพรรคก้าวไกล ตั้งคำถามว่าเชื่อว่านับจากนี้อาจจะไม่มีประเทศไทยแบบเดิม หลายสิ่งอาจไม่มี เราต้องมาเก็บซากปรักหักพัง ของประเทศ และหยิบอิฐทีละก้อนมาก่อสร้างประเทศอีกครั้ง และต้องนับหนึ่งในระบบสาธารณสุขในการรับมือโรคระบาด และรับมือเชื้อโรคที่จะเข้ามาท้าทายระบบสาธารณสุข รวมทั้งการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ที่ต้องนับหนึ่งใหม่ พราะเศรษฐกิจกระจุกตัวใน กทม.มากกว่า 45% เมื่อกทม.เป็นอัมพาต ประเทศก็เป็นอัมพาต ไทยเจอภาวะเศรษฐกิจที่อยู่ก้นเหว ไทยอาจไม่ใช้วิธีการคิดแบบเดิมแล้ว และไม่คิดว่างบแบบเก่า ซ้ำซากจำเจ ไร้จิตนาการ จะทำให้ไทยเดินหน้าต่อไปได้ นายพิธา ระบุอีกว่า อีกคำถามคือประเทศต้องการจัดงบแบบไหนที่ทำให้ประชาชนมีความหวัง ถ้าพรรคก้าวไกล จัดทำงบจะต้องเอาประชาชนเป็นหนึ่ง หลักคิดที่ เริ่มจากกลุ่มเปราะบางที่สุดในสังคมไทย พรรคจะคิดเด็กที่หิวโหย คนแก่ที่เจ็บป่วยแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต้องทำงานเพื่อเลี้ยงลูก และร่างจากฐานคิดที่จะโอบอุ้มคนเหล่านี้ เพื่อฟื้นฟูประเทศ แต่ในความเป็นจริง อิฐก้อนแรกที่เป็นรากฐานสำคัญคืองบสวัสดิการ 3.5 หมื่นล้านบาทที่รัฐบาลตัดออกไป โดยอิฐก้อนแรกคือ คนชรา ที่ตอนนี้ได้รับเดือนละ 600 บาท และไทยกำลังเข้าสังคมผู้สูงวัยเต็มรูป และเสนอให้คนชราต้องได้สวัสดิการทุกคนถ้วนหน้าในอัตราที่มากกว่าเส้นความยากจน ไม่ใช่ผู้อนาถาที่รัฐมองเป็นแบกภาระที่ต้องช่วยเหลือ ส่วนอิฐก้อนที่ 2 เด็กปฐมวัย ซึ่งจากข้อมูลของสภาพัฒน์ฯพบว่าเด็กไทย 1 ใน 5 คน ยังยากจน และสวัสดิการเด็กต้องถ้วนหน้าไม่ให้ใครตกหล่น และรัฐประกาศไปตั้งปีก่อนประกาศว่าใช้งบ 30,000 ล้านบาท ในการจัดสวัสดิการ แต่ปีนี้ยังจัดมา 17,000 ล้านบาท วิกฤต COVID-19 ทำให้เด็กมีพัฒนาลดลง และเด็กหลุดออกจากระบบการศึกษา และสิ่งที่รับไม่ได้คือรัฐไม่แยแสกับต่อวิกฤตทางการศึกษา กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ถูกตัดงบลดลง 400 ล้านบาท หมายความว่าเด็ก 700,000 คนจะไม่ได้รับการช่วยเหลือในปีนี้ อยากถามว่าคนจัดงบจะข่มตาหลับได้อย่างไร นายพิธา กล่าวว่า ส่วนอิฐก้อนที่ 4 ด้านสาธารณสุข รัฐต้องเตรียมวัคซีนไม่ใช่แค่ 2 เข็มแต่ต้อง 3 เข็ม และจากการลงพื้นที่ชุมชนแออัดพบว่าคนไทยมีสิทธิในการรักษาชีวิตไม่เท่าเทียมกัน เจอแม่คนหนึ่งต้องนอนระเบียงนอกบ้านเพื่อไม่ให้ลูกของตัวเองติดเชื้อ จะไปโรงพยาบาลก็ไม่มีทางไปและต้องประสานหารถพยาบาลมารับ จึงอยากตั้งคำถามว่าประเทศไทยจะฟื้นจากประเทศอย่างไร หากงบกระทรวงสาธารณสุข 4,000 ล้านบาท และงบบัตรทอง อีก 2,000 ล้านบาท ทั้งที่คาดมีคนตกงาน และที่มีคนหลุดจากระบบประกันสังคมเข้ามาใช้บัตรทองมากขึ้น แทนที่จะขยับเพดานให้คนธรรมดา กับเพดานข้าราชการไม่แตกต่างกัน เมื่อรัฐสวัสดิการสร้างให้คนเข้มแข็ง และมีตาข่ายทางสังคมรองรับในยามวิกฤต ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง มีกำลังทำมาหากิน และพร้อมทำงาน เรื่องนี้ไม่ใช่สังคมสงเคราะห์ แต่เป็นสิทธิในฐานะทียู ส ทดลอง เล่น joker่เกิดมาเป็นคนไทย บนผืนแผ่นดินไทย ทุกคนมีสิทธิเข้าถึงการรักษาพยาล การศึกษาและทำมาหากินอย่างเท่าเทียมกัน นายพิธา กล่าวอีกว่า อยากฝากไปยังพรรคร่วมรัฐบาล ว่าที่ทุกคนร่วมอภิปรายวิพากษ์วิจารณ์การตัดงบสาธารณสุข งบศึกษาธิการ สวัสดิการต่าง ๆ ถ้าท่านอยากได้งบคืนให้ประชาชนของท่าน ข้อเสนอระยะสั้นคือ ส.ส.ต้องร่วมกันคว่ำร่างงบ 65 เพื่อจะได้ใช้งบ 64 ไปพลางก่อน อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง "ศุภชัย" ปูดน้อยใจนายกฯ - อัดจัดงบฯ บนหอคอย ไม่เห็นใจชาวบ้าน กลาโหม ยืนยัน 4 ปี เหตุรุนแรงลดลง จัดงบฯ ชายแดนใต้ไม่ซ้ำซ้อน "อนุพงษ์" รับ อปท.ซื้อวัคซีนได้ แต่ต้องอยู่ในแผน ศบค.
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เริ่มตั้งแต่เวลา 0
วันนี้ (16 ม.ค.2568) นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า
วันนี้ (28 ต.ค.2567) เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษจังหวัดนราธิวาส จำนวน 22 นาย เพิ่มกำลังดูแลความป
วันนี้ (2 มิ.ย.2564) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ตั้งคำถามว่าการตั้งงบ 3.1 แสนล้านบาท จะนำพาประชาชนพ้นออกจากวิกฤตได้หรือไม่ และสามารถพูดกับประชาชนได้ปีนี้จะดีว่าว่าจะพ้นจากสถานการณ์ COVID-19 ปัญหาเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ปัญหาคนตกงาน กำลังจะดีขึ้นจริงหรือไม่ เพราะมีงบที่เพียงพอที่พร้อมต่อกรกับทุกสภาพที่เกิดขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หัวหน้าพรรคก้าวไกล ตั้งคำถามว่าเชื่อว่านับจากนี้อาจจะไม่มีประเทศไทยแบบเดิม หลายสิ่งอาจไม่มี เราต้องมาเก็บซากปรักหักพัง ของประเทศ และหยิบอิฐทีละก้อนมาก่อสร้างประเทศอีกครั้ง และต้องนับหนึ่งในระบบสาธารณสุขในการรับมือโรคระบาด และรับมือเชื้อโรคที่จะเข้ามาท้าทายระบบสาธารณสุข รวมทั้งการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ที่ต้องนับหนึ่งใหม่ พราะเศรษฐกิจกระจุกตัวใน กทม.มากกว่า 45% เมื่อกทม.เป็นอัมพาต ประเทศก็เป็นอัมพาต ไทยเจอภาวะเศรษฐกิจที่อยู่ก้นเหว ไทยอาจไม่ใช้วิธีการคิดแบบเดิมแล้ว และไม่คิดว่างบแบบเก่า ซ้ำซากจำเจ ไร้จิตนาการ จะทำให้ไทยเดินหน้าต่อไปได้ นายพิธา ระบุอีกว่า อีกคำถามคือประเทศต้องการจัดงบแบบไหนที่ทำให้ประชาชนมีความหวัง ถ้าพรรคก้าวไกล จัดทำงบจะต้องเอาประชาชนเป็นหนึ่ง หลักคิดที่ เริ่มจากกลุ่มเปราะบางที่สุดในสังคมไทย พรรคจะคิดเด็กที่หิวโหย คนแก่ที่เจ็บป่วยแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต้องทำงานเพื่อเลี้ยงลูก และร่างจากฐานคิดที่จะโอบอุ้มคนเหล่านี้ เพื่อฟื้นฟูประเทศ แต่ในความเป็นจริง อิฐก้อนแรกที่เป็นรากฐานสำคัญคืองบสวัสดิการ 3.5 หมื่นล้านบาทที่รัฐบาลตัดออกไป โดยอิฐก้อนแรกคือ คนชรา ที่ตอนนี้ได้รับเดือนละ 600 บาท และไทยกำลังเข้าสังคมผู้สูงวัยเต็มรูป และเสนอให้คนชราต้องได้สวัสดิการทุกคนถ้วนหน้าในอัตราที่มากกว่าเส้นความยากจน ไม่ใช่ผู้อนาถาที่รัฐมองเป็นแบกภาระที่ต้องช่วยเหลือ ส่วนอิฐก้อนที่ 2 เด็กปฐมวัย ซึ่งจากข้อมูลของสภาพัฒน์ฯพบว่าเด็กไทย 1 ใน 5 คน ยังยากจน และสวัสดิการเด็กต้องถ้วนหน้าไม่ให้ใครตกหล่น และรัฐประกาศไปตั้งปีก่อนประกาศว่าใช้งบ 30,000 ล้านบาท ในการจัดสวัสดิการ แต่ปีนี้ยังจัดมา 17,000 ล้านบาท วิกฤต COVID-19 ทำให้เด็กมีพัฒนาลดลง และเด็กหลุดออกจากระบบการศึกษา และสิ่งที่รับไม่ได้คือรัฐไม่แยแสกับต่อวิกฤตทางการศึกษา กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ถูกตัดงบลดลง 400 ล้านบาท หมายความว่าเด็ก 700,000 คนจะไม่ได้รับการช่วยเหลือในปีนี้ อยากถามว่าคนจัดงบจะข่มตาหลับได้อย่างไร นายพิธา กล่าวว่า ส่วนอิฐก้อนที่ 4 ด้านสาธารณสุข รัฐต้องเตรียมวัคซีนไม่ใช่แค่ 2 เข็มแต่ต้อง 3 เข็ม และจากการลงพื้นที่ชุมชนแออัดพบว่าคนไทยมีสิทธิในการรักษาชีวิตไม่เท่าเทียมกัน เจอแม่คนหนึ่งต้องนอนระเบียงนอกบ้านเพื่อไม่ให้ลูกของตัวเองติดเชื้อ จะไปโรงพยาบาลก็ไม่มีทางไปและต้องประสานหารถพยาบาลมารับ จึงอยากตั้งคำถามว่าประเทศไทยจะฟื้นจากประเทศอย่างไร หากงบกระทรวงสาธารณสุข 4,000 ล้านบาท และงบบัตรทอง อีก 2,000 ล้านบาท ทั้งที่คาดมีคนตกงาน และที่มีคนหลุดจากระบบประกันสังคมเข้ามาใช้บัตรทองมากขึ้น แทนที่จะขยับเพดานให้คนธรรมดา กับเพดานข้าราชการไม่แตกต่างกัน เมื่อรัฐสวัสดิการสร้างให้คนเข้มแข็ง และมีตาข่ายทางสังคมรองรับในยามวิกฤต ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง มีกำลังทำมาหากิน และพร้อมทำงาน เรื่องนี้ไม่ใช่สังคมสงเคราะห์ แต่เป็นสิทธิในฐานะทียู ส ทดลอง เล่น joker่เกิดมาเป็นคนไทย บนผืนแผ่นดินไทย ทุกคนมีสิทธิเข้าถึงการรักษาพยาล การศึกษาและทำมาหากินอย่างเท่าเทียมกัน นายพิธา กล่าวอีกว่า อยากฝากไปยังพรรคร่วมรัฐบาล ว่าที่ทุกคนร่วมอภิปรายวิพากษ์วิจารณ์การตัดงบสาธารณสุข งบศึกษาธิการ สวัสดิการต่าง ๆ ถ้าท่านอยากได้งบคืนให้ประชาชนของท่าน ข้อเสนอระยะสั้นคือ ส.ส.ต้องร่วมกันคว่ำร่างงบ 65 เพื่อจะได้ใช้งบ 64 ไปพลางก่อน อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง "ศุภชัย" ปูดน้อยใจนายกฯ - อัดจัดงบฯ บนหอคอย ไม่เห็นใจชาวบ้าน กลาโหม ยืนยัน 4 ปี เหตุรุนแรงลดลง จัดงบฯ ชายแดนใต้ไม่ซ้ำซ้อน "อนุพงษ์" รับ อปท.ซื้อวัคซีนได้ แต่ต้องอยู่ในแผน ศบค.
ก้าวข้ามคืนปีใหม่ 2567 สู่ปีมังกรทอง ประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางไปสัมผัสแสงแรกแห่งปี ในแห